แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Covid-19 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Covid-19 แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ศบค.ชุดเล็ก เตรียมชงเปิดสถานบันเทิง-เพิ่มโซนสีเขียว

หลังจากที่มีผู้ประกอบการสถานบันเทิง ยื่นหนังสือขอ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการ ให้เปิดกิจการได้ ทางด้าน ศบค.ชุดเล็กเตรียมชงศบค. 20 พ.ค. เปิดสถานบันเทิง ปรับโซนพื้นที่เป็นสีเขียว ผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม ชี้หากติดเชื้อ-ตายลด ประกาศเป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้น

เมื่อวานนี้(19 พ.ค. 65) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือเลขาสมช. พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ได้กล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19หรือศบค.ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ว่า ในที่ประชุมรายงานผลและประเมินทิศทางการทำงาน หลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเปิดประเทศ และปรับพื้นที่โซนสีจังหวัดให้มาตรการผ่อนคลายลง จากสีส้มเป็นสีเหลืองทั้งหมด และมีพื้นที่สีใช้มาตรการสีเขียว 17 จังหวัด และที่ประชุมจะพิจารณาปรับพื้นที่โซนสีให้ผ่อนคลายมากขึ้นจากสีเหลืองเป็นสีเขียว รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีฟ้ามากขึ้น เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในบรรยากาศที่สามารถจะผ่อนคลายมาตรการได้ และจะปรับมาตรการอื่น เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเดินได้สะดวกกว่าเดิม สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้คล่องตัว ลดภาระการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายส่วนที่มีข้อกังวลและต้องจับตาคือหลังจากเปิดสถานศึกษาเต็มรูปแบบ 100%โดยเรามีมาตรการรองรับไว้

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมในวันที่20 พ.ค.ด้วย ที่ผ่านมาพิจารณามาหลายรอบแต่ทางสาธารณสุข ยังมีความกังวลอยู่ แต่ในครั้งนี้น่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยดูจากวิธีการจัดการตนเองเมื่อติดเชื้อเป็นไปด้วยดี คิดว่าน่าจะได้รับการพิจารณา

พล.อ.สุพจน์ ยังได้กล่าวต่ออีีกว่า ส่วนการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศ อยู่ในขั้นตอนพิจารณา โดยจะดูพื้นที่ปลอดภัยเป็นหลัก และประเมินตามปัจจัยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเรื่องนี้นายกฯมอบแนวทางไว้นานแล้วว่าจะต้องพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง หากพื้นที่ใดพร้อม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะพิจารณาจากปัจจัยที่วางหลักเกณฑ์ไว้

ด้านการประเมินตัวเลขทางเศรษฐกิจจะเพิ่มแค่ไหน หากมีการผ่อนคลายสถานบันเทิงพล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากข้อมูลตัวเลขผู้ประกอบอาชีพกลางคืนมีหลายล้านคน ดังนั้นตัวเลขไม่ต้องกังวลเพราะจะเพิ่มขึ้นแน่นอน อีกทั้งพื้นที่ภาคการท่องเที่ยวก็จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวด้วยสำคัญที่สุดคืออาชีพของคนไทยที่เกี่ยวข้องข้อง 10 ล้านคน จะทำให้ธุรกิจจะขยาย สำหรับการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ต้องดูการฉีดวัคซีนจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต การบริหารจัดการของแต่ละพื้นที่ การปรับตัวของประชาชน เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ โดยนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อนจะประกาศ และมีโอกาสประกาศให้เร็วขึ้น หากสถานการณ์อาจเป็นไปตามปัจจัยที่วางไว้

โดยก่อนหน้าการประชุม ศปก.ศบค. นายคทาวุธ ทองไทย หรือ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมศิลป์หอไตร พร้อมด้วย นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย ตัวแทนสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน เข้าหารือกับ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงแนวทางการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ประเทศไทย โดยเป็นการยื่นตามความประสงค์ของสมาคมและผู้ประกอบการสถานบันเทิง ที่ต้องการขอให้ผ่อนคลายมาตรการให้สถานบันเทิงสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างอาชีพสร้างรายได้ หลังได้รับผลกระทบต้องปิด ไม่ประกอบกิจการ นอกจากการ ขอเปิดกิจการสถานบันเทิง ที่จะครอบคลุมและมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ผู้ประกอบการยังขอรัฐปรับลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยผู้ประกอบการได้อีกวิธีหนึ่ง

ที่มา โพสต์ทูเดย์

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สธ.เตือนห้ามประมาท โอมิครอน(Omicron) อัพเดทลามแล้ว 37 จว.

วันนี้(30 ธันวาคม 2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดพบการติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นการติดเชื้อในประเทศ 357 ราย โดยมีจังหวัดที่พบผู้ป่วยเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นมาอีก 1 จังหวัด จากเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่พบ 33 จังหวัด รวมเป็น 34 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้นคือ จ.เพชรบูรณ์ 


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อกระจายใน 37 จังหวัดครบทั้ง 13 เขตสุขภาพแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่พบ 33 จังหวัด รวมยอดผู้ป่วยโควิด-19 โอมิครอนสะสมทั้งหมด 934 ราย ได้แก่

เขตสุขภาพที่ 1 เชียงราย 1 ราย เชียงใหม่ 7 ราย ลำปาง 1 ราย ลำพูน 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 2 เพชรบูรณ์ 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 3 พิจิตร 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 4 นนทบุรี 22 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย

เขขสุขภาพที่ 5 นครปฐม 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 4 ราย เพชรบุรี 1 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย

เขตสุขภาพที่ 6 ชลบุรี 18 ราย สมุทรปราการ 38 ราย สระแก้ว 1 ราย รอยืนยันข้อมูล 24 ราย

เขตสุขภาพที่ 7 กาฬสินธุ์ 121 ราย ขอนแก่น 12 ราย มหาสารคาม 42 ราย ร้อยเอ็ด 50 ราย รอยืนยันข้อมูล 84 ราย

เขตสุขภาพที่ 8 นครพนม 4 ราย เลย 3 ราย หนองคาย 4 ราย หนองบัวลำภู 1 ราย อุดรธานี 3 ราย

เขตสุภาพที่ 9 ชัยภูมิ 4 ราย นครราชสีมา 5 ราย บุรีรัมย์ 4 ราย สุรินทร์ 5 ราย

เขตสุขภาพที่ 10 มุกดาหาร 1 ราย ยโสธร 1 ราย อุบลราชธานี 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 11 กระบี่ 4 ราย ภูเก็ต 104 ราย สุราษฎร์ธานี 20 ราย

เขตสุขภาพที่ 12 ปัตตานี 4 ราย สงขลา 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร 325 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ข้อมูลในแอฟริกาใต้ว่า โอมิครอนความรุนแรงลดลง และอาจมาแทนที่เดลต้า ข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้คนประมาท ไม่ป้องกันตัวหรือไม่ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ประมาทไม่ได้ แม้ข้อมูลที่ออกมาจะไปในทางนั้น อัตราการติดเชื้อนอน รพ.น้อยกว่าเดลต้า ภาพรวมก็เห็นชัดว่า ผู้ป่วยหนักลดลง อย่างของไทยเกือบพันรายไม่มีเสียชีวิต มีอาการหนัก 2 คนแต่หายดีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่า ข้อมูลเหล่านี้ต้องใช้เวลา ยังเร็วไป ถ้าจะบอกว่าอันตรายน้อย สิ่งสำคัญขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ป้องกันตัวเองตลอดเวลา และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพราะแม้โอไมครอนจะหลบภูมิคุ้มกันได้ แต่วัคซีนยังคงช่วยลดความรุนแรงได้

“ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบการรักษาต่างๆ โดยเฉพาะการจัดระบบแยกกักที่บ้าน(Home Isolation) และศูนย์พักคอยในชุมชน(Community Isolation) โดยเรามีประสบการณ์จากครั้งก่อน ครั้งนี้จะมีระบบติดตามแยกคนติดเชื้อออกจากคนป่วย ใครติดเชื้อไม่มีอาการให้อยู่ HI ถ้าไม่สามารถอยู่ได้ให้เข้า CI โดยจะมีระบบคอยมอนิเตอร์อาการ หากมีอาการมากขึ้นนำส่งรพ.ทันที” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ที่มา มติชนออนไลน์



วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เจ้าแม่นาคียังขลังไหม? บทสรุปผลตรวจเชื้อและไทม์ไลน์ แต้ว ณฐพร

ผลตรวจ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ พลิกล็อก สรุปไทม์ไลน์ตั้งแต่ตรวจเจอเชื้อโควิด-19 รวมถึง เต๋า ณัฐวดี เตมีรักษ์ พี่สาวฝากถึงคนที่เคยต่อว่าน้องสาวแรง ๆ ออกมาขอโทษด้วย


หลังจากวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา นางเอกสาว แต้ว ณฐพร ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลแห่งแรกว่าพบเชื้อโควิด-19 จึงได้แจ้งผ่านทางไอจีช่วงกลางดึกวันที่ (16 ก.ค.2564)  จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรง วันรุ่งขึ้น(16 ก.ค.2564) เธอจึงได้ไปตรวจกับโรงพยาบาลแห่งที่สองอีกครั้ง ผลออกมาตอนกลางคืนว่าไม่พบเชื้อโควิด เธอจึงแจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบอีกครั้งพร้อมหลักฐานยืนยันผ่านทางไอจี โดยทาง TrueID ได้สรุปไทม์ไลน์ของนางเอกสาว ตั้งแต่วันที่ตรวจเจอเชื้อ จนถึงผลตรวจพลิกล็อก ดังนี้

วันที่ 14 ก.ค.2564 แต้ว ณฐพร ได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากต้องทำงานในวันที่ 16 ก.ค.2564 วันที่ 15 ก.ค.2564 แต้ว ณฐพร ได้โพสต์แจ้งข่าวว่าผลตรวจเป็นบวก พบเชื้อโควิด-19 พร้อมโชว์ไทม์ไลน์ย้อนหลังระหว่างวันที่ 1-15 ก.ค.2564 โดยมีเพื่อนคนบันเทิงได้ส่งกำลังใจกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่พี่สาว เต๋า ณัฐวดี ได้โพสต์แจ้งผลตรวจของเธอเป็นลบ พร้อมส่งกำลังใจให้น้องสาว และบอกเป็นห่วงคุณแม่มากที่สุด

หลังจากนั้นไม่นาน #แต้วณฐพร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทันที เพราะชาวเน็ตได้แสดงความเห็นกันถึงไทม์ไลน์ที่บอกว่าเธอใส่ไม่ครบ เพราะเคยเจอเธอและแฟนหนุ่มไฮโซทีห้างสรรพสินค้า รวมถึงแสดงความเห็นเรื่องที่โรงพยาบาลให้ดาราตรวจโควิด แต่ประชาชนทั่วไปไม่รับตรวจ นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเรื่องการกักตัว ถามกลับไหนว่ามีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้โพสต์ให้ข้อมูลว่าเป็นผู้เสี่ยงต่ำ

จนวันที่ 16 ก.ค.2564 แต้ว ณฐพร ได้อัปเดตเพิ่มเติมไทม์ไลน์อีกครั้ง โดยเพิ่มในวันที่ 6 และ 8 ก.ค.2564 พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาปกปิดข้อมูล และยังบอกอีกว่าเบื้องต้นปรึกษาแพทย์แล้ว เธอสามารถ Home Isolation ได้เอง เพราะยังไม่มีอาการใดๆ บ่งชี้แน่ชัด จึงขอสละเตียงสิทธิ์ให้เตียงกับผู้ป่วยหนักก่อน

ต่อมาช่วงกลางดึก แต้ว ณฐพร ได้โพสต์ผลตรวจหาเชื้อโควิด โรงพยาบาลแห่งที่สอง ซึ่งผลเป็นลบไม่พบเชื้อ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดแต้วจึงได้อธิบายอย่างละเอียดว่า 

"เมื่อวันที่ 15 ก.ค. แต้วได้ทราบผลจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกว่าตรวจพบเชื้อ COVID-19 แต้วได้รับการติดต่อเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งที่ 2 ซึ่งมี Hospitel รองรับจึงได้ทำเรื่องขอเข้ารับการรักษา โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการซักประวัติและอาการ ซึ่งแต้วไม่มีอาการใด ๆ รวมถึงไม่สามารถแจ้งรายละเอียดของความเสี่ยงที่ชัดเจนจนเป็นสาเหตุของการรับเชื้อมาได้ เจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นให้ ตรวจซ้ำอีกรอบ ด้วยวิธี RT PCR (swab test) และในวันนี้ (16 ก.ค.) เวลา 21:00 น. แต้วได้รับแจ้งผลการตรวจจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งที่ 2 ว่า ไม่พบเชื้อ ซึ่งผลดังกล่าวได้ผ่านการตรวจซ้ำกันถึงสองครั้ง (repeated process) เพื่อให้มั่นใจว่าผลถูกต้อง แพทย์ลงความเห็นว่าแต้วไม่นับเป็นผู้ติดเชื้อ COVID-19 และไม่ต้องเข้ารับการรักษา จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต้วได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของการรักษา รวมถึงได้เปิดเผย Timeline จากผลการตรวจในครั้งแรกไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้หลายท่านได้รับผลกระทบไปในวงกว้าง อย่างไรก็ตามแต้วต้องขออภัยในความผิดพลาดทางข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"


หลังจากนั้น เต๋า ณัฐวดี พี่่สาวของแต้วได้โพสต์แสดงความยินดีและดีใจกับน้องสาว พร้อมทั้งเรียกร้องให้คนที่เคยต่อว่าน้องสาวแรง ๆ มาขอโทษน้องสาวอีกด้วย 

ที่มา TrueID







วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

พนักงานคลังสินค้า เปิดใจเชื่อสกัดโควิดช้าเหตุแพร่นับร้อยคน

พนักงานกลุ่มเสี่ยงได้เปิดเผยเหตุการณ์เบื้องลึก คลัสเตอร์พนักงานคลังกระจายสินค้าห้างซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดัง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ติดเชื้อ 312 คน จากพนักงานกว่า 1200 คน 


โดยหนึ่งในพนักงานกลุ่มเสี่ยง เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์กับทีมข่าวว่า หากคลังสินค้าตัดสินใจปิดก่อนหน้านี้ ก็เชื่อว่าเชื้อโควิดจะไม่แพร่กระจายรวดเร็วจนเป็นเหตุทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก

หลังจากคลังกระจายสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมาก ทำให้พนักงานคลังกระจายสินค้าแห่งนี้ หลายร้อยคนต้องขึ้นรถทัวร์เพื่อไปกักตัวที่โรงแรมเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง โดยพนักงานบางส่วนเป็นผู้ที่ติดเชื้อแล้ว ต้องนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลสนาม ย่านสุขุมวิท 

โดยหนึ่งในพนักงานกลุ่มเสี่ยงที่ต้องไปกักตัวที่โรงแรม ได้เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวี ทางโทรศัพท์ว่า เธอได้มาทำงานอยู่ในคลังกระจายสินค้าแห่งนี้ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้ทราบข่าวจากพนักงานด้วยกันเองว่า มีพนักงานแผนกหนึ่งในคลังติดเชื้อ 2-3 คน เนื่องจากตอนนั้นต้องทำงานร่วมกันกับพนักงานกลุ่มดังกล่าว จึงเริ่มรู้สึกกังวลและได้พยายามขอหยุดงานแต่ทางหัวหน้าฝ่ายแจ้งว่าหากหยุดงานเกิน 3 วัน จะถูกไล่ออก จึงจำเป็นต้องทำต่อ โดยทางคลังได้ให้พนักงานที่ติดเชื้อกลับไปรักษาตัว แต่ก็ยังมีพนักงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อยังคงมาทำงานอยู่ตามปกติ หลังจากนั้นไม่นานก็มีพนักงานติดเชื้อเป็นจำนวนมาก

น.ส.เอ (นามสมมติ) ยังบอกอีกว่า ถ้าทางคลังตัดสินใจปิดตั้งแต่ช่วงแรก ตั้งแต่ที่มีพนักงานติดเชื้อแค่ไม่กี่คน สถานการณ์ก็อาจจะไม่ลุกลามบานปลายขนาดนี้ซึ่งตอนนี้เธอเป็นห่วงครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะพี่สาวซึ่งทำงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ส่วนเธอยังรอผลตรวจอยู่ แต่ที่เป็นห่วงคือคนในครอบครัวโดยเฉพาะแม่ที่สูงอายุ และหลานวัย 4 ขวบ ที่ก่อนหน้านี้ก็อยู่ด้วยกันและใกล้ชิดกัน

นอกจากนี้ คลังสินค้าได้ประกาศแจ้งกำหนดการว่า จะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ซึ่งหมายถึงว่าเธอจะต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิม ทั้งๆที่ยังกักตัวเองไม่ครบกำหนด 14 วัน จึงเกิดกังวลว่าหากยังมีพนักงานที่ติดเชื้ออยู่ ก็จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้อีก

ขณะที่ทางด้านศูนย์กระจายสินค้าโลตัส บางบัวทอง ได้ออกประกาศระบุว่า สำนักงานประกันสังคมทำการตรวจคัดกรองเชิงรุกพนักงานโลตัส และเจ้าหน้าที่ที่จ้างงานจากภายนอก (outsource) โดยทันทีที่ทราบผลการตรวจเมื่อเย็นวันที่ 9 กรกฎาคม

ศูนย์กระจายสินค้าบางบัวทองได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุก โดยเบื้องต้นได้ปิดศูนย์กระจายสินค้าโดยทันทีเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 – 16 กรกฎาคม ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งบริเวณโดยทันทีในคืนวันที่ 9 กรกฎาคม และทำความสะอาด deep cleaning ฆ่าเชื้อพื้นผิวสัมผัสทั้งหมด พร้อมทำความสะอาด ฆ่าเชื้อรถขนส่งสินค้าทั้งหมด นอกจากนี้ยังประสานงานให้พนักงานที่ติดเชื้อทั้งหมด เข้ารักษาตามกระบวนการของภาครัฐแล้ว และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเต็มที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดต่อไป

ที่มา PPTV




วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ทนายนิด้า ฟาดแรง! โควิดไม่ได้น่ากลัวเท่าผู้นำที่ดูแลประชาชนไม่ได้

ทนายนิด้า วอนภาครัฐออกมาตรการช่วยให้คนอยู่บ้าน พร้อมฟาดหนัก รัฐพึ่งพาไม่ได้แล้ว "โควิดไม่ได้น่ากลัว ผู้นำต่างหากที่น่ากลัว"


วันนี้(8 ก.ค.64) น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือทนายนิด้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิดในตอนนี้ว่า #โควิดไม่ได้น่ากลัวผู้นำต่างหากที่น่ากลัว โดยได้มีการเล่าว่า 

"เมื่อไม่นานเพิ่งได้ดูภาพที่อินเดีย ที่คนตายถูกเผารวมกันมากๆ เหมือนกองขยะ คนป่วยนั่งรอความตายเต็มล้นออกมาหน้าโรงพยาบาล เพราะเตียงไม่พอ บุคคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ แล้วนึกถึงภาพตัวเองในอนาคตอันใกล้"

"ในเมื่อรัฐดูแลเราได้ไม่ดีพอ เราคงต้องดูแลตัวเอง ตอนนี้หลายๆ หน่วยงานราชการก็ยังไม่เลื่อน ทนายก็เลื่อนไม่ได้ ขนาดบอกว่าทนายเดินทางไปจากกรุงเทพนะ เจ้าหน้าที่ก็ยังบอกว่ามาเถอะ เรามีมาตรการตรวจสอบ ตรวจแล้วไง คือถ้าไปถึงตรงนั้นแล้วพบเชื้อว่าเป็นโควิดก็เพียงแต่ไม่ให้เดินขึ้นตึก แต่ระหว่างเดินทางพวกเราสัมผัสคนกี่คน แวะไหนบ้างไม่กลัวเราแพร่เชื้อหรือได้รับเชื้อหรอคะ เราอยากเลื่อน เราอยากช่วยอยู่กับบ้าน มาตรการรัฐไม่ช่วยเราหน่อยหรอ เพราะถ้ารัฐไม่สั่งออกมา ทนายไม่ไปก็ถือว่าละทิ้งคดี"

พร้อมแจ้งข่าวถึงลูกความว่า

"ในส่วนของลูกความที่จะติดต่อจ้างว่าความ นับแต่นี้ขอทางออนไลน์เท่านั้นก่อน งดเจอ งดใกล้ชิด ถ้าไม่สะดวกจะจ้าง ติดต่อทนายความท่านอื่นก่อนก็ได้ นิด้าลูกยังเล็ก ที่ผ่านมาก็นับว่าห้าวพอสมควร เชื่อมั่น เชื่อใจ เชื่อในคำพูดของคนว่าจะไม่มีใครตายอยู่บ้านก็เลยไม่กลัว โควิดไม่น่ากลัวป่วยก็แค่รักษา เราปลูกฝังความคิดนี้มาในตอนต้น คนก็เลยไม่กลัว ปล่อยให้ตัวติดจนล้นเตียง"

ก่อนทิ้งท้ายว่า 

"ตอนนี้ไม่ได้กลัวเป็นโควิดเท่ากับกลัวผู้นำที่ดูแลประชาชนไม่ได้ อยากให้เห็นอินบ็อกซ์เข้ามาขอความช่วยเหลือเรื่องเตียงผู้ป่วยกับดารากับทนาย แปลว่ารัฐพึ่งพาไม่ได้แล้วจริงๆ ตอนนี้กลัวมากแล้วจริงๆ เหมือนคนพูดจะอยู่คนละโลกกับเรา" #ไม่มีใครตายอยู่บ้าน #ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย

ที่มา ข่าวสด












วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ด่วน !! คณะรัฐมนตรี มีมติยกเลิก "วันหยุดพิเศษ" 27 ก.ค.นี้

ครม.เคาะยกเลิก "วันหยุดพิเศษ" 27 ก.ค.นี้ เพื่อลดการเดินทางออกต่างจังหวัด ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 พร้อมสั่งให้หน่วยงานราชการอำนวยความสะดวก เรื่องการยกเลิกตั๋วการเดินทางและการจองที่พัก


วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกวันหยุดพิเศษ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไปในปี 2563 ที่กำหนดให้อังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564 เป็นวันหยุดพิเศษ เนื่องจากช่วงปลายเดือนกรกฎาคมมีวันหยุดพิเศษติดต่อกันหลายวัน ตั้งแต่ 24-28 ก.ค.

เมื่อได้มีการพิจารณาสถานการณ์การระบาดของโควิดระลอกใหม่ ทำให้ ศบค. เห็นว่าต้องมีมาตรการทางสาธารณะสุขที่เข้มงวดขึ้น และขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด จึงมีความเห็นให้ยกเลิกวันหยุดพิเศษวันที่ 27 กรกฎาคม นี้ โดยประชาชนมีการวางแผนการท่องเที่ยว ขอให้หน่วยงานราชการอำนวยความสะดวก เรื่องการยกเลิกตั๋วการเดินทางและการจองที่พัก

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ครม. เคาะจ่าย 8,500 ล้าน เยียวยาร้านอาหาร-ก่อสร้าง-ธุรกิจกลางคืน

คณะรัฐมนตรี ไฟเขียวมาตรการเยียวยาธุรกิจก่อสร้าง-ร้านอาหาร-ธุรกิจบันเทิงกลางคืน กรุงเทพและปริมณฑล 6 จังหวัด หลังจากมีคำสั่งให้ปิดแคมป์คนงาน-ผู้ประกอบการร้านอาหาร 1 เดือน เป็นจำนวนเงินกว่า 8.5 พันล้านบาท


วันนี้ (29 มิถุนายน 2564) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบเนื่องมาจากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) แก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ 6 จังหวัด กรุงเทพมหนาคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร โดยประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง, กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร, กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ, กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยรูปแบบการให้ความช่วยเหลือดังนี้

กลุ่มแรงงานผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 2,000 บาทต่อคน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือผ่านระบบประกันสังคมตามกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยเนื่องจากทางราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรค ลูกจ้างมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) ตลอดระยะเวลาที่มีคำสั่งปิดสถานที่แต่ไม่เกิน 90 วัน ผู้ประกอบการหรือนายจ้างตามหลักการให้ความช่วยเหลือจะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน

สำหรับผู้ประกอบการหรือนายจ้างที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม กรณีเป็นผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 จะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทยจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 2,000 บาทต่อคน

สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ผ่านโครงการคนละครึ่ง ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยผู้ประกอบการจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท กรณีผู้ประกอบการในหมวดร้านอาหาร เครื่องดื่มของโครงการคนละครึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง จะได้รับการช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท

สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งและมีลูกจ้างแต่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าการดำเนินการตามมาตรการให้ความช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนจะมีกรอบวงเงินรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท (พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท) รวมกับเงินกองทุนประกันสังคม วงเงิน 3,500 ล้านบาท รวมใช้งบประมาณทั้งสิ้น 8,500 ล้านบาท

ขณะที่โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ให้ดำเนินการตามแผนงานเดิมในช่วงเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564

สำหรับมาตรการให้ความส่วนเหลือในระยะต่อไป มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณารูปแบบการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศต่อไป

โดย นายอนุชากล่าวถึง กิจการด้านอื่น ๆ ซ่อมแซมต่าง ๆ เช่น ซ่อมคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สื่อสาร, โทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซ่อมเครื่องใช้ในครัวเรือน ซ่อมรองเท้า ซ่อมเครื่องหนัง ซ่อมเฟอร์นิเจอร์ ซ่อมนาฬิกา ซ่อมเครื่องแต่กาย ซ่อมจักรยานยนต์สองล้อ ซ่อมเครื่องดนตรี ซ่อมเครื่องกีฬา นอกจากนี้กิจกรรม เช่น สปา ลดน้ำหนัก การแต่งผม-ดูแลความงาม แต่งเล็บมือ-เล็บเท้า ซักรีด กิจการดูแลต่าง ๆ ทั้งหมด ก็จะถือว่าอยู่กิจกรรมด้านอื่น ๆ ที่จะได้รับการเยียวยาในครั้งนี้ด้วย

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564

พิษโควิด สาวเจ้าของร้านโกดังชาบู ไลฟ์น้ำตานอง เผยหนี้ท่วมหัว ยื้อร้านไม่ไหว

 


พิษโควิดระบาด ทำเศรษฐกิจซบเซา หลายธุรกิจสู้ต่อไม่ไหว ทยอยปิดตัว ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เว็บอีจันได้มีมีการเสนอข่าว ร้านโกดังชาบู ที่สาวเจ้าของร้านได้ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กร้าน ระบายความ อัดอั้นในใจ น้ำตาไหลอาบแก้ม ธุรกิจร้านอาหารไปต่อไม่ไหว แม้เธอจะสู้กัดฟันสู้ จนถึงที่สุดแล้ว


โดยในไลฟ์เธอเผยว่า… “ผ่านไป 3 เดือน มีปัญหาที่ต้องแก้ไข จากปัญหาที่เกิดขึ้นมาปีกว่า ที่ร้านต้องปิด ขาดรายได้มันคงสายเกินไปแล้วที่จะไปต่อ พยายามต่อสู้อดทนแล้ว ขอโทษที่ดราม่า แต่ร้านอาจจะอยู่ถึงเดือนกันยายนนี้เท่านั้น หากแบกภาระไม่ไหวจริง ๆ เป็นหนี้ท่วมหัว 4 แสนบาท”

“เคยหวังว่า เมื่อโควิดซา วันหนึ่งร้านจะกลับมาคึกคัก พยายามยื้อเอาไว้ แต่มันคงไปต่อไม่ไหวแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่ รถกำลังจะถูกยึด ตื่นเช้ามาก็มีแต่ข้อความทวงหนี้ ตอนนี้ต่อให้เปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมง ก็สู้ไม่ไหว”

โดยมีช่วงหนึ่งในไลฟ์เธอได้พูดฝากไปถึงรัฐบาลว่า… 

“เธอต่อสู้เพื่อให้มีร้านมาตลอด แต่พอเจอโควิด รัฐบาลเดี๋ยวสั่งปิด สั่งเปิด รอวัคซีนโควิด ไม่รู้จะได้ฉีดปีนี้ไหม อยากให้รัฐบาล ช่วยเหลือร้านค้าเล็กๆ หน่อย ไม่อยากให้ถึงวันปิดร้าน มันทำใจไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับ”

ที่มา www.msn.com, อีจัน





กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...