แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าววันนี้ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าววันนี้ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2566

มาแล้ว ฉายารัฐบาลปี 66 สุดจี๊ด แกง​ส้ม​ "ผลัก" รวม - เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน"

ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ได้มีการตั้งฉายารัฐบาลปี 66 ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยได้ให้ฉายา รัฐบาลว่า แกง​ส้ม​ "ผลัก" รวม, นายกฯว่า "เศรษฐา" เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน" โดยมีวาทะแห่งปี "ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย​"


เมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การตั้งฉายารัฐบาล และ รัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติ ได้มีมติร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และ วาทะแห่งปี ประจำปี 2566 ดังนี้

รัฐบาล ได้ฉายา แกง​ส้ม​ "ผลัก" รวม

"แกง" คือ คำสแลงที่ใช้แทนความหมายว่า แกล้ง "ส้ม" คือ สีของพรรคก้าวไกล ส่วนคำว่า "ผลักรวม" ล้อมาจากคำว่า "ผักรวม" เมนูแกงส้มยอดนิยมประเภทหนึ่ง เมื่อรวมกันแล้ว นิยามความหมายในทางการเมือง สะท้อนกระแสสังคม มองพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง MOU ถูกฉีก และ ถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย และ ข้ออ้างทางการเมือง ส้มจึงหล่นใส่พรรคอันดับรอง กลืนน้ำลายจัดตั้งรัฐบาล "มีลุง" ก็ไม่เป็นไร โดยให้เหตุผลเพื่อความสมานฉันท์ ทำเอาแฟนคลับผู้รักประชาธิปไตยถึงกับหัวใจสลาย ก่อเกิดวาทกรรม "ตระบัดสัตย์"

ดังนั้น แกง​ส้ม​"ผลัก"รวม จึงใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางการเมือง ของการจัดตั้งรัฐบาลที่ว่า "ชนะเลือกตั้ง แต่แพ้จัดตั้ง" ได้เป็นอย่างดี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ฉายา เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน"

นับแต่เศรษฐีที่ชื่อ "เศรษฐา" เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เดินหน้าทำงานทันที โดยเฉพาะการหารายได้เข้าประเทศ ต้องยอมรับในความมุ่งมั่นตั้งใจ คิดเร็วทำไว เดินสายพกประเทศไทยใส่กระเป๋า ไปโรดโชว์จีบนักลงทุนทั่วโลก ประกาศตัวเป็นเซลล์แมนเต็มรูปแบบ

แต่ในทางการเมือง ยังถูกมองว่า ไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง เงาของคนในตระกูล "ชินวัตร" ยังปกคลุม เปรียบเสมือนตัวแสดงแทน หรือ สแตนด์อิน เพราะเคยหลุดปากขณะออกงานพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รักของนายใหญ่ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยเช่นกัน ว่า "นายกฯ คนไหน มีนายกฯ 2 คน” อีกทั้งหลายนโยบาย ก็ถูกวิจารณ์ว่า ต่อยอดมาจากนโยบายเดิม ของรัฐบาลนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นายภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พาณิชย์ ได้ฉายา รองกอง

รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 คนที่นายกรัฐมนตรีต้องเชื่อใจ และ ปล่อยให้ดูแลทุกอย่าง เมื่อต้องออกไปเดินสายขายของในต่างประเทศ ต้องรับเละทุกงานในมิติการเมือง และ ถูกโยนให้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักหลายเรื่อง ที่นายกฯ หลายยุคหลายสมัยต้องนั่งหัวโต๊ะ

กลับกลายเป็นการประชุมครั้งแรกของรัฐบาลนี้ รองนายกฯ ที่ชื่อ "ภูมิธรรม" ต้องทำหน้าที่แทน นับตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาประมง กลุ่มพีมูฟ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ EEC หรือแม้แต่ช่วงวิกฤตนาทีชีวิตแรงงานไทยในอิสราเอล ประชุมนัดแรก ก็ยังเป็น "ท่านรอง ภูมิธรรม" ไหนจะงานหลักในกระทรวง ปัญหาของแพง ราคาอ้อย น้ำตาล อีรุงตุงนัง กองสุมอยู่รอบตัว เหมือนลองกอง ผลดก พวงยาว กิ่งใหญ่

นายสุทิน คลังแสง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​  ได้ฉายา พลิกทินสู่ดาว

ได้ยินแทบไม่เชื่อหู ใครเห็นเป็นต้องขยี้ตา เมื่อพลเมืองเต็มขั้น เคยรับเงินเดือนครู หลงใหลในดนตรีหมอลำ ผันตัวเข้าสู่แวดวงการเมือง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกองทัพ นอกจากนามสกุล "คลังแสง" ขนาดเจ้าตัวยังไม่เคยนึกฝัน ว่าชีวิตนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

แต่ด้วยบุคลิกสุภาพ ใจเย็น มืออ่อน และ ลีลาร้องรำน่าเอ็นดู จึงเข้าได้กับทหารทุกกรมกอง พลิกชีวิตลูกอีสาน สู่ดาวเจิดจรัสเฉิดฉาย ท่ามกลางเหล่าทัพได้อย่างแนบเนียน

พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงยุติธรรม ได้ฉายา ทวี สอดไส้

ยิ่งกว่านอนมา สำหรับตำแหน่งเจ้ากระทรวงยุติธรรม เต็งหนึ่งชื่อเดียว แบบไร้คู่แข่งมาตั้งแต่ต้น สะท้อนความไว้วางใจจากนายใหญ่แค่ไหน คงไม่ต้องพูดถึง

แม้จะไม่โดดเด่นในการบริหารราชการช่วง 3 เดือนแรก แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็น เอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับมารับโทษ ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ ทำให้ไม่ต้องนอนคุกแม้แต่คืนเดียว เผือกร้อนแค่ไหนคงไม่ต้องถาม มือพองแค่ไหนก็ต้องถือ กว่านายทักษิณจะออกจากคุก ต้องถูกจ้องถล่มอีกมากแค่ไหน คงไม่ต้องเดา

นายชาดา ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​  ได้ฉายา มาเฟียละเหี่ยใจ

นักการเมืองชื่อดังแห่งจังหวัดอุทัยธานี ประวัติโลดโผน ภาพจำพัวพันวงการนักเลง ถูกประทับตรามาเฟีย ผู้คนยกสถานะให้เป็นผู้ทรงอิทธิพล แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธมาโดยตลอด พร้อมให้คำจำกัดความตัวเองไว้ว่า “ ความดีพอสมควร ความชั่วพอประมาณ สันดานพอคบได้”

หน้าที่การงานในตำแหน่งรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ เป็นโต้โผปราบปราม "ผู้มีอิทธิพล" จนฮือฮากันทั้งประเทศ แต่ยังไม่ทันได้สร้างผลงาน "ลูกเขย" ก็สร้างเรื่องก่อน ถูกเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) จับกุม ในข้อหาเรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาล 2 โครงการ งานนี้เก้าอี้รัฐมนตรีร้อนระอุ เปิดแถลงข่าวภายใน 24 ชั่วโมง สั่ง "ลูกเขย" ยื่นใบลาออกทันที ไม่ต้องรอสอบสวน ลั่นเป็นลูกเขยชาดา สปิริตต้องมากกว่าคนอื่น

โดยได้ให้ "ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" เป็นวาทะแห่งปี

​นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 หลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย

โดยขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ แต่ทำงานยังไม่ถึง 4 เดือน กลับขอลาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นเวลา 4 วัน จนชาวโซเชียล อดแซวไม่ได้

หากถามนักข่าวหลายคนที่คุ้นเคย และ ตามติดภารกิจนายเศรษฐา ต่างรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ถึงคำว่า "ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" แทบทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ตามนายกฯ 3 เดือนเหมือน 3 ปี ให้สัมภาษณ์ทุกที่ ที่มีโอกาส ถึงไม่เห็นหน้าก็มาทางโซเชียล ค่ำคืนไม่พักไม่ผ่อน

โพสต์ประเด็นร้อนทันใจ "ภูเก็ตก็แค่ปากซอย" นักข่าวพิสูจน์แล้ว นายกฯ ทำได้จริง พร้อมสะท้อนปัญหาหลักของนายกฯ ที่มักบอกว่าเป็นคนพูดตรง คือ การสื่อสาร หลายครั้งนำภัยมาสู่ตน เมื่อขึ้นศักราชใหม่แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คงต้องรอติดตามกันต่อไป 

ที่มา ไทยพีบีเอส

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

พีอาร์สาว ร้องนายกฯ ถูกตำรวจเรียกเงิน-ข่มขืน แลกคดียาเสพติด

พีอาร์สาวเข้าร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดี อ้างถูกตำรวจ 7 นาย จับคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และถูกเรียกรับเงินกว่า 300,000 บาท และยังได้ถูก 1 ใน 7 ตำรวจได้พาไปข่มขืนที่โรงแรมย่านรังสิต


วันนี้ (12 ธ.ค.2566) หญิงสาวที่ตกเป็นผู้เสียหายพร้อมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมานำหลักฐานใบแจ้งความ เอกสารใบส่งตัวดำเนินคดี และรายการเดินบัญชีธนาคารมามอบให้กับ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือและติดตามคดี

โดยทางผู้เสียหาย และสามี อ้างถูกตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดปทุมธานี 7 นาย บุกค้นตัวในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านคลองห้า ถนนรังสิต นครนายก เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพบเคตามีนจำนวนหนึ่ง ก่อนถูกคุมตัวแยกขึ้นรถคนละคันกับสามี จากนั้นตำรวจได้ขอดูยอดเงินในแอปพลิเคชัน ธนาคารในโทรศัพท์ พบว่าเธอมีเงินในบัญชีมากกส่า 360,000 บาท จึงพูดข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับเธอและสามีในข้อหาหนัก ก่อนพูดหว่านล้อมเรียกรับเงิน 300,000 บาท แลกกับการดำเนินคดีในข้อหาเสพ ซึ่งมีโทษเบากว่า เธอจึงยินยอมจะจ่ายให้

หลังจากนั้นตำรวจได้พาเธอขึ้นรถตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ตัวเมืองปทุมธานี 200,000 บาท และโอนเงินไปให้บัญชีสามีไปกดเพิ่มอีก 100,000 บาท ในพื้นที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยมีตำรวจประกบตัวอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นตำรวจคนที่อยู่บนรถกับเธอแค่สองคน ได้ขอมีเพศสัมพันธ์ โดยอ้างว่าเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยเหลือวิ่งเต้น เธอปฏิเสธแต่ตำรวจข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีหากไม่ยินยอม ก่อนบังคับพาเข้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งย่านรังสิต จนสำเร็จความใคร่ และขู่บังคับเรียกเงินเพิ่มอีก 300,000 บาท ส่วนสามีถูกส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้เสพ (ยาบ้า 2 เม็ด )

โดยทางด้านสามีผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนถูกตรวจค้นจับกุม ได้ซื้อยาเสพติดมาจากนายกอล์ฟ ที่เคยซื้อขายยาเสพติดกันมาอยู่บ่อยครั้ง คาดว่าเป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจเข้ามาจับจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ภรรยาต้องเสียเงินไปกว่า 300,000 บาท และถูกข่มขืน 

หลังรับเรื่อง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ได้ประสานไปยังโฆษกอัยการสูงสุดและกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยทันที ให้ดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อุ้มหายและทรมาน ซึ่งยืนยันว่าตำรวจทั้ง 7 นายนั้นเข้าข่ายการกระทำความผิดอย่างชัดเจน เพราะระหว่างการจับกุมไม่มีการบันทึกภาพวิดีโอเป็นหลักฐานตั้งแต่กระบวนการจับกุมจนถึงขั้นตอนพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ยังได้ประสานไปทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ช่วยตรวจสอบเรื่องเส้นทางยาเสพติดเพิ่มเติม โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะถือว่าเป็นการปล่อยปละละเลยทำให้ระบบการทำงานของตำรวจเสียหาย พร้อมย้ำว่าตัวเองจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ตามรายงานได้แจ้งว่า ตำรวจชุดจับกุมมี ร้อยตำรวจตรี 1 นาย ดาบตำรวจ 3 นาย จ่าสิบตำรวจ 1 นาย สิบตำรวจเอก 2 นาย

โดยทางด้าน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำความผิดตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างมีโทษทางวินัยและอาญาต่อไป

ที่มา ไทยพีบีเอส

วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

แม่ใจจะขาด เจอคลิปสุดท้าย ก่อนลูกสาวจมน้ำตายร้องให้ช่วย คนบนฝั่งยืนมองหัวเราะกันคิกคัก

แม่ใจจะขาด เห็นคลิปสุดท้ายก่อนลูกสาวจมน้ำตาย ร้องขอให้ช่วย คนบนฝั่งยืนมองบอกปล่อยให้มันตายไปเลย


เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ผู้สูญหายในน้ำ บริเวณบ้านห้วยตาสี หมู่ที่ 6 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นคลองชลประทานลึกประมาณ 3 เมตร ชุดค้นหาใต้น้ำอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท ได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงลงค้นหาจนพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ น.ส.สุรัตวดี อายุ 32 ปี ที่อยู่ตำบลเนินขาม อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท จากนั้นนำร่างส่งมอบญาติดำเนินการทางศาสนา ณ ที่พักสงฆ์ละหานใหญ่เจริญศรี (วัดห้วยตาสี)

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2566 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก นางสุรินทร์ อายุ 52 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต หลังมีคลิปหญิงสาวกำลังจมน้ำแต่ไม่มีใครลงไปช่วยและได้จมน้ำเสียชีวิตต่อหน้าของทุกคน จึงได้มีการแจ้งกู้ภัยช่วยเหลือ โดยผู้เป็นแม่ร่ำไห้สงสัยทำไมคนถ่ายคลิปและคนยืนดูอีกหลายคนไม่ช่วยเหลือ

นางสุรินทร์ เปิดเผยว่า มีความรู้สึกคาใจว่าลูกเราตกน้ำมีคนเห็นเขาน่าจะช่วย วันนั้นเขาไปเล่นน้ำตอนมืดแล้วประมาณ 2 ทุ่ม มีคนเล่าว่าลงเล่นน้ำฝั่งนี้แล้วลื่นไปอีกฝั่งหนึ่งแล้วไปกอดต้นโสน จากนั้นหลุดจากต้นโสนลอยน้ำไป เขาร้องโอยๆ อยากให้ช่วย แต่มีคนบอกว่าลูกโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่คลิปหลุดมาไม่ใช่การฆ่าตัวตายเพราะลูกร้องให้ช่วย ซึ่งวันเกิดเหตุลูกดื่มเหล้าก่อนที่จะลงเล่นน้ำ

นางสุรินทร์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าลูกจะเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่ตอนเราได้ยินเสียงลูกร้องในคลิปแล้วรู้สึกเจ็บปวด ไม่มีใครช่วยเลย หมาตกน้ำเรายังช่วยเลย นี่คนทั้งคน จะบ้า จะบอ จะดีอะไรก็ตาม เมื่อก่อนเขาเป็นคนดีมาก หลังๆเขาไม่ค่อยสบายเขาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครกินแต่เหล้า ตรงที่เจ็บปวดคือคำว่า “ปล่อยไปเลย ให้มันจมน้ำตายไปเลย มันเรียกร้องความสนใจ ให้มันจมน้ำไปก่อนแล้วค่อยโทรหาปอเต็กตึ๊ง”

ได้ยินเสียงลูกร้อนโอยๆ มันเจ็บปวดเหลือเกิน ลูกเขาก็ร้องไห้ทำไมเป็นแบบนี้ไม่มีใครช่วยเลย อยากรู้ว่าคนถ่ายคลิปเอาหัวใจอะไรมาใส่ ทำไมไม่ช่วยคนทั้งคน อยู่กันตั้งหลายคน ตอนที่ยังไม่ห่างตลิ่ง หรือโทรหาคนมาช่วยก็ได้หรือตามคนที่บ้านไปช่วยก็ได้

ที่มา สนุกดอทคอม

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

#ปูอัด ขึ้น X Trends Thailand ปมคุกคามทางเพศ เรียกร้อง สส.ก้าวไกล ลาออก

การกรณีถูกร้องเรียนการคุกคามทางเพศของ สส. ทำให้ชาวโซเชียลและสส.หญิงพรรคก้าวไกล เรียกร้อง "ปูอัด ไชยามพวาน" ลาออก จน #ปูอัด ติดอันดับ 1 เทรนด์ X พร้อมทั้งเรียกร้องให้ขอโทษและเยียวยาผู้เสียหาย


ล่าสุด (2 พ.ย.2566) หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรคก้าวไกล กรณีถูกร้องเรียนคุกคามทางเพศ ได้มีมติเห็นควรให้ขับออกจากพรรคจำนวน 106 เสียง แต่ไม่ถึง 3 ใน 4 หรือ 116 เสียง ทำให้ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด สส.กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม ถูกตัดสิทธิพึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุมหากมีพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก ขณะที่นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ถูกขับพ้นพรรคจากประเด็นร้องเรียนเดียวกัน


ชาวโซเชียลต่างออกมาวิจารณ์ว่า นายไชยามพวานเพียงแถลงขอโทษ แต่ไม่ได้ยอมรับผิด บางส่วนเปรียบเทียบ 2 เคส 2 มาตรฐาน พร้อมเรียกร้องให้นายไชยามพวาน ลาออก จนแฮชแท็ก #ปูอัด ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 แอปพลิเคชัน X ตามมาด้วยอันดับ 3 #พรรคก้าวไกล 

ไม่ต่างจาก สส. และ สก.หญิง ในพรรคก้าวไกล ที่ออกมาโพสต์วิจารณ์พร้อมเปิดภาพโปรไฟล์ X เป็นสีดำ "เนอส ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย" สก.บางซื่อ ระบุ "หน้า ด..ไม่มีความละอายแก่ใจ เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน" พร้อมติดแท็กชื่อ X ของนายไชยามพวาน

"ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์" หรือทนายแจม สส. เปลี่ยนโปร์ไฟล์เฟซบุ๊กเป็นสีดำ พร้อมโพสต์ข้อความ "เมา ไม่ใช่ consent"

"ไอซ์ รักชนก ศรีนอก" สส. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนเองโหวตให้ขับออกทั้งสองกรณี "ไอซ์ชอบเรื่องที่ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ยกตัวอย่างในที่ประชุม เรื่อง สส.ญี่ปุ่น ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมาแล้วไปอภิปรายในสภา พอมีคนทักท้วงเรื่องนี้ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสืบสวนสอบสวนหรือรอให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณา สส. ท่านนั้นรู้อยู่แก่ใจตัวเองว่าผิด จึงรับผิดชอบด้วยการลาออก นี่คือมาตรฐานเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมของ สส. ท่านนั้น...ในวันนี้น่าผิดหวัง ที่มาตรฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่ สส. ของเพื่อนสมาชิกที่กระทำผิดในกรณีอื่นๆ ยังไม่สูงเท่าพี่เต้อ แม้มีการพูดคุยเพื่อชี้แจงรายละเอียด ก็ยังไม่สามารถคิดได้และที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคือยังไม่ยอมรับในความผิดของตนเลยด้วยซ้ำไป ประกาศกับสาธารณะชนได้หน้าตาเฉย...

ในที่ประชุมหารือ ได้มีข้อตกลงกันว่าในกรณีที่มีมติไม่ขับ จะต้องให้ผู้กระทำสำนึกผิด ขอโทษสังคม ขอโทษต่อเหยื่อและเยียวยาเหยื่อ ไอซ์ก็ขอตั้งตารอดู ว่าคำขอโทษจะออกมาจากใจจริงๆหรือจะเป็นแค่การแสดงอีกฉาก ที่ทำเพื่อให้รอดตัวไป และระหว่างที่รอผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและเหยื่อ (เรียกว่าแสดงความรับผิดชอบได้ไหมนะ)ไอซ์จะขอหยุดร่วมกิจกรรมกับพรรค หยุดร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมาชิกในพรรค กิจการในโควต้าและขอลาป่วย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในหลักการ จนกว่าจะมีการแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่อ อย่างจริงใจของผู้กระทำ"

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.ก้าวไกล โพสต์ X "ไชยาพวาน ควรลาออก"

ขณะที่คณะก้าวหน้า อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ อย่าง "ปิยบุตร แสงกนกกุล" และ "พรรณิการ์ วานิช" หรือช่อ ได้โพสต์วิจารณ์เรื่องนี้เช่นเดียวกัน

"ปิยะบุตร" ระบุว่า การใช้อำนาจที่ได้จากตำแหน่งไปจูงใจล่อลวงบุคคลอื่นให้กระทำตามต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวพันเรื่องเพศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในยุคสมัยนี้ และพรรคก้าวไกลต้องยกระดับมาตรฐาน ป้องกัน ต่อต้านการคุกคามทางเพศและความรุนแรงทางเพศในองค์กรหรือสถานที่ทำงานให้ได้ตามที่โฆษณาไว้

"พรรณิการ์" ระบุว่า คณะกรรมการวินัย คณะกรรมการบริหารพรรคฯ มีมติว่าทำผิดวินัยร้ายแรง คุกคามทางเพศ ที่ประชุมร่วม สส. และกรรมการบริหารก็โหวตขับถึง 106 เสียงจาก 128 เสียง ขาดเพียง 10 เสียงจะขับออกได้ตามกฎหมาย จึงเรียกร้องให้นายไชยามพวาน ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน

ที่มา ไทยพีบีเอส



ไอซ์ รักชนก ลั่นขอหยุดร่วมกิจกรรมพรรคก้าวไกล ผิดหวังมติไม่ขับ สส.ปูอัด

ไอซ์ รักชนก เผยผิดหวังมติไม่ขับ สส.ปูอัด พร้อมขอหยุดร่วมกิจกรรมพรรค จนกว่าผู้กระทำผิดจะออกมาขอโทษเหยื่ออย่างจริงใจ


วันนี้ (2 พ.ย. 66) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและสส.พรรคก้าวไกล มีมติขับ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล เพราะถือว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรง ส่วนกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ที่ประชุมออกเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ให้ขับพ้นสมาชิกพรรค จึงให้มีการรอคาดโทษไว้ก่อน เพื่อให้ยอมรับผิด และขอโทษจากการกระทำ

โดย น.ส.รักชนก ได้ระบุว่า ตัวไอซ์โหวตให้ขับออกทั้งสองกรณีค่ะ ไอซ์ชอบเรื่องที่ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ (ขออภัยที่เอ่ยนาม)ได้ยกตัวอย่างในที่ประชุม คือเรื่อง สส. ญี่ปุ่น ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมาแล้วไปอภิปรายในสภา พอมีคนทักท้วงเรื่องนี้ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสืบสวนสอบสวนหรือรอให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณา สส. ท่านนั้นรู้อยู่แก่ใจตัวเองว่าผิด จึงรับผิดชอบด้วยการลาออก นี่คือมาตรฐานเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมของ สส. ท่านนั้น

เช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้ อดีต สส. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เมาแล้วขับ หลังถูกจับ ประกาศลาออกทันทีเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ไอซ์ขอนับถือใจพี่เต้อเลยจริงๆ ทั้งๆ สามารถใช้หลายๆวิธีที่จัดการเรื่องได้ แต่พี่ก็เลือกที่จะลาออก เพื่อยืดอกแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างมาตรฐานไว้สูงลิ่ว น่ายกย่องอย่างยิ่ง

ซึ่งในวันนี้น่าผิดหวัง ที่มาตรฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่ สส. ของเพื่อนสมาชิกที่กระทำผิดในกรณีอื่น ๆ ยังไม่สูงเท่าพี่เต้อ แม้มีการพูดคุยเพื่อชี้แจงรายละเอียด ก็ยังไม่สามารถคิดได้และที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคือยังไม่ยอมรับในความผิดของตนเลยด้วยซ้ำไป ประกาศกับสาธารณะชนได้หน้าตาเฉย

แต่ไอซ์ยังพออุ่นใจในอนาคตทิศทางของพรรคได้อยู่บ้าง เพราะกรรมการบริหารยังมีมติเอกฉันท์ ให้ขับออก อย่างน้อยทิศทางเรื่องนี้ต่อสังคมกรรมการบริหารพรรคก็ชัดเจน เป็นธรรมกับสังคม (ขอไม่ใช้คำว่าเป็นธรรมกับทุกฝ่ายนะ บางฝ่ายที่มาเรียกร้องความเป็นธรรม เอาอะไรมาเรียกร้องก่อน หน้าด้าน)

ไอซ์ดีใจจริงๆ ที่ได้รับรู้ได้ว่าสามารถไว้วางใจพี่ต๋อมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้อย่างเต็มที่ ทัศนคติเรื่องการคุกคามทางเพศของพี่ต๋อมชัดเจน มาตรฐานสูงมาก ไม่มีกลิ่นอายของสิ่งที่ชาวเน็ตเค้าเรียกว่าความ “ชายแทร่” อย่างน้อยอนาคตของพรรคในเรื่องแบบนี้ก็ยังไว้วางใจอะไรไว้กับกรรมการบริหารได้

ถึงแม้ผิดหวังในมติ แต่ไอซ์ก็พยายามอย่างถึงที่สุดเท่าที่คนๆ นึงจะสามารถพยายามได้ ที่จะเข้าใจ ว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเองและไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต้องรับผลร่วมกัน

ในที่ประชุมหารือ ได้มีข้อตกลงกันว่าในกรณีที่มีมติไม่ขับ จะต้องให้ผู้กระทำสำนึกผิด ขอโทษสังคม ขอโทษต่อเหยื่อและเยียวยาเหยื่อ ไอซ์ก็ขอตั้งตารอดู ว่าคำขอโทษจะออกมาจากใจจริงๆ หรือจะเป็นแค่การแสดงอีกฉาก ที่ทำเพื่อให้รอดตัวไป

ระหว่างที่รอผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและเหยื่อ (เรียกว่าแสดงความรับผิดชอบได้ไหมนะ)ไอซ์จะขอหยุดร่วมกิจกรรมกับพรรค หยุดร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมาชิกในพรรค กิจการในโควตาและขอลาป่วย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในหลักการ จนกว่าจะมีการแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่อ อย่างจริงใจของผู้กระทำ

ด้วยรักและเคารพ พรรคใหญ่กว่าคนประชาชนใหญ่กว่าพรรค ด้วยความรักที่มีอย่างเต็มเปี่ยมต่ออุดมการณ์พรรคก้าวไกลด้วยความเคารพต่อประชาชนที่เลือกพวกเรามา เคารพมติกรรมาธิการ เคารพมติที่ประชุม เคารพความคิดเห็นของเพื่อน สส. อาจมีคนไม่พอใจในข้อความในโพสนี้ของเรา ต้องขอโทษจริงๆ แต่ขอพื้นที่เล็กๆตรงนี้เป็นรูระบายให้ใจเราทีเถอะ

ที่มา ข่าวสด, FB Rukchanok Srinork


วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นายกฯ ส่งสัญญาณกลุ่มที่ไม่เดือดร้อนส่อแววชวด 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ต่อคำถามสื่อมวลชนกับโครงการ " ดิจิทัลวอลเล็ต" นายกรัฐมนตรีแจงว่ามีความเป็นไปได้ ที่การแจกเงินจะทำไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง มีบางส่วนที่อาจจะไม่ได้รับอานิสงส์นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับที่ธปท.ต้องการ ส่วนประเด็นถูกร้องเรียนไปยังองค์กรอิสระ เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ


นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ได้เปิดเผยถึงนโยบายเงินในโครงการ " ดิจิทัลวอลเล็ต" ว่า มีความเป็นไปได้ที่โครงการนี้ จะมุ่งไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง  ซึ่งเท่ากับว่าบางภาคส่วนที่ไม่เดือดร้อน  อาจจะไม่ได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้ เป็นการปรับเงื่อนไข เรื่องของการปรับแนวทาง สอดคล้องกับท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. )  และที่ต้องหาความชัดเจนคือนิยามคำว่า "คนรวย"  ก็ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน

"กำลังหาคำจำกัดความที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายว่าคนรวยคืออะไร พร้อมน้อมรับคำแนะนำจากธนาคารแห่งประเทศไทย  ที่ว่าควรที่จะเจาะจงมากขึ้น บางภาคส่วนที่ไม่เดือดร้อนอาจไม่ต้องรับซึ่งรับฟังอยู่ ส่วนข้อเสนอให้ จ่ายเงินเป็น 3 งวด แทนงวดเดียว แน่นอนว่า คงจ่ายครั้งเดียว เพราะอยากให้กระตุ้นเศรษฐกิจทีเดียว ด้วยเม็ดเงินที่ใหญ่จะได้ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน" 


นายกรัฐมนตรี  กล่าวด้วยว่า  การที่มีหลายฝ่ายเดินหน้าร้องเรียนโครงการ  "ดิจิทัลวอลเล็ต"  กับองค์กรอิสระ   ก็เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจง เพราะองค์กรอิสระก็มีหน้าที่ตรวจสอบ  ส่วนรัฐบาลก็ มีหน้าที่ชี้แจง   " 10 ปี ที่ผ่านมาจีดีพีของประเทศไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8%   หนี้ครัวเรือนขึ้นจาก 76% เป็น 90% ซึ่งสูงสุดติดท็อปเท็นของโลก เพราะฉะนั้นประเทศไทยจึงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ   เรื่องนี้ก็ต้องเดินสายชี้แจงและรับฟังข้อท้วงติง  เมื่อมีคนไปร้องก็ต้องชี้แจง   ส่วนกระแสข่าว อาจจะเลื่อนการแจกเงินจาก 1 ก.พ.67 ออกไปนั้น กำลังดูอยู่  แต่ะพยายามทำให้เร็วที่สุด ส่วนเม็ดเงินโครงการ ขอให้มีการประชุมก่อน เพราะคำถามดมีเข้ามามาก หากพูดไปก็จะเกิดความสับสน"  นายเศรษฐาระบุ

ที่มา คมชัดลึก



วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2565

เช็คด่วน! บัตรคนจนรอบใหม่ใครมีสิทธิบ้าง? รีบลงทะเบียนเลย

วิธีลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 “บัตรคนจน” รอบใหม่ ที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค.65 ใครมีสิทธิบ้าง? เช็คสิทธิแล้วรีบลงทะเบียนเลย


เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 65 ที่ผ่านมานี้ กระทรวงการคลัง ได้เปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 “บัตรคนจน” โดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 5 ก.ย. 65 - 19 ต.ค.65 สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. - 11 พ.ย. 65 โดยผลการลงทะเบียนจะประกาศทุกวันศุกร์

สำหรับการลงทะเบียน มี 2 ช่องทาง

ช่องทางแรก ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มี 6 ขั้นตอนง่ายๆ

1.เข้าเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th

2.กรอกข้อมูลบัตรประชาชน และเลข Laser หลังบัตรบัตรประชาชน

3.กรอกข้อมูล 4 ส่วน

-ข้อมูลส่วนตัวของผู้ลงทะเบียน

-การประกอบอาชีพ

-รายได้และหนี้สินของผู้ลงทะเบียน

-ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ

4.ผู้ลงทะเบียนที่จดทะเบียนสมรส

หรือมีบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

เลือกหน่วยรับลงทะเบียนที่จะไปยื่นเอกสาร

5. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกดยืนยัน

6.ไม่มีครอบครัว รอผลการตรวจสอบ

สถานะบุคคล

-มีครอบครัว ไปแสดงตัวคนและยื่นเอกสารยังหน่วยรับลงทะเบียนที่เลือกไว้


ช่องทางที่ 2. ลงทะเบียนผ่านหน่วยรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1.ธนาคารกรุงไทย

2.ธนาคารออมสิน

3.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

4.สำนักงานคลังจังหวัด (ไม่รวมกทม.)

5.สำนักงานเขต กทม.

6.ที่ว่าการอำเภอ

7.สำนักงานเมืองพัทยา

สำหรับผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้พิการ ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่ได้ก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ซึ่งหนังสือมอบอำนาจนั้นสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย

ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 รอบใหม่ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1.สัญชาติไทย

2.อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

3.ไม่เป็น ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขังบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือนผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง ส.ส. , ส.ว.

4.รายได้ผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน รอบใหม่ 2565

-รายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท บุคคล

-ครอบครัวรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท

-ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ

-ทรัพย์สินทางการเงินต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาทต่อบุคคล

-ครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท

5.ไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์

-วงเงินกู้บ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

-วงเงินกู้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท

-ต้องไม่มีบัตรเครดิต

-ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ มีกรรมสิทธิ์ ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้

ผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว

-ห้องชุดขนาด ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

-ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่

-ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

-บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตารางเมตร

-ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่

-ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่จะต้องมีขนาดขึ้น

ที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ และ ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่

ผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว

-ห้องชุดขนาดไม่เกิน 35 ตารางเมตร ต่อคน

-กรณีเป็นเจ้าของร่วมกันไม่เกิน 35 ตารางเมตร

-ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

-บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และตึกแถว

-กรณีเป็นจ้าของแยกจากกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.ต่อคน

-กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.

-ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่ หรือใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

-จะต้องมีขนาดพื้นที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตรไม่เกิน 20 ไร่

-ไม่ใช้เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

โดยมีเวลาให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2565 ถึง 19 ต.ค.65 นี้เท่านั้น


ที่มา www.ejan.co


วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565

เตือนผู้ร่วมโครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" รายเก่า-รายใหม่ ระวังถูกตัดสิทธิ

หลังการเปิดให้ลงทะเบียน ยืนยันสิทธิผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" หรือ www.คนละครึ่ง.com กับประชาชนกว่า 26.5 ล้านคน ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดี


ล่าสุดขออัปเดตโครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" ผู้ร่วมโครงการรายเก่า-รายใหม่ ที่ได้รับเงิน 800 บาท โดยโอนเข้าแอปฯ เป๋าตัง ในวันที่ 1 กันยายน 2565 (ทั้งรายเก่า และรายใหม่) เพื่อให้เริ่มสิทธิรัฐช่วยจ่าย 50% ไม่เกินวันละ 150 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ 1 ก.ย. - 31 ต.ค.2565

สำหรับ "คนละครึ่งเฟส 5" รายใหม่ ที่ลงทะเบียนผ่านแอป "เป๋าตัง" หรือ www.คนละครึ่ง.com เรียบร้อย จะต้องดำเนินการยืนยันตัวตนก่อนการใช้สิทธิ โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

1.ยืนยันตัวตนผ่านแอป "เป๋าตัง"

เลือก "สมัครใช้และบริการ"

ยินยอม การจัดการข้อมูล ยืนยันตัวตน

เตรียมถ่ายบัตรประชาชน

ถ่ายบัตรประชาชน

กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

กรอกข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม

กรอกข้อมูล CDD

เลือกวิธีการยืนยันตัวตนด้วยแอป Krungthai NEXT หรือสแกนใบหน้า


2.ยืนยันตัวตนด้วย Krungthai NEXT

เข้าสู่ Krungthai NEXT

ระบุ PIN Krungthai NEXT

กดปุ่มดำเนินการบนแอปเป๋าตัง

กรอกรหัส OTP (OTP จะถูกส่งไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับ Krungthai NEXT)

ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล

เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร

หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก

หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ


3.ยืนยันตัวตนด้วยการ สแกนใบหน้า

ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า

ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล

เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร

หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก

หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ

ส่วน รายเก่า ที่เคยร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 สามารถตรวจสอบ ยืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 5 ผ่าน คนละครึ่ง.com ตามขั้นตอนดังนี้ 

เข้าสู่เว็บไซต์ 

กดปุ่ม "ลงทะเบียนรับสิทธิ" เลือก "สำหรับผู้เคยใช้สิทธิคนละครึ่งเฟส 4"

กดรับทราบ หลักเกณฑ์เงื่อนไขและยินยอมโครงการฯ 

กรอกรายละเอียดต่างๆและกดปุ่ม ยืนยัน 

ตรวจสอบข้อมูลและกดปุ่ม ยืนยัน 

ระบบแสดงผลตรวจสอบสิทธิ

ข้อควรระวัง! ถูกตัดสิทธิ

สำหรับรายเก่า หรือ ผู้ที่เคยร่วมโครงการฯ ต้องใช้สิทธิใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. จึงจะสามารถใช้จ่ายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งหากไม่ใช้สิทธิตามระยะเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิทันที

รายใหม่ ผู้ที่ไม่เคยร่วมโครงการฯ ต้องใช้สิทธิใช้จ่ายครั้งแรก ต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 14 วันหลังจากที่ได้รับ SMS ยืนยันเข้าร่วมโครงการหลังวันที่ 1 กันยายน 2565  จึงจะสามารถใช้จ่ายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งหากไม่ใช้สิทธิตามระยะเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิทันทีเช่นกัน

ที่มา กรุงเทพธุระกิจคนละครึ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) นางเอกตัวจริง คังคุไบ แชร์โพสต์ พิมรี่พาย พร้อมแคปชั่น รักเลย

สมราคาเจ้าแม่ออนไลน์ยืนหนึ่งเมืองไทย เมื่อ พิมรี่พาย โพสต์ภาพตัวเองคัฟเวอร์สวมบทเป็นคังคุไบเมืองไทย สวยเข้าตา นางเอกคังคุไบตัวจริง ถึงกับแชร์โพสต์ พิมรี่พาย พร้อมแคปชั่นรักเลย


ต้องบอกเลยว่านาทีนี้คือคังคุไปฟีเวอร์จริง ถ้าใครไม่คัฟเวอร์เป็น คังคุไบ ถือว่าเอาท์ ที่รับบทโดย นางเอกดัง อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) นางเอกสุดฮอตจากภาพยนตร์ดัง Gangubai Kathiawadi “คังคุไบ” หญิงแกร่งแห่งมุมไบ 


ไม่เว้นแม้แม่ค้าออนไลน์และยูทูบเบอร์ชื่อดังของไทย อย่าง พิมรี่พาย หรือ พิมรดาภรณ์ ที่ล่าสุด ไม่ตกเทรนด์โพสต์ภาพตัวเองคัฟเวอร์สวมบทเป็นคังคุไบเมืองไทยได้สุดเหมือน สวยเข้าตา  จนนางเอก คังคุไบ ตัวจริง อย่าง อาเลีย บาตต์ นางเอกดังที่มีผู้ติดตามในไอจีส่วนตัวถึง 65.3 ล้านฟอลโลเวอร์ ถึงกับแชร์ไอจีสตอรี่ พิมรี่พาย พร้อมข้อความภาษาอังกฤษบอกว่า "Love it" ด้วย

งานนี้แฟนๆ ถึงกับกรี๊ดยกย่องว่าสมฉายาแม่ค้าออนไลน์ยืนหนึ่งของเมืองไทย พิมรี่พาย คังคุไบ เมืองไทย สวยไม่แพ้ใคร ขนาดนางเอกตัวจริงคังคุไบยังรักเลย

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2565

เพจ"ANTI SOTUS" แฉ ‘น้องเปรม’ ไม่ใช่แค่ห้า แต่ถูกรุ่นพี่โหด ต่อยอกทีละคน

เกิดเหตุรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับร้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย


จากกรณี น้องเปรม นักศึกษา ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากการที่รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้อง นอกจากนี้ผลตรวจชันสูตรศพน้องเปรม ยังพบด้วยว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายดับอีกด้วย ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยฯ ออกหนังสือชี้แจงยืนยันว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการจัดขึ้นกันเองของรุ่นพี่นศ.ปวส.ปี 1 และ ปี 2 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับน้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 มี.ค. 2565) นายเอกชัย ชนภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิตรู้สึกเสียใจจนเป็นลมล้มพับ เบื้องต้นทราบว่า น้องเปรมถูกรุ่นพี่ 5-6 คน รุมทำร้าย และถูกชกที่หน้าอก 1 ครั้ง จนล้มฟุบหมดสติและเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เคยเห็นแต่ในข่าวในอดีตมีการรับน้องโหด ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกตัวเอง คนที่เสียใจที่สุด คือ พ่อแม่ ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าถูกชกเพียงครั้งเดียวจนเสียชีวิต เพราะลูกชายเป็นคนแข็งแรงและเป็นนักกีฬาฟุตบอล ขณะเดียวกัน รุ่นพี่ที่ก่อเหตุได้มากราบขอขมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีกอยากให้ลูกชายเป็นรายสุดท้าย ยืนยันต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS" ซึ่งเป็นโพสต์เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ได้ออกมาระบุความคืบหน้าว่า "สายจากเพื่อนน้องเปรม พี่เขาทำกันทั้งหมดประมาณ 30 กว่าคน เป็นพวกที่เอารุ่น รุ่นพี่เขาให้ยืนเรียงแถวกันตามเลขที่ แล้วรุ่นพี่ก็จะเข้ามาต่อยทีละคน เช่น รุ่นพี่เลขที่ 1 จะต่อยรุ่นน้องเลขที่ 1 -30 ไปทีละคน รุ่นพี่เลขที่ 2 ก็มาต่อยเรียงกันไปเรื่อยๆ ตามคนที่ 1 รุ่นพี่เลขที่ 3 เลขที่ 4 ไปเรื่อยๆ น้องเปรมโดนทั้งต่อยหน้าอกด้วย แล้วก็โดนถีบด้วย ให้นึกภาพเหมือนทหารเกณฑ์ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งแล้วครูฝึกมาต่อยท้องทีละคน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ 5 คนนั้นแน่นอน ที่บอกว่ามี 5-6 คนนั้นเพราะพ่อถามว่าใครทำบ้าง แล้วก็รับกันแค่นั้น แล้วเปรมมันเป็นโควิดลงปอด ไม่มีใครรู้ หมอพึ่งมาบอกทีหลัง ตอนที่ตายไปแล้ว (แอดมินคิดว่าถ้าเป็นโควิดด้วย กินเหล้าด้วย แล้วถูกกระแทกที่หน้าอกหลายครั้งด้วย โอกาสรอดแทบไม่มีเลยยากมากปอดไม่แข็ง เลือดสูบฉีด และถูกกระแทกที่ปอดหรือลิ้นปี่ ) พอต่อยเสร็จแล้วพี่เขาจะให้เดินกลับ เปรมก็ล้มลงไปหายใจไม่ทันตัวแข็งตาเหลือก พอเอาไปโรงพยาบาลเข้าก็ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่หาชีพจรไม่เจอ หมอเลยบอกว่าอย่ายื้อเลยน้องเขาไม่ไหว อย่าไปเชื่อว่ามีแค่ 5 คนครับ"

ที่มา เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS", www.msn.com

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2565

"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ "คดีแตงโม" มองยังไงก็ไม่เหมือนอุบัติเหตุ

จากเหตุการณ์ที่นักแสดงสาว "แตงโม นิดา" ได้เสียชีวิตเนื่องจากพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม โดยหลายคนมองว่าเรื่องราวค่อนข้างจะไม่ชอบมาพากล และออกมาตั้งข้อสงสัยมากมาย รวมถึงอดีตผู้พิพากษารายหนึ่งก็ออกมาเคลื่อนไหวถึงคดีนี้ว่า"ดูยังไงก็ไม่เหมือนอุบัติเหตุ"


ล่าสุด นายชนบท ศุภศรี อดีตผู้พิพากษา วัย 73 ปี ได้เขียนแสดงความคิดเห็นการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "กฎหมายชนบท" ว่า "อายุผม 73 ปีแล้วจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้ แต่อยากสร้างความดีไว้บ้าง เมื่อดูคลิปแล้ว ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน แต่เป็นคดีฆาตกรรมและในคลิปมีผู้รู้เห็นเหตุการณ์ถึง 3 คน ยังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือครับ"


"(กูละเชื่อ) เอา 4 กฎ 6 หลัก มาจับ ก็จะรู้ได้ทันทีว่าใคร "โกหก" สวรรค์มีตาครับ น้องแตงโมต้องไม่ตายฟรี" 

หลังจากนั้นก็ได้โพสต์ข้อความต่ออีกโดยระบุว่า "ถ้าอนุญาตให้ผมช่วย ผมมีทนายอาสาระดับพระกาฬอีก 10 คน ครับคุณแม่" และอีกข้อความระบุว่า "ถ้าอนุญาตให้เข้าไปช่วยคดีน้องแตงโม ผมขอคิดค่าวิชาชีพเพียง 100 บาท เท่านั้น จะเอาไหมคุณแม่"

งานนี้หลายคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างสนั่นหวั่นไหว เพราะอดีตผู้พิพากษาออกโรงเองเลย

ที่มา คมชัดลึก


วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

แม่น้ำหนึ่ง โสดเซ็กซี่ ไลฟ์ขอพ่อปู่งวดนี้ขอคักๆ แต่แฟนๆ โฟกัสงง ฟิล์ม โผล่เตียง

 

แม่น้ำหนึ่ง ภิรดา ธนโชติจินดา เน็ตไอดอลให้แนวทางเลขเด็ดชื่อดัง ล่าสุดโพสต์ชุดสุดเซ็กซี่ พร้อมแคปชั่น คิดถึงทะเลอีกแล้ว 1 มี.ค ขอคักๆเด้อปู่ ท่ามกลางแฟนๆเพื่อนๆเข้ามาคอมเมนต์ถึงความแซ่บ อาทิ แซ่บมากแม่ , แซ่บเวอร์ , สวยแซ่บมากแม่ , ทะเลร้อนก็คราวนี้ล่ะ ขอเคล็ดลับหุ่นนี้ที Please…. เป็นต้น


หลังจากที่ แม่น้ำหนึ่ง ได้หย่าสามีไปเมื่อช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ในไลฟ์ล่าสุด รุ่ง อดีตสามีก็วิดีโอคอลเข้ามา แต่ขณะที่แม่น้ำหนึ่งกำลังคุยกับแฟนเก่า กล้องแม่น้ำหนึ่งถ่ายไปข้างๆ เจอผู้ชาย คือ ฟิล์ม ลูกน้องแม่น้ำหนึ่ง ซึ่งก็เพิ่งหย่ากับภรรยา และเป็นภาพอยู่ที่เตียงข้างๆ ซึ่งทางอดีตสามีก็หัวเราะ จนคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากได้สอบถามไปทาง รุ่ง ก็ยืนยันว่าเราเลิกกันแล้วจริงๆ เลิกกันขาดแล้ว วันที่เขาไลฟ์เขาเชิญเอาเราเข้าไปคุยด้วย ก็เป็นเพื่อนกันได้ ตั้งแต่หย่ากันก็ยังไม่เคยเจอกันเลย เมื่อถามว่าฟิล์มนอนอยู่ข้างๆรู้สึกยังไง รุ่ง บอกว่า เลิกกันแล้วคือจบไม่ได้คิดอะไรแล้ว เลิกกันแล้วก็เป็นสิทธิ์ของเขา ฟิล์มเขาก็เลิกกับภรรยาแล้ว เขาน่าจะไลฟ์เล่นๆ แล้วขอขึ้นไลฟ์ด้วยก็เลยตอบกลับ เขาเชิญเรามา ก็เห็นไลฟ์สนุกๆ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว


ส่วนทางด้าน เอิร์น ดุสิตา แนมขุนทด อดีตภรรยา ฟิล์ม ก็บอกว่าจบกับฟิล์มแล้ว คุยกับฟิล์มเรื่องลูกปกติ ไม่มีอะไร ฟิล์มก็สัญญาว่าจะเลี้ยงดูครอบครัว ส่งเงินให้ลูก เขาจะไลฟ์สดก็เป็นสิทธิ์ของเขาขออย่างเดียวอย่าผิดสัญญาการเลี้ยงลูก ส่วนที่ก่อนหน้าที่โพสต์ภาพลูกขี่ควาย พร้อมเนื้อเพลง ใจนักเลง ข้อความว่า ให้เธอได้กับเขาและจงโชคดี เจ้าตัวชี้แจงว่าไม่ได้หมายถึงใคร ไปไหว้ศาลเห็นควายน่ารัก ลูกนั่งขี่ควายก็เลยโพสต์

ที่มา ข่าวสด, AmarinTV



วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

‘ประสพโชค’ ปัดรู้จักกุมาร ‘ขาว-ดำ’ คนร้ายยิงถล่มนายก อบต.บางสมบูรณ์

‘ประสพโชค’ เปิดแถลงที่พรรคพลังท้องถิ่นไท ยันไม่ใช่คนบงการคดียิงถล่มนายก อบต.บางสมบูรณ์ ไม่รู้จักฉายากุมารขาว-กุมารดำ ลั่นหากตำรวจจะจับไม่หนีไปไหน


เมื่อวานนี้ (24 ก.พ. 2565) นายประสพโชค นิ่มเรือง อดีตนายก อบต.บางสมบูรณ์ เปิดแถลงข่าวที่พรรคพลังท้องถิ่นไท กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มรถของนายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 2 คน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นายประสพโชคกล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้บงการเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนที่มาเปิดใจภายในที่ทำการพรรคพลังท้องถิ่นไทนั้นไม่ได้ต้องการแอบอ้าง หรืออาศัยบารมีนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรค แต่เพราะมาประชุมเป็นประจำอยู่แล้ว เนื่องจากมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวและเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว เนื่องจากหลังเกิดเหตุมักมีรถและชายฉกรรจ์วนเวียนอยู่หน้าบ้าน รวมถึงกลัวญาติของผู้เสียชีวิตจะแก้แค้น เพราะหลังเกิดเหตุตนก็ปรากฏในหน้าสื่อและตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ยืนยันในความบริสุทธิ์ หากตำรวจจะทำการจับกุมจะไม่หลบหนี และพร้อมเข้ามอบตัว ยืนยันว่าในพื้นที่ อบต.บางสมบูรณ์ ไม่มีอิทธิพลหรือมาเฟีย

นายประสพโชค ได้พูดถึงความสัมพันธ์กับ นายภูริวัฒ หรือออด นิ่มเรือง ฉายากุมารดำ ที่ถูกจับกุม และการออกหมายจับ นายรัฐพล หรือบิ๊ก ตันสุวรรณรัตน์ ฉายากุมารขาว ว่ารู้จักในฐานะญาติ และเจ้านายกับลูกน้อง เนื่องจากเป็นอดีตนายก อบต. แต่ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนตัวไม่เชื่อว่าน้องชายจะเป็นผู้ก่อเหตุ จึงเตรียมยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าฉายากุมารดำและกุมารขาวมาจากไหน ใครเป็นคนตั้ง ยืนยันว่าตนไม่ใช่พ่อกุมารดำและกุมารขาว เพราะเป็นพี่น้องจะมาเรียกพ่อได้อย่างไร

นายประสพโชคกล่าวต่อว่า สังคมอย่าเพิ่งมุ่งเป้าไปที่ประเด็นการเมืองท้องถิ่น การหาเสียงในอดีต รวมถึงความขัดแย้งเรื่องแพ ยอมรับว่ามีการนำแพไปผูกที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจริง แต่ไม่ได้นำมาเปิดเป็นร้านหมูกระทะ มีเพียงสมาชิก อบต. หรือกำนันผู้ใหญ่บ้าน นำอาหารไปจัดเลี้ยงเพียงบางครั้ง อยากให้สื่อหรือตำรวจไปย้อนดูคดีใช้อาวุธสงครามสังหาร 5 ศพ ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อปี 2555 และตรวจสอบประวัติของฝั่งตรงข้ามว่ามีศัตรูหรือมีความขัดแย้งกับใครบ้าง ส่วนเหตุในครั้งนี้ใครจะได้ประโยชน์ตนก็ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการสืบสวน ขณะนี้ไม่อยากพูดคุยกับใคร และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พูดคุยกับสื่อมวลชน และจะไม่พูดคุยกับฝั่งของนายญาณกร

นายประสพโชค ยังได้เผยถึงที่ก่อนหน้านี้ที่ติดต่อไม่ได้ยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้านเนื่องจากมีคนติดต่อเข้ามาหาเยอะ หากตำรวจจะติดต่อขอให้ติดต่อผ่านทนาย ที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่มาสอบถาม รวมถึงดูแลความปลอดภัย แต่ตนปฏิเสธเพราะไม่ทราบว่าใครเป็นตำรวจจริงหรือปลอม


ทีั่มา มติชนออนไลน์



วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

โคราชอ่วม พบคลัสเตอร์สองตลาด สี่คลัสเตอร์โรงเรียน

หลังจาก ผู้ว่าฯ ประกาศคลัสเตอร์ 2 ตลาดโคราช ขอให้ผู้ที่ไปใช้บริการเข้ารับการตรวจ ATK ฟรีระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์นี้ ล่าสุดพบคลัสเตอร์เด็กติดโควิดอื้อ สั่งปิด 1,400 รร. 


ผู้ว่าฯประกาศเกิดคลัสเตอร์ 2ตลาด ใครไปให้ตรวจ ATK ด่วน ล่าสุดจังหวัดนครราชสีมาขอให้ผู้ที่ไปใช้บริการ ตลาดประปา  ตลาดเพชรสีมา จุดผ่อนผันเเละแผงลอย ตั้งแต่ 1 - 10 กุมภาพันธ์ 2565  ขอให้เข้ารับการตรวจ ATK ฟรี บริเวณหน้าศาลากลาง(ใต้ต้นโพธิ์) ระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00-15.30 น.

จากการที่เทศบาลนครนครราชสีมาลงพื้นที่เข้าตรวจเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประการค้าต่างๆในตลาดประปา , ตลาดเพชรสีมา, ตลาดร่วมใจ และประชาชนบริเวณใกล้เคียง 1,206 ราย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.65 พบมีพ่อค้าเเม่ค้าติดเชื้อ 86 ราย เเยกได้เป็น 

-ตลาดประปา พบผู้ติดโควิด 41 ราย

-ตลาดเพชรสีมา พบผู้ติดโควิด 24 ราย 

-ตลาดร่วมใจ ไม่พบผู้ติดเชื้อ และอีก 21 รายเป็นจุดผ่อนผันแผงลอยแม่ค้าข้างทาง และวินมอเตอร์ไซค์ฯลฯบริเวณใกล้เคียงตลาด

โดยทางผู้ว่าฯโคราช นายวิเชียร จันทรโณทัย ออกประกาศ ขอเชิญผู้ไปใช้บริการที่ “ตลาดประปา ตลาดเพ็ชรสีมา จุดผ่อนผันและแผงลอย” ข้างไอทีพลาซ่า อำเภอเมือง ตั้งแต่วันที่ 1-10 ก.พ.65 ให้เข้ารับการตรวจหาเชื่อโควิด-19 โดยด่วน  สำหรับรถตรวจนิรภัย บริการตรวจ ATK ให้ประชาชนฟรี ที่บริเวณใต้ต้นโพธิ์ หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 10.00-15.30 น. ระหว่างวันที่ 14-16 ก.พ. 2565

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.พ. 65) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนคลัสเตอร์จำนวนมากในหลายพื้นที่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 415 ราย ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว จำนวน 43,118 ราย รักษาหายแล้ว จำนวน 39,118 ราย ยังรักษาอยู่ จำนวน 3,693 ราย เสียชีวิต จำนวน 415 ราย

หลังจากที่ ศูนย์โควิด 19 โคราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ เมื่อวานนี้ (14 ก.พ. 65)ว่า มีคลัสเตอร์โรงเรียนที่ต้องจับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 4 คลัสเตอร์ เนื่องจากพบนักเรียนติดเชื้อจำนวนมากต้องเร่งตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อรุกและเชื้อแพร่กระจายออกไปหลายวง ได้แก่

1. คลัสเตอร์โรงเรียนบ้านเจริญผล ต.มาบกราด อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา เป็นคลัสเตอร์เก่า ซึ่งผู้ป่วยรายแรกเป็นนักเรียนชั้น ป.3 มีอาการไข้ไอเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ทาง รพ.พระทองคำ และทีมสอบสวนโรคจึงค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในกลุ่มเพื่อนร่วมห้องและกลุ่มที่นั่งรถรับส่งไปโรงเรียนคันเดียวกัน พบติดเชื้อ 13 ราย และนักเรียนที่ติดเชื้อร่วมห้องกับญาติได้กระจายเชื้อไปวง 2 ทำให้ติดเชื้อเพิ่มอีก 20 ราย และเชื้อกระจายไปวง 3 และ 4 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงติดเชื้ออีก 9 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อแล้ว 42 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 4 ราย

2. คลัสเตอร์โรงเรียนเทศบาล 2 อ.บัวใหญ่ เป็นคลัสเตอร์เก่า ซึ่งเริ่มจากครูผู้สอนชั้น ป.2/1 ติดเชื้อโควิด-19 รพ.บัวใหญ่ จึงค้นหาเชิงรุกในเด็กนักเรียนและครูที่ใกล้ชิด พบติดเชื้อเพิ่มอีก 6 ราย ซึ่งเด็กนักเรียนหนึ่งรายที่ติดเชื้อได้แพร่เชื้อไปวง 2 สู่คนในครอบครัวอีก ทำให้ญาติร่วมบ้านติดเชื้อ 2 ราย ล่าสุด จากการตรวจเชิงรุกเพิ่มเติมทำให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกทั้งในวงที่ 1 และ 2 มากถึง 71 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อแล้ว 86 ราย โดยเป็นครูติดเชื้อ 2 ราย นักเรียน 55 ราย และญาติร่วมบ้านอีก 29 ราย ส่วนกลุ่มเสี่ยงในวง 2 อยู่ระหว่างการกักตัวสังเกตอาการ

3. คลัสเตอร์โรงเรียนรัฐการุณวิทยา ต.ทองหลาง อ.จักราช (อ่านว่า จัก-กะ-หลาด) เป็นคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่าแม่ของเด็กนักเรียนที่ติดเชื้อรายแรกเป็นกลุ่มเสี่ยง จึงพาครอบครัวไปตรวจหาเชื้อ และพบว่าลูกของตนที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 ติดเชื้อ ทาง รพ.จักราช จึงรายงานไปที่โรงเรียนให้ทราบ จากนั้นทีมสอบสวนโรคจึงค้นหาเชิงรุกในเด็กนักเรียนชั้น ป.6 และเพื่อนที่สนิทสนมในกลุ่มที่เรียนลูกเสือ-เนตรนารีด้วยกัน ก็พบว่ามีนักเรียนติดเชื้อเพิ่มอีก 5 ราย ต่อมาตรวจค้นเชิงรุกเพิ่มอีกในกลุ่มนักเรียนร่วมห้อง พบติดเชื้อ 12 ราย และค้นหาเชิงรุกในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงร่วมบ้าน ครอบครัว และผู้ใกล้ชิดในวง 3 พบติดเชื้ออีก 12 ราย จากนั้นค้นต่อในวง 4 กลุ่มเครือญาติผู้สัมผัสใกล้ชิด พบติดเชื้อ 5 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์นี้แล้ว 35 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 149 ราย ซึ่งให้กักตัวดูอาการที่บ้าน ส่วนโรงเรียนปิดการเรียนการสอนออนไซต์วันที่ 9-18 กุมภาพันธ์ 2565

4. คลัสเตอร์โรงเรียนบ้านหนองพลวง ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา เป็นคลัสเตอร์ใหม่ ตรวจพบจากการตรวจ ATK ก่อนทำการสอบ O-NET ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 โดยนักเรียน ป.6ที่จะต้องเข้าสอบ และครูผู้คุมสอบ รวมจำนวน 41 คน ตรวจ ATK พบผลบวก จึงตรวจ PCR ยืนยันผล พบติดเชื้อ 12 ราย โดยเป็นครุ 1 ราย และนักเรียน 11 ราย ทาง รพ.สต.หนงอพลวงมะนาว และเทศบาลตำบลโพธิ์กลาง จึงตรวจเชิงรุกเพิ่มในกลุ่มครู นักเรียน และผู้ปกครอง รวม 220 คน พบติดเชื้อเพิ่มอีก 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียน ป.6 ใน 2 ครอบครัว สรุปคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อแล้ว 42 ราย ทางโรงเรียนได้สั่งปิดเรียนวันที่ 12-21 กุมภาพันธ์ 2565 ให้จัดการเรียนการสอนออนไลน์ 100 %

เบื้องต้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 1-7 ที่มีโรงเรียนในสังกัดจำนวนกว่า 1,400 แห่ง ได้พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ขอปิดเรียนแบบออนไซต์ไปก่อน กว่าร้อยละ 70 เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่บุคลากรและนักเรียนเป็นหลัก และให้จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ไปก่อนตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่

ที่มา www.tnews.co.th


วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

ปู่ ย่า ขับรถพาหลานวัยแปดเดือนติดโควิด ตระเวนหาไม่มี รพ.ไหนรับ

ปู่ ขับรถตระเวน 3 จังหวัด พาย่าและหลาน 8 เดือน ที่ติดโควิด หาโรงพยาบาลรักษา แต่ไม่มี รพ.ไหนรับ เนื่องจากเตียงเต็มและไม่มีหมอรักษาเด็ก


นายเอกภพ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าตรวจอาการเด็กหญิงวัย 8 เดือน ผลปรากฏว่ามีค่าออกซิเจนในเลือดที่ต่ำมากๆ วัดไข้ได้ 38 องศา เด็กมีอาการหายใจติดขัด จึงให้ทีมงานประสานไปยังโรงพยาบาลเด็ก ถนนราชวิถี ทันที พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพ่อแม่ที่มีลูกอ่อนให้ระวังเป็นพิเศษ เพราะโควิดระลอกนี้เด็กมีอาการหนักมากและทรุดลงอย่างรวดเร็ว

นายวิรัช ซึ่งเป็นปู่ของเด็ก ได้เล่าว่า เมื่อ 5 วันที่แล้ว ลูกสาวกับลูกเขยติดเชื้อโควิดและไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยช่วง 12.00 น. ของวานนี้(9 ม.ค.65) ตนเองกับภรรยา และหลานสาววัย 8 เดือน ได้ไปตรวจโควิดที่ปทุมธานี จากการตรวจพบว่าย่ากับหลานสาววัย 8 เดือน ติดเชื้อโควิด ส่วนตนเองไม่ติด และโรงพยาบาลแจ้งว่าตอนนี้เตียงเต็ม ต้องรออีก 150 คิว เตียงถึงจะว่าง จึงให้กลับไปกักตัวอยู่ที่บ้าน หรือติดต่อโรงพยาบาลอื่น


จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันเดียวกัน หลานมีอาการหายใจติดขัด ตัวร้อน อาการค่อยไม่ดี แย่ลงเรื่อยๆ จึงตัดสินใจขับรถพาหลานไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่เปิดอยู่ในปทุมธานี กรุงเทพฯ และนนทบุรี โดยให้ลูกช่วยติดต่อประสานตามโรงพยาบาลต่างๆ อีกทาง แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับ เนื่องจากทุกโรงพยาบาลไม่มีหมอรักษาเด็ก จึงตัดสินใจจอดรถรอริมถนนหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนนทบุรี เพื่อรอถึงตอนเช้า หมอเด็กมาทำงาน โรงพยาบาลจะได้รับรักษา โชคดีช่วงประมาณเที่ยงคืนมีเจ้าหน้าที่ของเพจ “สายไหมต้องรอด” ติดต่อเข้าให้การช่วยเหลือ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์


วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2564

คนทำงานกลางคืน เตรียมเฮ รัฐบาลมีนโยบายเยียวยาแล้ว

กระแส "เงินเยียวยา 12,500 บาท" กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ในโซเชียลมีการแชร์กันว่า ทางรัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือ คนทำงานกลางคืนจากผลกระทบสถานการณ์โควิด ข่าวนี้จะเชื่อถือได้ไหม รีบเช็คเลย


หลังจากมีผู้แชร์ข้อมูลบนโซเชียลว่า กลุ่มคนทำงานกลางคืน จะได้รับเงินเยียวยา สูงสุด 12,500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นอย่างมาก เมื่อทางสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เผยว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องจริง

โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้เข้าหารือร่วมกับที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน นางสาวสุนทราลักษณ์ เพ็ชรกูล จากสภาพัฒน์ และผู้แทนกลุ่มคนกลางคืน นำโดย ตัวแทนนักดนตรี คุณธเนส สุขวัฒน์, ผู้จัดงานคอนเสิร์ต คุณวรพจน์ นิ่มวิจิตร, ตัวแทนผู้จัดงานคอนเสิร์ต อีเว้นท์ จากสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย ถึงแนวทางการเยียวยานักร้อง, นักดนตรี, นักแสดง และผู้ประกอบการสถานบันเทิงผับ, บาร์ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 


โดยกระทรวงแรงงานได้มีการเปิดเผยว่าแนวทางการเยียวยา นักร้อง, นักดนตรี, นักแสดง และผู้ประกอบการสถานบันเทิงผับ บาร์ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มนายจ้างให้ลงทะเบียนโครงการ SME (โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงาน)ต่ออีก 1 เดือน เพื่อช่วยเหลือนายจ้างกลุ่มนี้ 3 เดือน โดยไม่มีภาษี

กลุ่มลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม จะให้ประกันสังคมเยียวยาว่างงานจากเหตุสุดวิสัยจ่าย 50% (คิดจากฐานค่าจ้างสูงสุด 15,000 บาท เท่ากับ 7,500 บาท) และจ่ายอีก 5,000 บาท จากรัฐบาล (ม.33เรารักกัน)

กลุ่มลูกจ้างที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม จะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล โดยใช้เงินกู้จากรัฐบาลแต่ต้องให้สมาคม/สมาพันธ์รับรอง 

ส่วนผู้ที่อายุเกิน 65 ปี ซึ่งไม่เข้าข่ายมาตรา 40 ของประกันสังคมจะประสานให้กระทรวงวัฒนธรรมสำรวจตัวเลขและเป็นผู้ดูแลเยียวยาต่อไป

ที่มา : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม, www.komchadluek.net


กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...