แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวออนไลน์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวออนไลน์ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อชื่อเสียงของเขา แต่ดราม่าหนักๆ จนเป็นที่จดจำกันได้ดี คือ เรื่อง "เสียอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม" และกรณีข่าวทำดาราท้อง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตส่วนตัวและอาชีพของเขา




ดราม่า "เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม"
เกิดขึนกับ ฟิล์ม รัฐภูมิ เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เซียนพระเครื่องชื่อดังนั้น โดยมีข่าวว่า "เสียอู๊ด" สิทธิกร บุญฉิม ได้ให้การช่วยเหลือครอบครัวของฟิล์ม ทั้งบ้าน รถ และเงินจำนวนมากนับสิบล้านบาท ซึ่งทางด้าน ฟิล์ม ออกมาปฏิเสธในตอนแรก แต่ในภายหลังเขายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ก่อนที่เสียอู๊ดจะจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายในโรงแรมแห่งหนึ่ง เรื่องนี้สร้างความขัดแย้งและ
ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคม

ดราม่า "ทำดาราท้อง"
ช่วงที่เขามีชื่อเสียงสูงสุดในวงการบันเทิง ข่าวลือเกี่ยวกับการทำดาราท้องทำให้ฟิล์มถูกโจมตีอย่างรุนแรง จนเจ้าตัวเครียดถึงขั้นทานยานอนหลับเกินขนาดจนเป็นข่าวดัง แต่หลังจากการตรวจสอบดีเอ็นเอแล้วก็พบว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ฟิล์ม จึงออกมาแถลงข่าวเพื่อเคลียร์ข้อสงสัยและปกป้อง ตัวเองจากข่าวลือที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์เหล่านี้ ฟิล์มตัดสินใจบวซและไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ เพื่อค้นหาความสงบ และห่างไกลจากความวุ่นวายของวงการบันเทิง


ข่าวล่าสุดเป็นเรื่องคลิปเสียง
ชื่อของ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้ถูกพูดถึงอีกครั้งหลังจากมีคลิปเสียงหลุด ที่อ้างว่าเขาไปพูดคุยกับ "บอสปัน" เจ้าของบริษัท ดีไอคอน เพื่อเรียกร้องเงินจำนวน 20 ล้าน ซึ่งเป็นข่าวที่ถูกพูดในรายการ "โหนกระแส" โดยมีการอ้างถึงชื่อ "หนุ่ม กรรชัย" ซึ่งเป็นการสร้างความขัดแย้งในสื่อ โดยต่อมาโฆษกของพรรดพลังประชารัฐได้อออกแถลงข่าวทันทีว่า ฟิล์มไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐมานานแล้ว

วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“แจ็ค แฟนฉัน” แต่ง “ใบหม่อน” วันวาเลนไทน์ คนบันเทิงร่วมยินดีคึกคัก

“แจ็ค แฟนฉัน” พิธีกรและนักแสดงดัง เข้าประตูวิวาห์ในวันวาเลนไทน์ (14 ก.พ.67) กับแฟนสาว “ใบหม่อม กิตติยา”  บรรยากาศหวานชื่นพี่น้องในวงการร่วมยินดีสุดคึกคัก


หลังจาก พิธีกรและนักแสดงสายฮา “แจ็ค แฟนฉัน” หรือ “เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์” และแฟนสาวดีกรีนางเอก “ใบหม่อน - กิติยา จิตรภักดี” ประกาศข่าวดีกำลังจะมีเบบี๋ ล่าสุดเริ่มต้นชีวิตคู่แล้ว โดยถือฤกษ์ดีวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เข้าพิธีแต่งงานสุดชื่นมื่น


โดยในช่วงเช้ามีพิธีแห่ขันหมากและแต่งแบบไทย มีครอบครัวทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงเพื่อน พี่ น้อง ทั้งนอกและในวงการบันเทิง อาทิ “ซี ศิวัฒน์ , มดดำ คชาภา , มาริโอ้ เมาเร่อ , เป้ อารักษ์ , นิกกี้ ณฉัตร , ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ , แจ๊ส –แจง , บอล เชิญยิ้ม ฯลฯ มาร่วมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวและร่วมเป็นสักขีพยานในความวันมงคลกันอย่างคึกคัก บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

โดย “แจ็ค แฟนฉัน” เผยว่าตื่นเต้นเป็น 2 เท่า เพราะนอกจากวันนี้จะเป็นวันวิวาห์แล้ว ยังได้เฉลยเพศลูกในท้องศรีภรรยาให้ทุกคนได้รู้ด้วยว่าเป็น "เพศชาย" สมใจพ่อแจ็คสุดๆ 







ที่มา www.pptvhd36.com

วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“แน็ก ชาลี” คลั่งรักร่ายยาว 10 เหตุผล ทำไมเลือก“กามิน”คนนี้

“แน็ก ชาลี” เผยตกหลุมรักติ๊กต๊อกเกอร์สาวชาวเกาหลี  “จี กามิน” โพสต์ร่ายยาว 10 เหตุผลที่เลือกผู้หญิงคนนี้ สารภาพรักให้โลกรู้พร้อมกับเปรียบเทียบชีวิตจริงเป็นบทละครซีรีส์ที่ตนเขียนและกำกับเอง !!


ล่าสุด “แน็ก ชาลี” ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "Ep1. ถ้าผมจะบอกทุกคนว่า ผมกำลังถูกจ้างให้เล่นซีรีส์ออนไลน์เรื่องนี้อยู่ ทุกคนจะเชื่อผมไหม? มันคงเป็นซีรีส์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ เรื่องหนึ่งเลยนะครับ แบบที่ผู้กำกับตั้งใจคิดไว้ทุกอย่างเลย ผมดีใจจัง ที่ได้ร่วมเล่น และได้กำกับเอง และอยู่ในทุกช่วงเวลา ถึงจะต้องเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม เสียอะไรไปหลายอย่าง"

"แต่เพื่อแลกกับรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ที่ผมได้กลับคืนมาในชีวิตของผมบ้าง และทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ถึงผมจะได้มันมาไม่นานหรือนานก็ตาม ผมก็ยอม"

"คุณจะเชื่อผมไหม ว่าก่อน 1 เดือนที่คุณจะได้ไปพบพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด นางเอกของผม หรือตัวละครอื่นๆ ที่เพิ่มมาเรื่อยๆ ที่ทำให้พวกเพื่อนๆ ได้เจอได้หลงรักพวกเขา ผมต้องทำอะไรบ้าง ผมจะมาเล่าให้ฟัง"

"ทุกคนนิสัยดีหมดนะครับ ((พิมพ์ยาวใครไม่ชอบข้ามได้เลยนะครับ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไร้สาระสำหรับหลายคนมากๆ และน่ารำคาญตา หรือบางคนไม่ได้อยากเห็นก็จะเซ็งเพราะมันเด้งไปรบกวนหลายคนมากๆ หรือใครบางกลุ่มดูทีเดียวก็จะดูออกเลยว่าจริงๆแล้ว อะไรคืออะไรเป็นอย่างไรบ้าง หรือหากอ่านแล้วผมดูเพ้อเจ้อ ก็ด่าว่าผมได้เลย ผมชินแล้ว))"

"มาเริ่มเรื่องกัน จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือการที่ผมเป็นคนนอนหลับยากนะครับ วันหนึ่งผมจะนอน 1 - 2 ชั่วโมง หรือบางอาทิตย์ผมก็ไม่ได้นอนเลย และผมก็ดูติ๊กต๊อก และก็ซ่อมเครื่องดนตรีของผมไปด้วยหลังผมเลิกงาน มีทั้งผู้หญิง และ ผช. หลายคนมากๆ นะครับที่ผมเฝ้าดูเขา และใช้เวลาทำการบ้านเก็บข้อมูล"

"ผมนั่งดูคนอยู่หลายประเทศมากๆ และผมก็ ทบทวนอยู่สักพักจนผมเลือกผู้หญิงคนหนึ่ง และเขาก็เป็นคนเกาหลี ชื่อ จีกามิน เพราะผมรู้สึกว่า น่าจะทำให้คนเข้าถึงได้มากที่สุด เนื่องจากเพื่อนๆ คนไทยหลายคนชอบดูซีรีส์เกาหลีอยู่แล้ว และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ผมมั่นใจมากๆ ว่า ถ้าหลายคนได้เข้าไปดูเขาแล้วคุณจะสามารถดูเขาได้เป็นระยะยาวจนทำให้ชีวิตของคุณต้อง ตาเป็นแพนด้า ตื่นสาย ง่วงระหว่างทำงาน ทำงานกันได้ไม่เต็ม 100% เสียงาน เสียการ ได้เลยแหละ 55555 (หยอกๆ หรือเกิดขึ้นจริงกับบางคน? อิอิ นี่ผมยอมไม่เข้าคุยกับสาว เพื่อปรับเวลานอนให้พวกคุณหลายคนเลยนะจากที่แรกๆ ได้นอนเช้ากันหมด555)"

"แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบซีรีส์เรื่องนี้เลยก็ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้หมด ((ทำไมผมถึงเลือกนางเอกคนนี้)) ง่ายนิดเดียวครับ ยกตัวอย่างแค่ 10 ข้อนี้เองก็พอ"

1. หน้ากามินคล้ายคนไทยครับ

2. กามินนอนน้อยเหมือนผม ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ขอไม่อธิบาย ให้เพื่อนๆ ช่วยอธิบายกันเองขอบคุณครับ

3. แววตาที่ดึงดูดหลายคนได้ในชั่วขณะ

4. เขาอายุเท่าผม

5. เรามีไฝที่เดียวกัน (ไม่เกี่ยวเรื่องโชคชะตาใดๆ แต่ไฝนี้ผมสามารถเอามาเป็นฉากน่ารักๆ ในเรื่องบางตอนได้)

6. กามินเขาพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ค่อยเก่ง (ส่วนตัวผมเอง.!ชาลี.!ระดับภาษาของผมเรียกว่าโง่เลยก็ได้ 55) นี่คือจุดสำคัญของการดำเนินเรื่อง

(ระหว่างทางของซีรีส์พวกคุณจะได้เห็นความน่ารักและความน่ารำคาญในการคุยกันไม่รู้เรื่องของพระเอกและนางเอก นางเอกพยายามฝึกภาษาไทยมากๆ แต่พระเอกแม่งไม่พยายามอะไรเลย แต่นี่แหละอยากให้รู้มันคือความหวังดีของผม ที่ทำให้เขาพูดได้ร้องเพลงไทยได้ จนพวกคุณตกหลุมรักเขา และก็ได้ทำให้มีคนอีกมากมาย ที่น่ารัก เข้ามาช่วยแปลช่วยดำเนินเรื่องนี้ ให้สมบูรณ์แบบ)

7. เพราะเขามีรอยสัก ปกติเราจะแทบไม่เห็นนางเอกซีรีส์สักหลายๆ จุดรอบๆ ตัว เขามีลายสักเล็กๆ ที่น่ารัก หลายๆ จุด ผมเชื่อว่าแต่ละลายสักก็จะมีความหมายและเหตุผลที่เขาสัก ต่างๆ ออกไป (ผมไม่เคยถามหาความหมายแต่ละอย่างของลายสักเขา ผมว่าหลายคนคงเดากันได้อยู่แล้ว อาจจะเดาผิดเดาถูก แต่มันก็คือความทรงจำของเขา และเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง มันน่าตื่นเต้นดี และตัวเขาเองกับวันเวลาจะเป็นตัวบอกที่มาของแต่ละรอยสักๆ เอง อิอิและผมก็จะได้เพิ่มรอยสักด้วยเมจิกกับปากกาเป็นสัญลักษณ์ หัวใจ ที่ผมจะจดจำตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นยังไงมันก็เป็นเรื่องที่เคยน่ารัก ถึงช่วงหนึ่งลายนั้นมันจะถูกสั่งให้ลบด้วยใครก็ตาม แต่ผมเข้าใจทุกอย่าง)

8. เขากินเก่งมากๆ 555555555555555555

9. เขามีความสามารถพิเศษมากมาย ที่เขายังจะไม่โชว์มันเต็ม 100% เขาทำได้อีกหลายอย่างนะครับ ที่หลายคนคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น การเต้น จริงๆ เขาจะโชว์เต้นแบบ สุดยอดไปเลยก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะ ใช้มันเพียงน้อยนิด ให้ดูน่ารักๆ เวลาเขาไลฟ์ ( หรือเรียกว่า คนมีของแต่เก็บไว้นั่นเอง55)

10. ข้อนี้น่าอายที่สุด คนใกล้ตัวอย่ามาล้อผมนะ ...ผมหลงรักเขาจริงๆ ไม่น่าเชื่อเลย ผมใช้ใจและ ความรู้สึกจริงๆ ของผม เล่นเรื่องนี้ไปด้วยในระหว่างทาง ถึงรู้ว่าจุดจบมันจะเป็นยังไง อะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง แต่อย่างน้อย มันก็มีหลายช่วงเวลา ที่ทำให้ผมกลับมายิ้มได้ หัวเราะได้ และอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองในหลายๆ อย่าง ที่เคยทำผิดพลาด ถึงมันอาจจะยังไม่ถูกใจใครทั้งหมดก็ตาม...โอ้ พิมพ์ไปมา 3 ทุ่มละ

"เอ้อ อีกอย่าง นี่ไม่ใช่ซีรีส์หรือหนังจริงๆ 100% นิมันมีเรื่องจริงและความรู้สึกผสมอยู่ด้วยของคนอื่นในเรื่องนี้ ผมไม่รู้ว่าเขาใช้ความรู้สึกในการเล่นกันมากน้อยเท่าไหร่นะ เพราะมันมีหน้าที่การงานของพวกเขาจริงๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อนๆ ต้องเข้าใจกันด้วยนะครับ แต่ของผมนี่สิ มันคือใจล้วนๆ เลย ที่เล่นให้ทุกคนได้ดู อิอิ แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ซีรีส์หรือหนังที่ถูกเขียนบทมา 100% แปลว่า ถึงผมจะเป็นผู้กำกับและดำเนินเรื่องสร้างมันขึ้นมา แต่ผมก็ไม่สามารถเดาตอนจบของมันได้จริงๆ นิ เย่ๆ ดีจายยยยยยยยยย"

"เอาเป็นว่า เดี๋ยวไว้มาพิมพ์ต่อ เผื่อยังมีใครอยากอ่านนะ แต่ถ้ารำคาญ ไม่อยากอ่านหรือจะเกลียดผมแล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับผม ทุกคนมีความสุข ผมก็มีความสุขที่ได้เห็นทุกคนมีความสุขนะครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อ นี่แค่เริ่มเรื่องเอง ขอตัวไปเตรียมทำงานก่อนครับขอให้ทุกคนมีความสุขในวันแห่งความรักวันนี้นะ มิตรภาพที่ดีมันน่ารักแบบนี้นี่เอง อิอิ ยินดีด้วยกับทุกสิ่งที่ได้รับ จาก fc คนหนึ่ง อิอิ อิจฉาผมหล่ะซี๊ มีรูปน่ารัก วิดีโอน่ารักอีกเพียบเลย จะลงทุกวันติดๆ กันเลย กามิน แฮปปี้ แน็ก แฮปปี้ และ ชาลีแฟมิลี่แฮปปี้"

ที่มา อัมรินทร์ทีวี



วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2567

“เอ๋ มิรา” ซัดแรงอวดรวยแต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร หลังชนะคดี

ชนะคดีแล้ว! นักร้องสาว “เอ๋-มิรา ชลวิรัลวานิศร์” ฟาดแรงปมค่าเลี้ยงดูบุตร เผยต่อจากนี้ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงลูกเอง 


เอ๋-มิรา ชลวิรัลวานิศร์ อดีตภรรยา ไพบูลย์ แสงเดือน เช็คอินที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.เลย พร้อมออกมาเคลื่อนไหวหลังชนะคดี โพสต์แรงปมค่าเลี้ยงดูลูก งานนี้ทำเอาเดือดโซเชียลปุดๆ 

โดย เอ๋-มิรา ได้เขียนแคปชันอ้างถึงคู่กรณี หลังศาลสั่งจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร ไว้ว่า “ผมไม่เอาลูก! ไม่เอาใคร! ไม่เอาอะไรก็ได้ ขอแค่ผมไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละหมื่น โอ้ อิหยังกินความคึดมึงน้อ พูดต่อหน้าลูกในศาลแบบนี้ ลูกจะรู้สึกยังไง ไม่อยากได้ลูกแล้วฟ้อง เพื่อ!แค่ไม่อยากจ่ายนี่นะ สุดท้ายศาลให้จ่าย บ่มีเงินจ่ายปานนั้นอวดรวยคักเข้าใจคำว่า-ิบหายยัง”  

พร้อมทั้งร่ายความในใจต่ออีกว่า “ศาลให้จ่ายย้อนหลังรวม 9 เดือน รวม 9 หมื่น บ่มีเงินจ่าย แทนที่จะพูดกับเราดีๆ ด่าเราต่อหน้าลูกอีก จะให้เห็นใจยุเบาะคนแบบนี้ อย่าหวังว่าจะได้มาใกล้ลูกฉันอีก พ่อ ที่แปลว่า พ่-ตาย!!”

นอกจากนี้ยังได้บอกต่ออีกว่า “คดีสิ้นสุดวันนี้เลย ชนะจ้า หาเงินเลี้ยงลูกต่อไป เพราะเราคือมนุษย์แม่ จบแบบเท่ๆ” ท่ามกลางคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้อย่างมากมาย

ที่มา PPTV Online

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

พีอาร์สาว ร้องนายกฯ ถูกตำรวจเรียกเงิน-ข่มขืน แลกคดียาเสพติด

พีอาร์สาวเข้าร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดี อ้างถูกตำรวจ 7 นาย จับคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และถูกเรียกรับเงินกว่า 300,000 บาท และยังได้ถูก 1 ใน 7 ตำรวจได้พาไปข่มขืนที่โรงแรมย่านรังสิต


วันนี้ (12 ธ.ค.2566) หญิงสาวที่ตกเป็นผู้เสียหายพร้อมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมานำหลักฐานใบแจ้งความ เอกสารใบส่งตัวดำเนินคดี และรายการเดินบัญชีธนาคารมามอบให้กับ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือและติดตามคดี

โดยทางผู้เสียหาย และสามี อ้างถูกตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดปทุมธานี 7 นาย บุกค้นตัวในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านคลองห้า ถนนรังสิต นครนายก เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพบเคตามีนจำนวนหนึ่ง ก่อนถูกคุมตัวแยกขึ้นรถคนละคันกับสามี จากนั้นตำรวจได้ขอดูยอดเงินในแอปพลิเคชัน ธนาคารในโทรศัพท์ พบว่าเธอมีเงินในบัญชีมากกส่า 360,000 บาท จึงพูดข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับเธอและสามีในข้อหาหนัก ก่อนพูดหว่านล้อมเรียกรับเงิน 300,000 บาท แลกกับการดำเนินคดีในข้อหาเสพ ซึ่งมีโทษเบากว่า เธอจึงยินยอมจะจ่ายให้

หลังจากนั้นตำรวจได้พาเธอขึ้นรถตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ตัวเมืองปทุมธานี 200,000 บาท และโอนเงินไปให้บัญชีสามีไปกดเพิ่มอีก 100,000 บาท ในพื้นที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยมีตำรวจประกบตัวอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นตำรวจคนที่อยู่บนรถกับเธอแค่สองคน ได้ขอมีเพศสัมพันธ์ โดยอ้างว่าเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยเหลือวิ่งเต้น เธอปฏิเสธแต่ตำรวจข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีหากไม่ยินยอม ก่อนบังคับพาเข้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งย่านรังสิต จนสำเร็จความใคร่ และขู่บังคับเรียกเงินเพิ่มอีก 300,000 บาท ส่วนสามีถูกส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้เสพ (ยาบ้า 2 เม็ด )

โดยทางด้านสามีผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนถูกตรวจค้นจับกุม ได้ซื้อยาเสพติดมาจากนายกอล์ฟ ที่เคยซื้อขายยาเสพติดกันมาอยู่บ่อยครั้ง คาดว่าเป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจเข้ามาจับจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ภรรยาต้องเสียเงินไปกว่า 300,000 บาท และถูกข่มขืน 

หลังรับเรื่อง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ได้ประสานไปยังโฆษกอัยการสูงสุดและกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยทันที ให้ดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อุ้มหายและทรมาน ซึ่งยืนยันว่าตำรวจทั้ง 7 นายนั้นเข้าข่ายการกระทำความผิดอย่างชัดเจน เพราะระหว่างการจับกุมไม่มีการบันทึกภาพวิดีโอเป็นหลักฐานตั้งแต่กระบวนการจับกุมจนถึงขั้นตอนพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ยังได้ประสานไปทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ช่วยตรวจสอบเรื่องเส้นทางยาเสพติดเพิ่มเติม โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะถือว่าเป็นการปล่อยปละละเลยทำให้ระบบการทำงานของตำรวจเสียหาย พร้อมย้ำว่าตัวเองจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ตามรายงานได้แจ้งว่า ตำรวจชุดจับกุมมี ร้อยตำรวจตรี 1 นาย ดาบตำรวจ 3 นาย จ่าสิบตำรวจ 1 นาย สิบตำรวจเอก 2 นาย

โดยทางด้าน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำความผิดตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างมีโทษทางวินัยและอาญาต่อไป

ที่มา ไทยพีบีเอส

วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

แม่ใจจะขาด เจอคลิปสุดท้าย ก่อนลูกสาวจมน้ำตายร้องให้ช่วย คนบนฝั่งยืนมองหัวเราะกันคิกคัก

แม่ใจจะขาด เห็นคลิปสุดท้ายก่อนลูกสาวจมน้ำตาย ร้องขอให้ช่วย คนบนฝั่งยืนมองบอกปล่อยให้มันตายไปเลย


เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ผู้สูญหายในน้ำ บริเวณบ้านห้วยตาสี หมู่ที่ 6 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นคลองชลประทานลึกประมาณ 3 เมตร ชุดค้นหาใต้น้ำอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท ได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงลงค้นหาจนพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ น.ส.สุรัตวดี อายุ 32 ปี ที่อยู่ตำบลเนินขาม อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท จากนั้นนำร่างส่งมอบญาติดำเนินการทางศาสนา ณ ที่พักสงฆ์ละหานใหญ่เจริญศรี (วัดห้วยตาสี)

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2566 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก นางสุรินทร์ อายุ 52 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต หลังมีคลิปหญิงสาวกำลังจมน้ำแต่ไม่มีใครลงไปช่วยและได้จมน้ำเสียชีวิตต่อหน้าของทุกคน จึงได้มีการแจ้งกู้ภัยช่วยเหลือ โดยผู้เป็นแม่ร่ำไห้สงสัยทำไมคนถ่ายคลิปและคนยืนดูอีกหลายคนไม่ช่วยเหลือ

นางสุรินทร์ เปิดเผยว่า มีความรู้สึกคาใจว่าลูกเราตกน้ำมีคนเห็นเขาน่าจะช่วย วันนั้นเขาไปเล่นน้ำตอนมืดแล้วประมาณ 2 ทุ่ม มีคนเล่าว่าลงเล่นน้ำฝั่งนี้แล้วลื่นไปอีกฝั่งหนึ่งแล้วไปกอดต้นโสน จากนั้นหลุดจากต้นโสนลอยน้ำไป เขาร้องโอยๆ อยากให้ช่วย แต่มีคนบอกว่าลูกโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่คลิปหลุดมาไม่ใช่การฆ่าตัวตายเพราะลูกร้องให้ช่วย ซึ่งวันเกิดเหตุลูกดื่มเหล้าก่อนที่จะลงเล่นน้ำ

นางสุรินทร์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าลูกจะเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่ตอนเราได้ยินเสียงลูกร้องในคลิปแล้วรู้สึกเจ็บปวด ไม่มีใครช่วยเลย หมาตกน้ำเรายังช่วยเลย นี่คนทั้งคน จะบ้า จะบอ จะดีอะไรก็ตาม เมื่อก่อนเขาเป็นคนดีมาก หลังๆเขาไม่ค่อยสบายเขาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครกินแต่เหล้า ตรงที่เจ็บปวดคือคำว่า “ปล่อยไปเลย ให้มันจมน้ำตายไปเลย มันเรียกร้องความสนใจ ให้มันจมน้ำไปก่อนแล้วค่อยโทรหาปอเต็กตึ๊ง”

ได้ยินเสียงลูกร้อนโอยๆ มันเจ็บปวดเหลือเกิน ลูกเขาก็ร้องไห้ทำไมเป็นแบบนี้ไม่มีใครช่วยเลย อยากรู้ว่าคนถ่ายคลิปเอาหัวใจอะไรมาใส่ ทำไมไม่ช่วยคนทั้งคน อยู่กันตั้งหลายคน ตอนที่ยังไม่ห่างตลิ่ง หรือโทรหาคนมาช่วยก็ได้หรือตามคนที่บ้านไปช่วยก็ได้

ที่มา สนุกดอทคอม

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ชูวิทย์ เดินหน้าแฉต่อ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม' มีเงินทอน 30,000 ล้านได้ถูกโอนไปสิงคโปร์แล้ว

กลายเป็นมหากาพย์การแฉไปแล้ว เมื่อชูวิทย์ออกโรงแฉ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เตรียมให้เป็นทุนเตรียมเลือกตั้ง ตั้งข้อสังเกตฮั้วประมูลตั้งแต่ต้น เงินทอน 30,000 ล้าน ถูกโอนไปสิงคโปร์


กรณีการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ที่ดูเหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะที่ผ่านมามีการเปิดประกวดราคาหาเอกชนเข้ามาดำเนินมากถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นผู้ล้มประมูลเอง หลังจากนั้นเปิดประกวดราคาครั้งที่ 2 โดยมีการกำหนด TOR ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น 

หลายฝ่ายจับตามองขั้นตอนการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ไม่เว้นแม้แต่ นายชูวิศย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉซ้ำ ถึงขั้นตอนการประกวดราคา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเกิดการทุจริตในกระบวนการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มครั้งนี้หรือไม่ 

โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมายังบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับนนำป้ายขนาดใหญ่ซึ่งแสดงให้เห็นข้อมูลในเปิดประกวดราคาก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"

นายชูวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการประกวดจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ของ รฟม. โดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลนั้น มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายจุดโดยเฉพาะในขั้นตอนการประกวดราคา การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ร่างขอบเขตการทำงาน (TOR) ภายหลังจากที่มีการเปิดซองราคาไปแล้ว

โดยมีการกำหนดคะแนนด้านเทคนิคให้สูงขึ้น จนนำไปสู่การฟ้องร้องศาลปกครอง ต่อเนื่องไปจนถึงการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวเกิดการฮั้วกับเอกชน เพื่อที่จะรับเงินทอนและนำเงินไปเป็นทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ 

ทั้งนี้นายชูวิทย์ ได้แบ่งการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ครั้งนี้ออกเป็น 5 สถานี ได้แก่ 

-สถานีโกง  การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่เปิดขายซองประกวดราคาไปแล้ว โดยรูปแบบเดิมเป็นการให้คะแนนค่าก่อสร้าง และเงินตอบแทนที่รฟม.จะต้องคืนให้แก่เอกชน 

-สถานีทุจริต  มีการร้องศาลปกครอง โดยในชั้นต้นไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์แต่ในชั้นสูงสุดที่ประชุมใหญ่มีมติ 27:23 ให้สามารถเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ 

-สถานีฮั้ว  ในกระบวนกำหนด TOR รอบใหม่หลังจากที่การประกวดราคาครั้งแรกถูกล้มไปนั้นมีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บางบริษัทเข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว

-สถานีเงินทอน  พบว่า 30,000 ล้านบาทเข้ากระเป๋าใคร โดยพบว่ามีการโอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์ผ่านธนาคารเอกชนระหว่างประเทศ 

-สถานีปลิว เปิดประมูลรอบสองกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ต้องเคยเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปาทานกับรัฐบาลเท่านั้น ทำให้เหลือบริษัทเดียว 

"เกิดการล็อกสเปกแบบน่าเกลียด ผมโทษใครไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลผมก็โทษไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็ต้องการลงสมัครพรรคการเมืองเพื่อหวนคืนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ยกตัวเองโครงการใหญ่ที่เขาเอาเงินพวกเราไป เงินไป 70,000 ล้านแล้วมีเงินเข้าไปจ่ายค่าคอม 30,000 ล้าน โครงการรถไฟฟ้าสายส้มเป็นตัวอย่างโครงการรับเพียงตัวอย่างเดียว แสดงให้เห็นว่าระบบการทำงานพัง ' นายชูวิทย์กล่าว

ที่มา คมชัดลึก ออนไลน์

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

แร็พเปอร์-เน็ตไอดอลดัง ร้องเพลงโปรโมตมาเก๊า 888 ถูกคุมตัวค้นห้องเจอยาเสพติด

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้น 3 จุดใน 2 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. และสกลนครคุมตัวแร็พเปอร์-เน็ตไอดอลดัง ร้องเพลงโปรโมตมาเก๊า 888 เบื้องต้นค้นห้องเจอยาเสพติด 


เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (21 ก.พ.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พล.ต.ต. ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เปิดปฏิบัติการมาเก๊า888 Ep-6 ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุดใน 2 จังหวัด ประกอบไปด้วย กทม. และสกลนคร เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงเครือข่ายพนันออนไลน์มาเก๊า888

โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจุดแรกที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านพหลโยธิน พบมีผู้อาศัย 3 คน หนึ่งในนั้นมีน.ส.ธันยกานต์ โรจิณ หรือเมย์ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ และเน็ตไอดอลที่อยู่ในโฆษณาเว็บมาเก๊า 888 จากการตรวจค้นพบยาเคตามีน 5 กรัม ซึ่งเป็นของนายพีรวัส โรจิณ น้องชายของน.ส.เมย์ และพบน.ส.พลอย อยู่ในห้องพักด้วย

จากการสอบถามเบื้องต้นได้ให้การว่า เมื่อราวปี 2562 มีคนชื่อ “บิ๊ก” ติดต่อมาว่าจ้างเ พื่อให้โปรโมตเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบสวนที่บช.สอท. ในส่วนของยาเสพติดที่พบ นายพีรวัสให้การว่าซื้อมาในราคา 500 บาท จากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดี

นอกจากนี้ระหว่างการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบรถลัมโบร์กีนีจอดอยู่ที่อาคารจอดรถภายในคอนโดดังกล่าว เมื่อตรวจสอบพบสวมทะเบียนเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเชิญตัวเจ้าของรถมาทำการตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายพนันออนไลน์หรือไม่

จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเข้าตรวจค้นบ้านพัก ซ.ประชาอุทิศ33 แยก10 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดยอาศัยอำนาจตามหมายค้นของศาลอาญาที่ 201/2566 ลงวันที่ 20 ก.พ.66 ก่อนเชิญตัวน.ส.มิรา ดุรงคชยานุรักษ์ อายุ 32 ปี มาให้ปากคำ พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบ

จุดที่ 3 ที่จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านพัก ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของนายอนุวัฒน์ คำยา หรือเกียร์ แร็พเปอร์หนุ่มที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ AKA “MC KING” จากการตรวจค้นพบนายอนุวัฒน์อยู่ในบ้านดังกล่าว จากการสอบถามเบื้องต้นให้การว่า เป็นผู้แต่งและร้องเพลงประกอบโฆษณาของเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าวจริง จึงนำตัวมาสอบถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเครือข่ายพนันออนไลน์มาเก๊า 888

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลหาความเชื่อมโยงในคดีของมาเก๊า 888 โดยการตรวจค้นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้น 3 จุด ในกรุงเทพมหานครและสกลนคร ซึ่งเป็นแร็พเปอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่โฆษณาเว็บพนันออนไลน์ โดยจะทำการสอบปากคำและ แถลงข้อเท็จจริงต่อไป

ทีมา ข่าวสด


วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

'หมอธีระวัฒน์' แฉ! รพ.เอกชนซื้อ 'โมลนูพิราเวียร์' จากรัฐราคาแพงกว่าที่หมอหาซื้อเอง

‘หมอธีระวัฒน์’ โพสต์วอนรัฐช่วยทำให้โควิดเป็นเรื่องปกติ สามารถนำเข้ายาในราคาถูก พร้อมสั่งจ่ายได้เลย ไม่ต้องรอให้อาการหนัก ไม่ต้องหามเข้าโรงพยาบาล



นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thiravat Hemachudha โดยระบุว่า

"ขอร้องทางการช่วยทำให้โควิดเป็นเรื่องปกติ (ด้วยความเคารพครับ)

น้องๆหมอบอกว่า โรงพยาบาลเอกชนสั่งซื้อโมลนูพิราเวียร์ทำจากอินเดีย ยี่ห้อ mylan จากทางการไทย ได้ราคาชุดละ 10,600 บาท แต่หมอกันเองซื้อกันประมาณ 2,000 กว่าบาท ต่อชุด (40 เม็ด) หรือถูกกว่า จากสปป.ลาว เขมร อินเดีย (ยี่ห้อ เดียวกัน) เวียดนาม ประเทศเหล่านี้ขอความยินยอมจากบริษัทในการผลิตยาเองตั้งแต่ต้น

ทำอย่างไรประเทศไทยถึงจะได้ราคาถูกแบบนี้ และสามารถสั่งจ่ายได้เลยทั้งที่โรงพยาบาลทุกแห่ง และที่สำคัญก็คือร้านขายยาทุกแห่ง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์คือสีเหลืองขึ้นไปไม่ใช่ใช้เกินความจำเป็น จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องดื้อยา และไม่ต้องกังวลว่าจะมียาปลอมหรือไม่

คนที่รู้จักสนิทกลับมาจากเวียดนามสองวันที่แล้ว ยืนยันราคาตามนี้ขายตามร้านขายยาทั่วไป คนในประเทศเห็นเป็นเรื่องปกติแล้ว ไม่สบายซื้อยาและได้ยาตามความเหมาะสมเลย

ไม่ใช่รออาการหนัก จนยาเหล่านี้ไม่ได้ผล (เพราะต้องใช้แต่เนิ่นๆ) และไม่ต้องหามเข้าโรงพยาบาลที่ไม่มีเตียง ถ้าทางการมีการติดต่ออย่างจริงจังเราก็น่าจะได้ผลบุญเช่นนี้นะครับ"

ที่มา www.posttoday.com

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ศบค.ชุดเล็ก เตรียมชงเปิดสถานบันเทิง-เพิ่มโซนสีเขียว

หลังจากที่มีผู้ประกอบการสถานบันเทิง ยื่นหนังสือขอ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการ ให้เปิดกิจการได้ ทางด้าน ศบค.ชุดเล็กเตรียมชงศบค. 20 พ.ค. เปิดสถานบันเทิง ปรับโซนพื้นที่เป็นสีเขียว ผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม ชี้หากติดเชื้อ-ตายลด ประกาศเป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้น

เมื่อวานนี้(19 พ.ค. 65) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือเลขาสมช. พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ได้กล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19หรือศบค.ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ว่า ในที่ประชุมรายงานผลและประเมินทิศทางการทำงาน หลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเปิดประเทศ และปรับพื้นที่โซนสีจังหวัดให้มาตรการผ่อนคลายลง จากสีส้มเป็นสีเหลืองทั้งหมด และมีพื้นที่สีใช้มาตรการสีเขียว 17 จังหวัด และที่ประชุมจะพิจารณาปรับพื้นที่โซนสีให้ผ่อนคลายมากขึ้นจากสีเหลืองเป็นสีเขียว รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีฟ้ามากขึ้น เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในบรรยากาศที่สามารถจะผ่อนคลายมาตรการได้ และจะปรับมาตรการอื่น เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเดินได้สะดวกกว่าเดิม สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้คล่องตัว ลดภาระการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายส่วนที่มีข้อกังวลและต้องจับตาคือหลังจากเปิดสถานศึกษาเต็มรูปแบบ 100%โดยเรามีมาตรการรองรับไว้

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมในวันที่20 พ.ค.ด้วย ที่ผ่านมาพิจารณามาหลายรอบแต่ทางสาธารณสุข ยังมีความกังวลอยู่ แต่ในครั้งนี้น่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยดูจากวิธีการจัดการตนเองเมื่อติดเชื้อเป็นไปด้วยดี คิดว่าน่าจะได้รับการพิจารณา

พล.อ.สุพจน์ ยังได้กล่าวต่ออีีกว่า ส่วนการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศ อยู่ในขั้นตอนพิจารณา โดยจะดูพื้นที่ปลอดภัยเป็นหลัก และประเมินตามปัจจัยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเรื่องนี้นายกฯมอบแนวทางไว้นานแล้วว่าจะต้องพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง หากพื้นที่ใดพร้อม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะพิจารณาจากปัจจัยที่วางหลักเกณฑ์ไว้

ด้านการประเมินตัวเลขทางเศรษฐกิจจะเพิ่มแค่ไหน หากมีการผ่อนคลายสถานบันเทิงพล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากข้อมูลตัวเลขผู้ประกอบอาชีพกลางคืนมีหลายล้านคน ดังนั้นตัวเลขไม่ต้องกังวลเพราะจะเพิ่มขึ้นแน่นอน อีกทั้งพื้นที่ภาคการท่องเที่ยวก็จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวด้วยสำคัญที่สุดคืออาชีพของคนไทยที่เกี่ยวข้องข้อง 10 ล้านคน จะทำให้ธุรกิจจะขยาย สำหรับการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ต้องดูการฉีดวัคซีนจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต การบริหารจัดการของแต่ละพื้นที่ การปรับตัวของประชาชน เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ โดยนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อนจะประกาศ และมีโอกาสประกาศให้เร็วขึ้น หากสถานการณ์อาจเป็นไปตามปัจจัยที่วางไว้

โดยก่อนหน้าการประชุม ศปก.ศบค. นายคทาวุธ ทองไทย หรือ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมศิลป์หอไตร พร้อมด้วย นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย ตัวแทนสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน เข้าหารือกับ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงแนวทางการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ประเทศไทย โดยเป็นการยื่นตามความประสงค์ของสมาคมและผู้ประกอบการสถานบันเทิง ที่ต้องการขอให้ผ่อนคลายมาตรการให้สถานบันเทิงสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างอาชีพสร้างรายได้ หลังได้รับผลกระทบต้องปิด ไม่ประกอบกิจการ นอกจากการ ขอเปิดกิจการสถานบันเทิง ที่จะครอบคลุมและมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ผู้ประกอบการยังขอรัฐปรับลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยผู้ประกอบการได้อีกวิธีหนึ่ง

ที่มา โพสต์ทูเดย์

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เซียนพระชื่อดัง ป้อง "หลวงปู่แสง" ฟาดคนใกล้ชิดทำเสื่อมเสีย ซัดสื่อใส่สีตีไข่

เซียนพระเมืองขอนแก่น อ.ลิ้งค์  ป้อง"หลวงปู่แสง" ถาม"หมอปลา"ต้องการอะไร ฟาดคนใกล้ชิดทำเสื่อม สื่อทำเสี้ยม ทางด้านชาวโซเชียลเริ่มออกมา#saveหลวงปู่แสง


หลังจากเมื่อวานนี้ (11 พ.ค. 65) ที่ นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ "หมอปลา" พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนายโสธร และสื่อมวลชน บุกไปที่พักสงฆ์ของ "หลวงปู่แสง ญาณวโร" พระเกจิชื่อดัง อายุ 98 พรรษา และป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยอ้างเหตุมีการร้องเรียนพฤติกรรมลวนลามผู้หญิง จับหน้าอก จับของสงวน และให้ดื่มน้ำปัสสาวะ อ้างว่ารักษาโรค จนเกิดข่าวเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก 

ต่อมา เซียนพระชื่อดังเมืองขอนแก่น "ชนะวุธ อุทโท"หรือ อ.ลิ้งค์ คชาวุธ ได้มีการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า 

หลวงปู่อายุ 100 ปี อายุกาลพรรษาเกือบ 80 ปีท่านก็เหมือนปู่ย่าตายายของเรา คนแก่สังขารท่านหลงๆลืมๆ ผมขอพูดภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ "ท่านไม่เล่นขี้ก็บุญแล้ว" ท่านเดินไม่ได้ ลุกนั่งเองไม่ได้ จำใครแทบไม่ได้ ที่ผ่านมาเกือบ 80 ปีในร่มกาสาวพัตรท่านเคยมีเรื่องพวกนี้หรือ ท่านเป็นที่เคารพสักการะของสงฆ์และฆราวาสทั้งหลายในการปฏิบัติไร้ข้อด่างพร้อย

คณะอุปฐากก็ควรจะเอาใจใส่ท่านให้มากกว่านี้ หาใช่แต่ยุยงส่งเสริม ปล่อยเลยตามเลย อาสน์สงฆ์ไม่ใช่บริเวณที่ใครก็ขึ้นไปได้ โดยเฉพาะสตรี  เรื่องเคาะหัว เป่าหัวรักษาโรคภัยเป็นแค่ความเชื่อเฉพาะตน มันรักษาใครไม่ได้หรอก แต่มันคือกำลังใจ มันมีมานานแล้ว  อีกอย่างคณะอุปฐากตอบคำถามนักข่าวก็ตอบงงๆ งูๆปลาๆ ไม่ตั้งสติก่อนตอบ มีแต่ต่อปากต่อคำนักข่าวแทน จนหาเหตุผลปกป้องหลวงปู่ ต่อมากินเยี่ยวโชว์ เพื่อแจ้งให้เห็นถึงความศรัทธาบนความเขลาเป็นช่องให้นักข่าวขยี้

นักข่าวใส่สีตีไข่ ว่าเรื่องรักษาโรคบ้างล่ะ เรื่องพระธาตุบ้างล่ะ เพื่อจะให้เป็นการอวดอุตริมนุษธรรม เพื่อจะสึกพระอายุร้อยปี แล้วคิดว่าตนเจ๋งงั้นหรือ หลวงปู่ท่านเคยพูดงั้นหรือว่าเคาะหัวจับโน่นนี่นั่นแล้วจะหายมะเร็ง ท่านเคยพูดหรือว่าท่านเป็นอรหันต์ ท่านเคยยืนยันหรือว่าที่เป็นพระธาตุนั้นคือปฏิหาริย์ของท่าน ก็ศิษย์ท่านทั้งนั่นแหละ ที่เชื่อและมันเป็นสิทธิ์ของเขา อย่าไปเสือกเรื่องของเขาเพราะเขาก็ไม่เคยเสือกเรื่องของท่าน 

สองผัวเมียรับเรื่องมา ตั้งตนเป็นมือปราบได้พิจารณาก่อนมั้ยว่าในคลิปสื่อถึงอะไร คนถ่ายคลิปต้องการอะไร หาใช่จะเอาความคิดส่วนตนมาพิพากษาท่าน ใช้ถ้อยคำยั่วยุ ผรุสวาท มันสมควรแล้วหรือ แนะนำย้อนไปพันปีไปตัดสินอรหันต์จี้กงด้วย

เวรกรรมมีจริง เรื่องสงฆ์ให้สงฆ์ตัดสิน เรื่องกฎหมายให้ศาลตัดสิน เราทุกคนไม่มีสิทธิ์ตัดสิน ขบวนการรักษาศาสนาของท่าน มันกำลังบ่อนทำลายศาสนาอย่าไม่รู้ตัว พวกคอมเมนต์กันสนุกปากก็พิจารณาเอาเถิด 

ผมขอพูดภาษาชาวบ้านอีกครั้ง ท่านได้สี้ใครหรือยัง ถึงไปตัดสินท่านแบบนี้ จะเอาอะไรกับพระมหาเถระอายุร้อยปี ท่านประคองธาตุขันธ์มาถึงร้อยปีได้ก็บุญแล้ว การแตะเนื้อต้องตัวสตรีต้องอาบัตหากไม่รู้เนื้อตัวหรือสงฆ์อาพาธเป็นสังฆาทิเสส ตามพระธรรมวินัยหากแตะเนื้อต้องตัวแต่จิตใจไม่ได้คิดกำหนัดกามรมย์ก็เป็นอาบัต สามารถปลงอาบัตได้ 

ถ้าเหตุการณ์นี้ถ้าสองผัวเมียล้มหลวงปู่แสงลงได้ ก็ไม่ต้องไปหวังพึ่งอะไรแล้วในวงกรรมฐาน





ขณะที่ชาวโซเชียลต่างกดแชร์และคอมเม้นต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่พูดถึงไปที่ลูกศิษย์หรือคนใกล้ชิด เช่น ลูกศิษย์ทั้งนั้นหลวงปู่คงไม่ปัญญาทำอะไรใครได้หรอกดูสังขารท่านสิท่านมีบารมีทำร้ายท่านไม่ได้หรอกพวกมาร , ขอกรรมจัดการพวกสื่อเสี้ยมและหมอผีตกงานพร้อมพรรคพวก สาธุๆ , ปัญหาคือ ลูกศิษย์ลูกหา พระลูกวัด หรือคนที่ใกล้ชิดทำไมไม่ดูแลท่าน ท่านแก่มากๆๆแล้วนะ..อย่าหาแต่ผลประโยชน์จากท่าน..,ไอ้พวกลูกศิษย์ตัวดีเห็นแก่ผลประโยชน์ เป็นต้น 


วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

'อิงฟ้า' งานเข้า ต้นสังกัดจ่อดำเนินคดีผิดสัญญาห้ามรับงาน 'ณวัฒน์' ลั่นอยู่กับแกรนด์ไม่ต้องกลัว

อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2022 งานเข้าเมื่อต้นสังกัดจ่อดำเนินคดี รับงานโดยที่ติดสัญญาอยู่ ทางด้าน ‘ณวัฒน์’ คอมเมนต์ป้องไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจัดให้


เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า เพจ Sangravee Entertainment Official ต้นสังกัดค่ายเพลงของ “นางสาวอิงฟ้า วราหะ” หรือ มุก อิงฟ้า มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2022 แถลงจะดำเนินคดีเนื่องจากทำผิดสัญญาห้ามไม่ให้รับงานแสดงต่างๆ ยกเว้นได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางบริษัท โดย อิงฟ้า ได้ร่วมแสดงคอนเสิร์ต “Miss Grand Thailand x ระเบียบวาทะศิลป์” ในวันที่ 3-5 พฤษภาคม ที่ลานจอดรถ สวนรถไฟ

พร้อมระบุว่า บริษัท แสงรวี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ขอประกาศให้ทราบ โดยทั่วกันว่า “นางสาวอิงฟ้า วราหะ” หรือ มุก อิงฟ้า มีสถานะเป็นศิลปิน นักร้อง นักแสดงของบริษัทฯ ตามสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายไปจนถึงวันที่ 21 กันยายน 2568 ซึ่งในสัญญามีข้อตกลงระบุอย่างชัดแจ้งว่า

“ห้ามมิให้รับงานแสดงต่างๆ เช่น การเป็นพิธีกร แสดงละคร แสดงภาพยนตร์ ขับร้องเพลง ถ่ายแบบ เดินแบบ หรือ รับจ้างโฆษณา ให้กับบุคคลอื่น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง” และยังมีรายละเอียดอีกหลายประการ ดังนั้น การใดที่กระทำขึ้นอันเป็นการละเมิดข้อตกลงในสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินคดี กับผู้ละเมิดให้ถึงที่สุด ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2565

ต่อมา อิงฟ้า ออกมาโพสต์ว่า “รังแกได้แม้กระทั่งเด็ก” โดยมี ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้ง Miss Grand International เข้ามาคอมเมนต์ว่า “ไม่ต้องกลัวครับอยู่กับแกรนด์ เดี๋ยวจัดให้”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจอิงฟ้าเป็นจำนวนมาก และยังสังเกตด้วยว่า เพจ Sangravee Entertainment Official ไม่ได้อัปเดตหรือโพสต์อะไรมากว่า 3 ปีแล้ว โดยโพสต์ก่อนหน้าแถลงการณ์นั้นโพสต์เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2019

ที่มา ข่าวสด

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เจ้าอาวาสวัดติดป้ายต้านหมอปลา ยอมรับสั่งทำป้าย-ดื่มเหล้า-ฉันหมูกระทะ ขอเวลาเตรียมสึก

หมอปลาบุกวัดติดป้ายต้านที่พิษณุโลก พร้อมควักเงินร่วมทำบุญค่าป้ายไวนิล ขณะเจ้าอาวาสวัดยอมรับสั่งทำป้าย-ดื่มเหล้า-ฉันหมูกระทะจริง ขอเวลา3วันสึก


เช้านี้ (5 พ.ค.65) หมอปลาพร้อมด้วยป้ารัตนา และทีมงาน ได้เดินทางมาถึงวัดใหม่พรหมพิราม ตั้งอยู่เลขที่ 294/3 หมู่ 2 ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นวัดที่เป็นกระแสกรณีติดป้ายต้านหมอปลาจนโด่งดังในโลกโซเชียล และเมื่อวานตลอดทั้งวันก็มีกระแสอยู่เป็นระยะ ชาวบ้านยังคงออกมาพูดคุยกันต่อเนื่องในเรื่องที่พระนพ หรือ พระครูธีรศาส กิตจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม มีการดื่มเหล้าหงส์ทอง มีการสั่งหมูกระทะมาฉันท์ถึงในวัด และฉันท์กันทั้งวัด ซึ่งหมายความว่าพระในวัดมี 6 รูป ก็ฉันกันหมดทั้งวัด

โดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (4 พฤษภาคม 2565) พระครูปลัดธวัชชัย ธวชชยเมธี เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย พระครูสิทธิธรรมานุสนธิ์ เจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม และพระครูธีรศาสน์กิจจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า กรณีมีการติดป้ายไวนิลต้านหมอปลาสรุปแล้วเจ้าอาวาสเป็นคนสั่งทำป้ายไวนิลด้วยตนเองในราคา 1,800 บาท ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เพราะเห็นป้ายข้อความดังกล่าวในสื่อโซเชียล แล้ว นำส่งไปให้ร้านมาพิมพ์ติดที่วัด โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เบื้องต้นทางคณะสงฆ์ได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าอาวาสว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ ยังมีข้อร้องเรียนของชาวบ้านในสื่อสังคมออนไลน์เรื่องการดื่มเหล้าและฉันหมูกระทะในวัดนั้นทางคณะสงฆ์จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป

ล่าสุด หมอปลา ป้ารัตนา พร้อมด้วยทนายความและคณะชาวบ้านในพื้นที่ ได้เดินทางมาถึงวัดก็ได้พบกับพระครูธีรศาส กิตจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม ได้ตั้งโต๊ะพูดคุยกันพร้อมกับมีการไลฟ์สดผ่านเพจ หมอปลาช่วยด้วย โดยทางหมอปลาได้ทำบุญยอด 1800 บาท บอกว่าเป็นค่าป้ายไวนิล และคณะก็ได้ร่วมทำบุญเพิ่มด้วย จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันทางเจ้าอาวาสวัดก็ได้มีการยอมรับว่าเป็นคนสั่งทำป้ายจริง ขออภัยหมอปลาและทางญาติโยมด้วย ถือว่าทำความผิดก็ได้ทำการปลงอาบัติไปแล้ว แต่ตอนทำนั้นยืนยันว่าคิดน้อยไปหน่อย พอดีมีการส่งต่อภาพป้ายกันมาในไลน์ ตนก็เลยสั่งร้านทำว่าเอาป้ายแบบนี้ ยืนยันว่าข้อความทั้งหมดไม่ได้คิดเองดูจากหลักฐานในไลน์ได้ ยอมรับผิดว่าคิดน้อยไม่หน่อยไม่ทันได้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา

หลังจากนั้น ทีมข่าวก็ได้สอบถามถึงกรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามาเยอะเกี่ยวกับเรื่องเจ้าอาวาสติดเหล้า ฉันเหล้าเป็นประจำ ทางด้านเจ้าอาวาสก็ยอมรับว่าฉันเหล้าจริง แต่ฉันเฉพาะเวลาเครียดไม่ได้ฉันบ่อยและยอมรับว่าเพิ่งฉันไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 ส่วนเรื่องหมูกระทะก็ยอมรับเช่นกันว่าเคยมีการโทรสั่งมาฉันและเลี้ยงพระลูกวัดภายในวัดจริง ทางด้านตัวแทนชาวบ้านที่มาสั่งเกตุการณ์ล้วนบอกว่า เจ้าอาวาสเคยทำแบบนี้มาแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อนชาวบ้านก็จับได้เรื่องฉันเหล้าตัวเจ้าอาวาสก็ขอโอกาสมาแล้ว 1 ครั้ง แล้วก็มาทำอีก ส่วนครั้งนี้ชาวบ้านก็เห็นร่วมกันว่าจะไม่ขับไล่เจ้าอาวาสแต่จะให้เจ้าอาวาสพิจารณาตัวเองว่าสมควรที่จะอยู่ในสมณะเพศครองผ้าเหลืองต่อไปหรือไม่ จากนั้นได้มีการโฟนอินคุยกับผู้ใหญ่บ้านให้คุยกับเจ้าอาวาส ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่าหากเจ้าอาวาสทำผิดจริงและยอมรับความจริงก็ควรลาสิกขาไป เจ้าอาวาสเองก็ยินดีรับข้อพิจารณานี้ขอเวลาเก็บของตรวจสอบทรัพย์สินเป็นเวลา 3 วัน ก็จะสึกให้แล้วเจ้าอาวาสก็ได้ขอตัวไปพักผ่อน

ด้านหมอปลา หรือนายจีรพันธ์ เพชรขาว ได้บอกว่าขออธิบายว่าทีมงานหมอปลา พอลงพื้นที่วัดมีการทุบโน่นนี่นั่น ขออธิบายว่าทุกวัดตนไปกับสื่อ สื่อทุกคนจะขออนุญาตก่อน ยกเว้นวัดที่เกิดเรื่องก่อนหน้านี้เพราะวัดนั้นตัวผู้กระทำความผิดคือเจ้าอาวาส จะไปขอเขาก็ไม่ให้เข้า ตนจึงขอแค่ชาวบ้าน และอยากจะฝากพระพวกนี้ว่าไม่ต้องต่อต้านตนหรอกเพราะจะได้เจอกันแน่โดยเฉพาะเดือนนี้ทั้งเดือนมีอีกหลายแห่ง พวกผู้ใหญ่ นักการเมือง ไม่ต้องมาข่มขู่ตนหรอกเพราะตนและทีมงานทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา คนทำนุบำรุงศาสนามีเยอะ แต่คนที่มาปกป้องอย่างพวกตนมันมีน้อย

ด้านทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ บอกว่าเรามาเพื่อกำจัดมารศาสนาการขึ้นป้ายแบบนี้เรียกว่ามีพิรุธ เราทำทุกอย่างตามกฏหมายไปวัดไหนเราขออนุญาต ฝากไว้เจ้าอาวาสบอกบวชมา 35 ปี ชาวบ้านบอกเป็นมานานแล้ว สำนักพุทธท่านทำอะไรอยู่ ชาวบ้านเขาทนกันมาตั้ง 35 ปีแล้ว ท่านไปอยู่ไหนชาวบ้านเขาอยากเปลี่ยน เรามาเพื่อกำจัดมารศาสนากำจัดเห็บไรพวกนี้ที่มาหากินกับผ้าเหลือง

ที่มา โพสต์ทูเดย์

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2565

เพจ"ANTI SOTUS" แฉ ‘น้องเปรม’ ไม่ใช่แค่ห้า แต่ถูกรุ่นพี่โหด ต่อยอกทีละคน

เกิดเหตุรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับร้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย


จากกรณี น้องเปรม นักศึกษา ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากการที่รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้อง นอกจากนี้ผลตรวจชันสูตรศพน้องเปรม ยังพบด้วยว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายดับอีกด้วย ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยฯ ออกหนังสือชี้แจงยืนยันว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการจัดขึ้นกันเองของรุ่นพี่นศ.ปวส.ปี 1 และ ปี 2 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับน้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 มี.ค. 2565) นายเอกชัย ชนภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิตรู้สึกเสียใจจนเป็นลมล้มพับ เบื้องต้นทราบว่า น้องเปรมถูกรุ่นพี่ 5-6 คน รุมทำร้าย และถูกชกที่หน้าอก 1 ครั้ง จนล้มฟุบหมดสติและเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เคยเห็นแต่ในข่าวในอดีตมีการรับน้องโหด ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกตัวเอง คนที่เสียใจที่สุด คือ พ่อแม่ ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าถูกชกเพียงครั้งเดียวจนเสียชีวิต เพราะลูกชายเป็นคนแข็งแรงและเป็นนักกีฬาฟุตบอล ขณะเดียวกัน รุ่นพี่ที่ก่อเหตุได้มากราบขอขมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีกอยากให้ลูกชายเป็นรายสุดท้าย ยืนยันต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS" ซึ่งเป็นโพสต์เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ได้ออกมาระบุความคืบหน้าว่า "สายจากเพื่อนน้องเปรม พี่เขาทำกันทั้งหมดประมาณ 30 กว่าคน เป็นพวกที่เอารุ่น รุ่นพี่เขาให้ยืนเรียงแถวกันตามเลขที่ แล้วรุ่นพี่ก็จะเข้ามาต่อยทีละคน เช่น รุ่นพี่เลขที่ 1 จะต่อยรุ่นน้องเลขที่ 1 -30 ไปทีละคน รุ่นพี่เลขที่ 2 ก็มาต่อยเรียงกันไปเรื่อยๆ ตามคนที่ 1 รุ่นพี่เลขที่ 3 เลขที่ 4 ไปเรื่อยๆ น้องเปรมโดนทั้งต่อยหน้าอกด้วย แล้วก็โดนถีบด้วย ให้นึกภาพเหมือนทหารเกณฑ์ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งแล้วครูฝึกมาต่อยท้องทีละคน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ 5 คนนั้นแน่นอน ที่บอกว่ามี 5-6 คนนั้นเพราะพ่อถามว่าใครทำบ้าง แล้วก็รับกันแค่นั้น แล้วเปรมมันเป็นโควิดลงปอด ไม่มีใครรู้ หมอพึ่งมาบอกทีหลัง ตอนที่ตายไปแล้ว (แอดมินคิดว่าถ้าเป็นโควิดด้วย กินเหล้าด้วย แล้วถูกกระแทกที่หน้าอกหลายครั้งด้วย โอกาสรอดแทบไม่มีเลยยากมากปอดไม่แข็ง เลือดสูบฉีด และถูกกระแทกที่ปอดหรือลิ้นปี่ ) พอต่อยเสร็จแล้วพี่เขาจะให้เดินกลับ เปรมก็ล้มลงไปหายใจไม่ทันตัวแข็งตาเหลือก พอเอาไปโรงพยาบาลเข้าก็ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่หาชีพจรไม่เจอ หมอเลยบอกว่าอย่ายื้อเลยน้องเขาไม่ไหว อย่าไปเชื่อว่ามีแค่ 5 คนครับ"

ที่มา เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS", www.msn.com

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...