แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวโควิด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวโควิด แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

'หมอธีระวัฒน์' แฉ! รพ.เอกชนซื้อ 'โมลนูพิราเวียร์' จากรัฐราคาแพงกว่าที่หมอหาซื้อเอง

‘หมอธีระวัฒน์’ โพสต์วอนรัฐช่วยทำให้โควิดเป็นเรื่องปกติ สามารถนำเข้ายาในราคาถูก พร้อมสั่งจ่ายได้เลย ไม่ต้องรอให้อาการหนัก ไม่ต้องหามเข้าโรงพยาบาล



นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thiravat Hemachudha โดยระบุว่า

"ขอร้องทางการช่วยทำให้โควิดเป็นเรื่องปกติ (ด้วยความเคารพครับ)

น้องๆหมอบอกว่า โรงพยาบาลเอกชนสั่งซื้อโมลนูพิราเวียร์ทำจากอินเดีย ยี่ห้อ mylan จากทางการไทย ได้ราคาชุดละ 10,600 บาท แต่หมอกันเองซื้อกันประมาณ 2,000 กว่าบาท ต่อชุด (40 เม็ด) หรือถูกกว่า จากสปป.ลาว เขมร อินเดีย (ยี่ห้อ เดียวกัน) เวียดนาม ประเทศเหล่านี้ขอความยินยอมจากบริษัทในการผลิตยาเองตั้งแต่ต้น

ทำอย่างไรประเทศไทยถึงจะได้ราคาถูกแบบนี้ และสามารถสั่งจ่ายได้เลยทั้งที่โรงพยาบาลทุกแห่ง และที่สำคัญก็คือร้านขายยาทุกแห่ง ทั้งนี้ หลักเกณฑ์คือสีเหลืองขึ้นไปไม่ใช่ใช้เกินความจำเป็น จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องดื้อยา และไม่ต้องกังวลว่าจะมียาปลอมหรือไม่

คนที่รู้จักสนิทกลับมาจากเวียดนามสองวันที่แล้ว ยืนยันราคาตามนี้ขายตามร้านขายยาทั่วไป คนในประเทศเห็นเป็นเรื่องปกติแล้ว ไม่สบายซื้อยาและได้ยาตามความเหมาะสมเลย

ไม่ใช่รออาการหนัก จนยาเหล่านี้ไม่ได้ผล (เพราะต้องใช้แต่เนิ่นๆ) และไม่ต้องหามเข้าโรงพยาบาลที่ไม่มีเตียง ถ้าทางการมีการติดต่ออย่างจริงจังเราก็น่าจะได้ผลบุญเช่นนี้นะครับ"

ที่มา www.posttoday.com

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ศบค.ชุดเล็ก เตรียมชงเปิดสถานบันเทิง-เพิ่มโซนสีเขียว

หลังจากที่มีผู้ประกอบการสถานบันเทิง ยื่นหนังสือขอ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการ ให้เปิดกิจการได้ ทางด้าน ศบค.ชุดเล็กเตรียมชงศบค. 20 พ.ค. เปิดสถานบันเทิง ปรับโซนพื้นที่เป็นสีเขียว ผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม ชี้หากติดเชื้อ-ตายลด ประกาศเป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้น

เมื่อวานนี้(19 พ.ค. 65) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือเลขาสมช. พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ได้กล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19หรือศบค.ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ว่า ในที่ประชุมรายงานผลและประเมินทิศทางการทำงาน หลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเปิดประเทศ และปรับพื้นที่โซนสีจังหวัดให้มาตรการผ่อนคลายลง จากสีส้มเป็นสีเหลืองทั้งหมด และมีพื้นที่สีใช้มาตรการสีเขียว 17 จังหวัด และที่ประชุมจะพิจารณาปรับพื้นที่โซนสีให้ผ่อนคลายมากขึ้นจากสีเหลืองเป็นสีเขียว รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีฟ้ามากขึ้น เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในบรรยากาศที่สามารถจะผ่อนคลายมาตรการได้ และจะปรับมาตรการอื่น เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเดินได้สะดวกกว่าเดิม สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้คล่องตัว ลดภาระการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายส่วนที่มีข้อกังวลและต้องจับตาคือหลังจากเปิดสถานศึกษาเต็มรูปแบบ 100%โดยเรามีมาตรการรองรับไว้

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมในวันที่20 พ.ค.ด้วย ที่ผ่านมาพิจารณามาหลายรอบแต่ทางสาธารณสุข ยังมีความกังวลอยู่ แต่ในครั้งนี้น่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยดูจากวิธีการจัดการตนเองเมื่อติดเชื้อเป็นไปด้วยดี คิดว่าน่าจะได้รับการพิจารณา

พล.อ.สุพจน์ ยังได้กล่าวต่ออีีกว่า ส่วนการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศ อยู่ในขั้นตอนพิจารณา โดยจะดูพื้นที่ปลอดภัยเป็นหลัก และประเมินตามปัจจัยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเรื่องนี้นายกฯมอบแนวทางไว้นานแล้วว่าจะต้องพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง หากพื้นที่ใดพร้อม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะพิจารณาจากปัจจัยที่วางหลักเกณฑ์ไว้

ด้านการประเมินตัวเลขทางเศรษฐกิจจะเพิ่มแค่ไหน หากมีการผ่อนคลายสถานบันเทิงพล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากข้อมูลตัวเลขผู้ประกอบอาชีพกลางคืนมีหลายล้านคน ดังนั้นตัวเลขไม่ต้องกังวลเพราะจะเพิ่มขึ้นแน่นอน อีกทั้งพื้นที่ภาคการท่องเที่ยวก็จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวด้วยสำคัญที่สุดคืออาชีพของคนไทยที่เกี่ยวข้องข้อง 10 ล้านคน จะทำให้ธุรกิจจะขยาย สำหรับการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ต้องดูการฉีดวัคซีนจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต การบริหารจัดการของแต่ละพื้นที่ การปรับตัวของประชาชน เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ โดยนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อนจะประกาศ และมีโอกาสประกาศให้เร็วขึ้น หากสถานการณ์อาจเป็นไปตามปัจจัยที่วางไว้

โดยก่อนหน้าการประชุม ศปก.ศบค. นายคทาวุธ ทองไทย หรือ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมศิลป์หอไตร พร้อมด้วย นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย ตัวแทนสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน เข้าหารือกับ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงแนวทางการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ประเทศไทย โดยเป็นการยื่นตามความประสงค์ของสมาคมและผู้ประกอบการสถานบันเทิง ที่ต้องการขอให้ผ่อนคลายมาตรการให้สถานบันเทิงสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างอาชีพสร้างรายได้ หลังได้รับผลกระทบต้องปิด ไม่ประกอบกิจการ นอกจากการ ขอเปิดกิจการสถานบันเทิง ที่จะครอบคลุมและมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ผู้ประกอบการยังขอรัฐปรับลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยผู้ประกอบการได้อีกวิธีหนึ่ง

ที่มา โพสต์ทูเดย์

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2565

เพจ"ANTI SOTUS" แฉ ‘น้องเปรม’ ไม่ใช่แค่ห้า แต่ถูกรุ่นพี่โหด ต่อยอกทีละคน

เกิดเหตุรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับร้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย


จากกรณี น้องเปรม นักศึกษา ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากการที่รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้อง นอกจากนี้ผลตรวจชันสูตรศพน้องเปรม ยังพบด้วยว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายดับอีกด้วย ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยฯ ออกหนังสือชี้แจงยืนยันว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการจัดขึ้นกันเองของรุ่นพี่นศ.ปวส.ปี 1 และ ปี 2 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับน้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 มี.ค. 2565) นายเอกชัย ชนภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิตรู้สึกเสียใจจนเป็นลมล้มพับ เบื้องต้นทราบว่า น้องเปรมถูกรุ่นพี่ 5-6 คน รุมทำร้าย และถูกชกที่หน้าอก 1 ครั้ง จนล้มฟุบหมดสติและเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เคยเห็นแต่ในข่าวในอดีตมีการรับน้องโหด ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกตัวเอง คนที่เสียใจที่สุด คือ พ่อแม่ ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าถูกชกเพียงครั้งเดียวจนเสียชีวิต เพราะลูกชายเป็นคนแข็งแรงและเป็นนักกีฬาฟุตบอล ขณะเดียวกัน รุ่นพี่ที่ก่อเหตุได้มากราบขอขมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีกอยากให้ลูกชายเป็นรายสุดท้าย ยืนยันต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS" ซึ่งเป็นโพสต์เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ได้ออกมาระบุความคืบหน้าว่า "สายจากเพื่อนน้องเปรม พี่เขาทำกันทั้งหมดประมาณ 30 กว่าคน เป็นพวกที่เอารุ่น รุ่นพี่เขาให้ยืนเรียงแถวกันตามเลขที่ แล้วรุ่นพี่ก็จะเข้ามาต่อยทีละคน เช่น รุ่นพี่เลขที่ 1 จะต่อยรุ่นน้องเลขที่ 1 -30 ไปทีละคน รุ่นพี่เลขที่ 2 ก็มาต่อยเรียงกันไปเรื่อยๆ ตามคนที่ 1 รุ่นพี่เลขที่ 3 เลขที่ 4 ไปเรื่อยๆ น้องเปรมโดนทั้งต่อยหน้าอกด้วย แล้วก็โดนถีบด้วย ให้นึกภาพเหมือนทหารเกณฑ์ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งแล้วครูฝึกมาต่อยท้องทีละคน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ 5 คนนั้นแน่นอน ที่บอกว่ามี 5-6 คนนั้นเพราะพ่อถามว่าใครทำบ้าง แล้วก็รับกันแค่นั้น แล้วเปรมมันเป็นโควิดลงปอด ไม่มีใครรู้ หมอพึ่งมาบอกทีหลัง ตอนที่ตายไปแล้ว (แอดมินคิดว่าถ้าเป็นโควิดด้วย กินเหล้าด้วย แล้วถูกกระแทกที่หน้าอกหลายครั้งด้วย โอกาสรอดแทบไม่มีเลยยากมากปอดไม่แข็ง เลือดสูบฉีด และถูกกระแทกที่ปอดหรือลิ้นปี่ ) พอต่อยเสร็จแล้วพี่เขาจะให้เดินกลับ เปรมก็ล้มลงไปหายใจไม่ทันตัวแข็งตาเหลือก พอเอาไปโรงพยาบาลเข้าก็ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่หาชีพจรไม่เจอ หมอเลยบอกว่าอย่ายื้อเลยน้องเขาไม่ไหว อย่าไปเชื่อว่ามีแค่ 5 คนครับ"

ที่มา เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS", www.msn.com

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

ปู่ ย่า ขับรถพาหลานวัยแปดเดือนติดโควิด ตระเวนหาไม่มี รพ.ไหนรับ

ปู่ ขับรถตระเวน 3 จังหวัด พาย่าและหลาน 8 เดือน ที่ติดโควิด หาโรงพยาบาลรักษา แต่ไม่มี รพ.ไหนรับ เนื่องจากเตียงเต็มและไม่มีหมอรักษาเด็ก


นายเอกภพ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าตรวจอาการเด็กหญิงวัย 8 เดือน ผลปรากฏว่ามีค่าออกซิเจนในเลือดที่ต่ำมากๆ วัดไข้ได้ 38 องศา เด็กมีอาการหายใจติดขัด จึงให้ทีมงานประสานไปยังโรงพยาบาลเด็ก ถนนราชวิถี ทันที พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพ่อแม่ที่มีลูกอ่อนให้ระวังเป็นพิเศษ เพราะโควิดระลอกนี้เด็กมีอาการหนักมากและทรุดลงอย่างรวดเร็ว

นายวิรัช ซึ่งเป็นปู่ของเด็ก ได้เล่าว่า เมื่อ 5 วันที่แล้ว ลูกสาวกับลูกเขยติดเชื้อโควิดและไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยช่วง 12.00 น. ของวานนี้(9 ม.ค.65) ตนเองกับภรรยา และหลานสาววัย 8 เดือน ได้ไปตรวจโควิดที่ปทุมธานี จากการตรวจพบว่าย่ากับหลานสาววัย 8 เดือน ติดเชื้อโควิด ส่วนตนเองไม่ติด และโรงพยาบาลแจ้งว่าตอนนี้เตียงเต็ม ต้องรออีก 150 คิว เตียงถึงจะว่าง จึงให้กลับไปกักตัวอยู่ที่บ้าน หรือติดต่อโรงพยาบาลอื่น


จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันเดียวกัน หลานมีอาการหายใจติดขัด ตัวร้อน อาการค่อยไม่ดี แย่ลงเรื่อยๆ จึงตัดสินใจขับรถพาหลานไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่เปิดอยู่ในปทุมธานี กรุงเทพฯ และนนทบุรี โดยให้ลูกช่วยติดต่อประสานตามโรงพยาบาลต่างๆ อีกทาง แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับ เนื่องจากทุกโรงพยาบาลไม่มีหมอรักษาเด็ก จึงตัดสินใจจอดรถรอริมถนนหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนนทบุรี เพื่อรอถึงตอนเช้า หมอเด็กมาทำงาน โรงพยาบาลจะได้รับรักษา โชคดีช่วงประมาณเที่ยงคืนมีเจ้าหน้าที่ของเพจ “สายไหมต้องรอด” ติดต่อเข้าให้การช่วยเหลือ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์


วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สธ.เตือนห้ามประมาท โอมิครอน(Omicron) อัพเดทลามแล้ว 37 จว.

วันนี้(30 ธันวาคม 2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดพบการติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นการติดเชื้อในประเทศ 357 ราย โดยมีจังหวัดที่พบผู้ป่วยเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นมาอีก 1 จังหวัด จากเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่พบ 33 จังหวัด รวมเป็น 34 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้นคือ จ.เพชรบูรณ์ 


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อกระจายใน 37 จังหวัดครบทั้ง 13 เขตสุขภาพแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่พบ 33 จังหวัด รวมยอดผู้ป่วยโควิด-19 โอมิครอนสะสมทั้งหมด 934 ราย ได้แก่

เขตสุขภาพที่ 1 เชียงราย 1 ราย เชียงใหม่ 7 ราย ลำปาง 1 ราย ลำพูน 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 2 เพชรบูรณ์ 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 3 พิจิตร 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 4 นนทบุรี 22 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย

เขขสุขภาพที่ 5 นครปฐม 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 4 ราย เพชรบุรี 1 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย

เขตสุขภาพที่ 6 ชลบุรี 18 ราย สมุทรปราการ 38 ราย สระแก้ว 1 ราย รอยืนยันข้อมูล 24 ราย

เขตสุขภาพที่ 7 กาฬสินธุ์ 121 ราย ขอนแก่น 12 ราย มหาสารคาม 42 ราย ร้อยเอ็ด 50 ราย รอยืนยันข้อมูล 84 ราย

เขตสุขภาพที่ 8 นครพนม 4 ราย เลย 3 ราย หนองคาย 4 ราย หนองบัวลำภู 1 ราย อุดรธานี 3 ราย

เขตสุภาพที่ 9 ชัยภูมิ 4 ราย นครราชสีมา 5 ราย บุรีรัมย์ 4 ราย สุรินทร์ 5 ราย

เขตสุขภาพที่ 10 มุกดาหาร 1 ราย ยโสธร 1 ราย อุบลราชธานี 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 11 กระบี่ 4 ราย ภูเก็ต 104 ราย สุราษฎร์ธานี 20 ราย

เขตสุขภาพที่ 12 ปัตตานี 4 ราย สงขลา 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร 325 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ข้อมูลในแอฟริกาใต้ว่า โอมิครอนความรุนแรงลดลง และอาจมาแทนที่เดลต้า ข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้คนประมาท ไม่ป้องกันตัวหรือไม่ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ประมาทไม่ได้ แม้ข้อมูลที่ออกมาจะไปในทางนั้น อัตราการติดเชื้อนอน รพ.น้อยกว่าเดลต้า ภาพรวมก็เห็นชัดว่า ผู้ป่วยหนักลดลง อย่างของไทยเกือบพันรายไม่มีเสียชีวิต มีอาการหนัก 2 คนแต่หายดีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่า ข้อมูลเหล่านี้ต้องใช้เวลา ยังเร็วไป ถ้าจะบอกว่าอันตรายน้อย สิ่งสำคัญขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ป้องกันตัวเองตลอดเวลา และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพราะแม้โอไมครอนจะหลบภูมิคุ้มกันได้ แต่วัคซีนยังคงช่วยลดความรุนแรงได้

“ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบการรักษาต่างๆ โดยเฉพาะการจัดระบบแยกกักที่บ้าน(Home Isolation) และศูนย์พักคอยในชุมชน(Community Isolation) โดยเรามีประสบการณ์จากครั้งก่อน ครั้งนี้จะมีระบบติดตามแยกคนติดเชื้อออกจากคนป่วย ใครติดเชื้อไม่มีอาการให้อยู่ HI ถ้าไม่สามารถอยู่ได้ให้เข้า CI โดยจะมีระบบคอยมอนิเตอร์อาการ หากมีอาการมากขึ้นนำส่งรพ.ทันที” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ที่มา มติชนออนไลน์



วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

WHO ให้ชื่อโควิดพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน(Omicron)" ทั่วโลกขานรับปิดน่านฟ้าสกัดแล้ว

องค์การอนามัยโลก WHO ประกาศให้เชื้อโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ที่พบใน บอตสวานา แอฟริกาใต้ เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวล ตั้งชื่อให้ว่า “โอไมครอน” 


เกิดความตื่นตระหนกให้แก่คนทั่วโลกอีกครั้ง หลังจากได้มีการค้นพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ในแอฟริกาใต้ ทำให้มีหลายประเทศระงับการเดินทางเข้าประเทศของนักเดินทางที่มาจากทวีปแอฟริกาใต้ นอกจากนี้ ความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เชื้อกลายพันธุ์นี้ ฉุดตลาดหุ้นดิ่งลงต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี  


โดยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก WHO ได้รับรายงานการพบไวรัสสายพันธุ์นี้ครั้งแรกในแอฟริกาใต้ จึงได้มีการเรียกประชุมด่วนคณะที่ปรึกษาทางเทคนิคด้านวิวัฒนาการเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ B.1.1.529 ซึ่งล่าสุดองค์การอนามัยโลกได้ตั้งชื่อเชื้อกลายพันธุ์นี้ว่า โควิดสายพันธุ์โอไมครอน จัดเป็นเชื้อกลายพันธุ์ชนิดที่ 5 ที่ WHO จัดให้เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวล ต่อจากอัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา ขณะที่อีก 2 สายพันธุ์ ได้แก่ แลมบ์ดาและมิว ที่สร้างความกังวลก่อนหน้านี้ ยังเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในความสนใจ แต่มีความร้ายแรงต่ำกว่า

ทั้งนี้ WHO ได้ขอให้ประเทศต่างๆ ดำเนินการเฝ้าระวังและลำดับเหตุการณ์ เพื่อให้เข้าใจถึงการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์นี้ พร้อมทั้งให้รายงานเคสผู้ติดเชื้อ คลัสเตอร์แรกเริ่ม ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวลไปยัง WHO เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นของไวรัสสายพันธุ์นี้ ซึ่งคาดว่าภายในไม่กี่สัปดาห์ น่าจะสามารถประเมินความรุนแรงของโรค ความรวดเร็วในการแพร่กระจายเชื้อ และประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ว่าจะรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ได้มากน้อยเพียงใด

สำหรับประเทศที่เริ่มมีการดำเนินการคุมเข้มหรือระงับการเดินทางจากนักเดินทางจากทวีปแอฟริกาเพื่อสกัดการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร แคนาดา สหภาพยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น ตุรกี อิสราเอล สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งสิงคโปร์.

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศใหญ่ล่าสุดที่ใช้มาตรการคุมเข้มการเดินทางจากนักเดินทางจากทวีปแอฟริกาและไม่รับผู้เดินทางจากภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ ตามรอยสหภาพยุโรปแล้ว

• สหรัฐอเมริกา บราซิล แคนาดา และซาอุดีอาระเบีย กลายเป็นประเทศล่าสุดที่จำกัดการเดินทางจากแอฟริกาใต้ ซึ่งพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ระบุว่าเป็น "สายพันธุ์ที่มีความน่ากังวล" ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของโลกที่จะยุติการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่า

• สหราชอาณาจักรเป็นคนแรกที่มีคำสั่งห้ามบินจากประเทศต่างๆ ในแอฟริกาใต้ตอนใต้ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่แอฟริกาใต้เปิดเผยว่าตรวจพบสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์หลายครั้ง

• ในส่วนของสหรัฐ รัฐบาลเผยว่าจะจำกัดการเดินทางจากแอฟริกาใต้และประเทศอื่นๆ อีก 7 ประเทศ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ ในแถลงการณ์ ไบเดนเรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็น “มาตรการป้องกันไว้ก่อนจนกว่าเราจะมีข้อมูลเพิ่มเติม”

• Bloomberg รายงานว่านอกจากแอฟริกาใต้แล้ว ข้อจำกัดดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อบอตสวานา ซิมบับเว นามิเบีย เลโซโท เอสวาตินี โมซัมบิก และมาลาวี นโยบายนี้จะไม่ใช้กับพลเมืองอเมริกันและผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่พวกเขาจะต้องมีผลตรวจเป็นลบก่อนเดินทางไปสหรัฐอเมริกา

• ส่วนแคนาดา ฌอง อีฟ ดือโคลส์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวกับผู้สื่อข่าวในออตตาวา แคนาดากำลัง “ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของชาวแคนาดา” และกล่าวว่า “เรากำลังห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านแอฟริกาใต้ตอนใต้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เข้ามาในแคนาดา”

• รัฐบาลบราซิลจะสั่งห้ามการเดินทางเข้าประเทศจาก 6 ประเทศทางตอนใต้ของแอฟริกา เนื่องจากการเกิดขึ้นของไวรัส Omicron รัฐบาลกล่าวในแถลงการณ์เมื่อคืนวันศุกร์ การแบนดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เอสวาตินี เลโซโท นามิเบีย ซิมบับเว และบอตสวานา 

• ชาติอาหรับก็รีบประกาศมาตรการเดียวกันในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา คือซาอุดีาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน, จอร์แดน, อียิปต์ รวมถึงอิหร่านและโมร็อคโก ที่ระบุว่าประเทศในแอฟริกาถูกห้ามไม่ให้เข้า คือแอฟริกาใต้ นามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว โมซัมบิก เลโซโท และเอสวาตินี (บางประเทศมีรายชื่อต่างไปจากนี้เล็กน้อย)

• รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมประกาศข้อจำกัดการเดินทางใหม่ในช่วงเย็นวันเสาร์นี้ สถานีโทรทัศน์ Channel 7 ของประเทศรายงานว่า "#7NEWS เข้าใจดีว่าในวันนี้รัฐบาลสหพันธรัฐจะประกาศการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง เพื่อตอบสนองต่อสายพันธุ์ใหม่ ใครก็ตามที่อยู่ในแอฟริกาใต้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาอาจต้องเผชิญกับการกักกันหรือแยกตัว" รายงานระบุบน Twitter เมื่อวันเสาร์โดยไม่ระบุแหล่งข่าว

• ต่อมาข่าวนี้ได้รับการยืนยัน เมื่อ เกรก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวกับสื่อมวลชน การบรรยายสรุปว่า ออสเตรเลียจะทำการกักกัน 14 วันสำหรับพลเมืองและผู้ติดตามของพวกเขาที่เดินทางจาก 9 ประเทศในแอฟริกาใต้ตอนใต้ อันเนื่องมาจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  “ใครก็ตามที่ไม่ใช่พลเมืองของออสเตรเลียหรือผู้ที่อยู่ในความอุปการะ และอยู่ในประเทศแอฟริกาที่ตรวจพบและแพร่เชื้อ Omicron ภายใน 14 วันที่ผ่านมา จะไม่สามารถเข้าออสเตรเลียได้” 

• ส่วนยุโรป ออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ เข้าร่วมสหราชอาณาจักรในการจำกัดเที่ยวบินจากภูมิภาคนี้ และคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ยังเสนอให้ระงับเที่ยวบินไปและกลับจากแอฟริกาใต้โดยสมบูรณ์ จนกว่าจะมี "ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับอันตราย" ที่เกิดจากสายพันธุ์ใหม่นี้

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขของแอฟริกาใต้โจมตีประเทศทั่วโลกที่เร่งรีบกำหนดคำสั่งห้ามการเดินทางเพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโควิดชนิดใหม่ โดยมองว่าเป็น "กฎที่เข้มงวดจนผิดธรรมชาติ" ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ และขัดต่อคำแนะนำของ WHO

“เราเชื่อว่าปฏิกิริยาบางอย่างไม่ยุติธรรม” โจ ฟาห์ลา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแอฟริกาใต้ กล่าวในการแถลงข่าว โดยกล่าวหาผู้นำบางคนที่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อว่าพยายามที่จะหา “แพะรับบาป”

ทางด้าน อดีตกรรมาธิการขององค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ดร.สก็อตต์ กอตต์เลบ ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการจำกัดการเดินทางอันเนื่องมาจากเชื้อโควิด-19 ล่าสุด โดยโพสต์บน Twitter ว่า "การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความพยายามในการกักกันในปัจจุบันและกีดกันการแบ่งปันในอนาคต"

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2564

สปส. ขยายเวลาจ่ายเงิน ม.40 ออกไปถึง 24 ส.ค.

 

สำนักงานประกันสังคม ออกมาย้ำว่า สำหรับ ผู้ประกอบอาชีพอิสระในพื้นที่สีแดงเข้ม ที่สมัครเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ม.40 เพื่อรับเงินเยียวยา แต่ยังไม่ได้ชำระเงินงวดแรกไม่ทัน ทาง สปส. ได้ขยายระยะเวลาในการสมัครและจ่ายเงินสมทบงวดแรกได้ถึง 24 สิงหาคมนี้

โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน น.ส.ลัดดา แซ่ลี้  เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบ อาชีพอิสระ ตามมาตรา 40  โดยระบุในพื้นที่ 10 จังหวัดสีแดง เข้มแรกล็อตแรก ( คือ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรสาคร ,สมุทรปราการ และ4จังหวัดภาคใต้ ) ได้แจ้งประกาศให้มาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนม.40 และจ่ายเงินภายในวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้าย โดยจะจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564

ขณะที่ ผู้ประกอบอาชีพอิสระใน 3 จังหวัด  (พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา) และ 16 จังหวัดสีแดงเข้ม ( เช่น กาญจนบุรี สมุทรสงคราม  สุพรรณบุรี  และจังหวัดอื่นๆ ) ยังสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตน ม. 40 และจ่ายเงินสมทบงวดแรก ได้ภายในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ประกอบอาชีพอิสระในหลายจังหวัดสมัครและชำระเงินไม่ทัน  โดยจะมีการประกาศวันจ่ายเงินเข้าบัญชีอีกครั้ง

สำนักงานประกันสังคม แจ้งว่าสำหรับช่องทางชำระเงินมีหลากหลายช่องทาง อาทิเช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ 7-11 ที่ เทสโก้โลตัส  บิ๊กซี เคาน์เตอร์ หรือผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง Shopeepay แอพพลิเคชั่น โดยเน้นย้ำว่า ฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง จึงขอย้ำให้ผู้ที่สมัครรีบดำเนินการชำระเงินโดยด่วน

อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคมเน้นย้ำว่า ผู้ประกันตนในทุกมาตราที่จะได้รับเงินเยียวยา จะต้องผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน เพื่อให้ระบบสามารถโอนเงินได้ตามกำหนดการที่มีการประกาศออกมา  

ที่มา www.pptvhd36.com



วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เช็คด่วน! 'ไทยร่วมใจ' อัพเดทคิว 'ฉีดวัคซีน' รอบใหม่

เช็คด่วน! รายละเอียด "ไทยร่วมใจ" อัพเดทคิวฉีดวัคซีนรอบใหม่ 25 จุด ระหว่าง 10-14 ส.ค.นี้ สำหรับผู้ที่ถูกเลื่อนตั้งแต่ 7-26 ก.ค. 64


เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรุงเทพมหานคร ได้แจ้งให้ผู้สูงอายุ 60 ปี ที่จองคิวฉีดวัคซีนกับ ไทยร่วมใจฯ ทางโทรศัพท์ที่ได้นัดหมายแล้วให้เข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมแจ้งคิวฉีดใหม่ สำหรับผู้ที่ถูกเลื่อนตั้งแต่ 7-26 ก.ค. 64 มาเป็น 10-14 ส.ค.64 

โดยหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย แจ้งให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่จองคิวฉีดวัคซีนทางโทรศัพท์ เข้ารับการฉีดวัคซีนตามที่ได้นัดหมาย (รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา AstraZeneca เข็มที่ 1) ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนไทยร่วมใจฯ

ขณะที่ผู้ที่มีอายุ 18 -59 ปี ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย โดยลงทะเบียนฉีดวัคซีนรอบวันที่ 7-26 ก.ค 64 ให้มาฉีดวัคซีนในวันที่ 10-14 ส.ค.64 (รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา AstraZeneca เข็มที่ 1) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

คิวฉีดเดิม 7-10 ก.ค.64 เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันอังคารที่ 10 ส.ค. 64

คิวฉีดเดิม 11-14 ก.ค.64 เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันพุธที่ 11 ส.ค. 64

คิวฉีดเดิม 15-18 ก.ค.64 เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันพฤหัสบดีที่ 12 ส.ค. 64

คิวฉีดเดิม 19-22 ก.ค.64 เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันศุกร์ที่ 13 ส.ค. 64

คิวฉีดเดิม 23-26 ก.ค.64 เปลี่ยนเป็นคิวฉีดใหม่วันเสาร์ที่ 14 ส.ค. 64

โดยสามารถเข้าไปรับบริการฉีดวัคซีนในเวลาเดิมได้ตาม 25 จุดที่ได้ลงทะเบียนไว้ ส่วนผู้ที่มีคิวนัดหมายตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.64 เป็นต้นไป เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีน ระบบจะแจ้งคิวฉีดวัคซีนใหม่ให้ทราบทันที 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ


“มิว นิษฐา” แจงดราม่า คลิปร้องไห้ โทษคนขับรถติดโควิด

นางเอกสาวว่าที่คุณแม่ป้ายแดง “มิว - นิษฐา จิรยั่งยืน” โพสต์ไอจีเคลียร์ดราม่า คลิปร้องไห้กังวลเสี่ยงติดโควิดเพราะคนขับรถติดเชื้อ จนถูกชาวเน็ตวิจารณ์อย่างหนัก


เหตุดราม่าเกิดขึ้นเมื่อนางเอกสาว มิว - นิษฐา จิรยั่งยืน ทำคลิปกับสามี เซนต์ - ธราภุช คูหาเปรมกิจ ในช่องยูทูบของตัวเอง โดยเป็นการพาไปดูห้องใหม่สำหรับลูกน้อย พร้อมแจ้งข่าวว่าคนขับรถของทั้งคู่ติดโควิด-19

ด้วยความกังวลใจเพราะกำลังตั้งท้อง ทำให้มิวร้องไห้ออกมา และได้พูดว่าที่ผ่านมาตนไม่ได้ออกไปเจอหน้าใคร พยายามดูแลตัวเองอย่างดี โดยหลังจากที่ทำ Rapid Test ผลปรากฏว่าออกมา “ไม่พบเชื้อใด” ทำให้โล่งอกทั้งคู่ 

หลังถูกชาวเน็ตวิจารณ์เรื่องคลิปร้องไห้ “มิว นิษฐา” ว่าทั้งคู่ทำเหมือนโทษคนขับรถที่ติดโควิด ทำให้ว่าที่คุณแม่คนสวย ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับคลิปดังกล่าวว่า

“มิวขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ ที่พี่เซนต์พูดในคลิป เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ว่าต้องสื่อสารกัน เพราะคนขับรถมีอาการ มีไข้และไอ แต่ยังมาขับรถให้คุณพ่อ คุณแม่มิวต่ออีกหลายวัน โดยที่ไม่ได้บอกค่ะ มิวไม่โทษเขาเลยนะคะ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครก็ได้ ซึ่งช่วงที่พี่เขาป่วยเราดูแลรักษาจนหาย มีประกันสังคมที่ทำไว้ให้ด้วยค่ะ ส่วนเรื่องวัคซีนได้ให้พี่เขาไปฉีดวัคซีนมาครบ 2 เข็มสักพักใหญ่แล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงพี่เขานะคะ ตอนนี้แข็งแรงเป็นปกติกลับมาทำงานต่อเรียบร้อยแล้วค่ะ!”

ที่มา www.pptvhd36.com, IG mewnittha  , YT MewNittha

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เจ้าแม่นาคียังขลังไหม? บทสรุปผลตรวจเชื้อและไทม์ไลน์ แต้ว ณฐพร

ผลตรวจ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ พลิกล็อก สรุปไทม์ไลน์ตั้งแต่ตรวจเจอเชื้อโควิด-19 รวมถึง เต๋า ณัฐวดี เตมีรักษ์ พี่สาวฝากถึงคนที่เคยต่อว่าน้องสาวแรง ๆ ออกมาขอโทษด้วย


หลังจากวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา นางเอกสาว แต้ว ณฐพร ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลแห่งแรกว่าพบเชื้อโควิด-19 จึงได้แจ้งผ่านทางไอจีช่วงกลางดึกวันที่ (16 ก.ค.2564)  จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรง วันรุ่งขึ้น(16 ก.ค.2564) เธอจึงได้ไปตรวจกับโรงพยาบาลแห่งที่สองอีกครั้ง ผลออกมาตอนกลางคืนว่าไม่พบเชื้อโควิด เธอจึงแจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบอีกครั้งพร้อมหลักฐานยืนยันผ่านทางไอจี โดยทาง TrueID ได้สรุปไทม์ไลน์ของนางเอกสาว ตั้งแต่วันที่ตรวจเจอเชื้อ จนถึงผลตรวจพลิกล็อก ดังนี้

วันที่ 14 ก.ค.2564 แต้ว ณฐพร ได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากต้องทำงานในวันที่ 16 ก.ค.2564 วันที่ 15 ก.ค.2564 แต้ว ณฐพร ได้โพสต์แจ้งข่าวว่าผลตรวจเป็นบวก พบเชื้อโควิด-19 พร้อมโชว์ไทม์ไลน์ย้อนหลังระหว่างวันที่ 1-15 ก.ค.2564 โดยมีเพื่อนคนบันเทิงได้ส่งกำลังใจกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่พี่สาว เต๋า ณัฐวดี ได้โพสต์แจ้งผลตรวจของเธอเป็นลบ พร้อมส่งกำลังใจให้น้องสาว และบอกเป็นห่วงคุณแม่มากที่สุด

หลังจากนั้นไม่นาน #แต้วณฐพร ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทันที เพราะชาวเน็ตได้แสดงความเห็นกันถึงไทม์ไลน์ที่บอกว่าเธอใส่ไม่ครบ เพราะเคยเจอเธอและแฟนหนุ่มไฮโซทีห้างสรรพสินค้า รวมถึงแสดงความเห็นเรื่องที่โรงพยาบาลให้ดาราตรวจโควิด แต่ประชาชนทั่วไปไม่รับตรวจ นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเรื่องการกักตัว ถามกลับไหนว่ามีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้โพสต์ให้ข้อมูลว่าเป็นผู้เสี่ยงต่ำ

จนวันที่ 16 ก.ค.2564 แต้ว ณฐพร ได้อัปเดตเพิ่มเติมไทม์ไลน์อีกครั้ง โดยเพิ่มในวันที่ 6 และ 8 ก.ค.2564 พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาปกปิดข้อมูล และยังบอกอีกว่าเบื้องต้นปรึกษาแพทย์แล้ว เธอสามารถ Home Isolation ได้เอง เพราะยังไม่มีอาการใดๆ บ่งชี้แน่ชัด จึงขอสละเตียงสิทธิ์ให้เตียงกับผู้ป่วยหนักก่อน

ต่อมาช่วงกลางดึก แต้ว ณฐพร ได้โพสต์ผลตรวจหาเชื้อโควิด โรงพยาบาลแห่งที่สอง ซึ่งผลเป็นลบไม่พบเชื้อ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดแต้วจึงได้อธิบายอย่างละเอียดว่า 

"เมื่อวันที่ 15 ก.ค. แต้วได้ทราบผลจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกว่าตรวจพบเชื้อ COVID-19 แต้วได้รับการติดต่อเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งที่ 2 ซึ่งมี Hospitel รองรับจึงได้ทำเรื่องขอเข้ารับการรักษา โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการซักประวัติและอาการ ซึ่งแต้วไม่มีอาการใด ๆ รวมถึงไม่สามารถแจ้งรายละเอียดของความเสี่ยงที่ชัดเจนจนเป็นสาเหตุของการรับเชื้อมาได้ เจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นให้ ตรวจซ้ำอีกรอบ ด้วยวิธี RT PCR (swab test) และในวันนี้ (16 ก.ค.) เวลา 21:00 น. แต้วได้รับแจ้งผลการตรวจจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งที่ 2 ว่า ไม่พบเชื้อ ซึ่งผลดังกล่าวได้ผ่านการตรวจซ้ำกันถึงสองครั้ง (repeated process) เพื่อให้มั่นใจว่าผลถูกต้อง แพทย์ลงความเห็นว่าแต้วไม่นับเป็นผู้ติดเชื้อ COVID-19 และไม่ต้องเข้ารับการรักษา จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต้วได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของการรักษา รวมถึงได้เปิดเผย Timeline จากผลการตรวจในครั้งแรกไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้หลายท่านได้รับผลกระทบไปในวงกว้าง อย่างไรก็ตามแต้วต้องขออภัยในความผิดพลาดทางข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ"


หลังจากนั้น เต๋า ณัฐวดี พี่่สาวของแต้วได้โพสต์แสดงความยินดีและดีใจกับน้องสาว พร้อมทั้งเรียกร้องให้คนที่เคยต่อว่าน้องสาวแรง ๆ มาขอโทษน้องสาวอีกด้วย 

ที่มา TrueID







วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"หญิงหน่อย" จี้มาตรการเยียวยาโควิดของรัฐบาลยังไม่พอ เสนอ 6 มาตรการแก้ไขด่วน! ก่อนคนตัวเล็กจะอดตาย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยสร้างไทย ฟาดรัฐบาล"กลั้นหายใจไม่ไหวแล้ว" มาตรการเยียวยาโควิดของรัฐบาลแค่นี้ยังไม่พอ ต้องพักหนี้ ลดค่าเช่า ลดค่า GP ส่งอาหาร ฯลฯ โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เนื้อหาดังนี้


‘กลั้นหายใจไม่ไหวแล้ว’ มาตรการเยียวยารัฐยังไม่พอ ต้องพักหนี้ให้ประชาชน เจรจาลดค่าเช่า ลดค่า GP ส่งอาหาร ด่วน! ก่อนคนตัวเล็กจะอดตาย. รัฐบาลประกาศมาตรการล่าสุดในการเยียวยาประชาชน จากการบริหารงานสถานการณ์โควิดที่ล้มเหลวของตัวเองอีกรอบ ดิฉันเรียกร้องมาตลอดทั้งเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขที่ต้องดำเนินการไปพร้อมกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพราะยิ่งนานวันยิ่งชัดว่าประชาชนจะอดตาย ก่อนได้วัคซีนป้องกันโรคด้วยซ้ำ

ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย รวมถึงพี่น้องประชาชนที่สายป่านไม่ยาว อาจจะถึงคราวต้องอดตาย เหมือนถูกบังคับให้กลั้นหายใจ เวลานี้กลั้นกันไม่ไหวแล้ว เขาอยากได้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของธุรกิจที่เดินไปพร้อมกับการมีชีวิตที่ดีมีความหวัง ไม่ใช่ไร้ทิศทาง จะตรวจโควิดหวิดยังต้องนอนรอความหวังข้ามคืน

แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการผ่านครม.มาแล้วในวันนี้ แต่ดิฉันยังยืนยันข้อเสนอการเยียวยา จากเงินกู้ 5 แสนล้านบาท มาช่วยพี่น้องคนไทยที่เดือดร้อนดังนี้ค่ะ

1.ให้จ่ายค้าจ้างลูกจ้างของธุรกิจรายย่อย 75 % ของรายได้ที่หายไป 

2. ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้จ่ายชดเชยเดือนละไม่ต่ำกว่า 7,000 บาท

3.งดเก็บค่าน้ำค่าไฟบ้านที่ใช้ไม่เกิน 1,000 บาท ถึงสิ้นปี (ไม่ใช่แค่ 2 เดือน)

4.พักชำระหนี้ ทั้งค่าผ่อนรถและผ่อนบ้าน อย่างน้อย 6 เดือน โดยธนาคารของรัฐสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนธนาคารเอกชนอาจต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาเจรจาเพื่อพักชำระหนี้ในส่วนนี้ให้กับประชาชน เพราะบ้านคือที่ซุกหัวนอน และรถคือเครื่องมือทำมาหากิน มันจำเป็นจริงๆ

5. การสั่งล็อกดาวน์กิจการ รัฐต้องหารือกับผู้ให้เช่าพื้นที่งดจัดเก็บค่าเช่าแผง ซึ่งรัฐอาจจะชดเชยผู้ให้เช่าพื้นที่ด้วย

6. รัฐต้องเจรจากับบริษัทส่งอาหาร ให้ลดค่า  GP ร้านอาหารลง เพื่อช่วยร้านอาหารขนาดเล็กที่ ขณะนี้ใกล้จะหมดลมแล้ว เพราะว่าหลังจากนี้ประชาชนที่อยู่บ้าน ต้องใช้บริการบริษัทส่งอาหารเหล่านี้จำนวนมาก อยากให้สนับสนุนอย่าง โรบินฮูด

ข้อเสนอเหล่านี้ 70% สามารถทำได้ทันที อยากขอร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ เพราะวันนี้ ประเทศไทยมาถึงจุดที่ยากลำบากมาก ประชาชนอดอยากแร้นแค้นมาก อยากให้รัฐบาลเห็นใจ วันนี้รัฐบาลเลี่ยงใช้คำว่าล็อกดาวน์ แต่ไม่ว่าคุณจะใช้คำว่าอะไรผลกระทบที่เกิดขึ้นมันไปตกอยู่กับประชาชน จนถึงขั้นแยกได้ว่าไม่มีจะกิน

มันถึงเวลาแล้วค่ะ ที่ท่านต้องเอาหัวใจมาทำงาน ต้องเอาหัวใจไปสอดส่องดูแลประชาชน ว่าเขาเดือดร้อนแค่ไหน เขาไม่ได้นั่งสบายๆรอกินเงินเดือน หรือจะตัดเงินเดือน 2-3 เดือน ไม่ได้เป็นผลอะไรกับนายกฯ หรอก แต่วันนี้เงิน 5 บาท 10 บาท ที่ควรจะซื้อกินแต่ละวันยังไม่มี


ที่มา www.posttoday.com

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

พนักงานคลังสินค้า เปิดใจเชื่อสกัดโควิดช้าเหตุแพร่นับร้อยคน

พนักงานกลุ่มเสี่ยงได้เปิดเผยเหตุการณ์เบื้องลึก คลัสเตอร์พนักงานคลังกระจายสินค้าห้างซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดัง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ติดเชื้อ 312 คน จากพนักงานกว่า 1200 คน 


โดยหนึ่งในพนักงานกลุ่มเสี่ยง เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์กับทีมข่าวว่า หากคลังสินค้าตัดสินใจปิดก่อนหน้านี้ ก็เชื่อว่าเชื้อโควิดจะไม่แพร่กระจายรวดเร็วจนเป็นเหตุทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก

หลังจากคลังกระจายสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมาก ทำให้พนักงานคลังกระจายสินค้าแห่งนี้ หลายร้อยคนต้องขึ้นรถทัวร์เพื่อไปกักตัวที่โรงแรมเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง โดยพนักงานบางส่วนเป็นผู้ที่ติดเชื้อแล้ว ต้องนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลสนาม ย่านสุขุมวิท 

โดยหนึ่งในพนักงานกลุ่มเสี่ยงที่ต้องไปกักตัวที่โรงแรม ได้เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวี ทางโทรศัพท์ว่า เธอได้มาทำงานอยู่ในคลังกระจายสินค้าแห่งนี้ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้ทราบข่าวจากพนักงานด้วยกันเองว่า มีพนักงานแผนกหนึ่งในคลังติดเชื้อ 2-3 คน เนื่องจากตอนนั้นต้องทำงานร่วมกันกับพนักงานกลุ่มดังกล่าว จึงเริ่มรู้สึกกังวลและได้พยายามขอหยุดงานแต่ทางหัวหน้าฝ่ายแจ้งว่าหากหยุดงานเกิน 3 วัน จะถูกไล่ออก จึงจำเป็นต้องทำต่อ โดยทางคลังได้ให้พนักงานที่ติดเชื้อกลับไปรักษาตัว แต่ก็ยังมีพนักงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อยังคงมาทำงานอยู่ตามปกติ หลังจากนั้นไม่นานก็มีพนักงานติดเชื้อเป็นจำนวนมาก

น.ส.เอ (นามสมมติ) ยังบอกอีกว่า ถ้าทางคลังตัดสินใจปิดตั้งแต่ช่วงแรก ตั้งแต่ที่มีพนักงานติดเชื้อแค่ไม่กี่คน สถานการณ์ก็อาจจะไม่ลุกลามบานปลายขนาดนี้ซึ่งตอนนี้เธอเป็นห่วงครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะพี่สาวซึ่งทำงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ส่วนเธอยังรอผลตรวจอยู่ แต่ที่เป็นห่วงคือคนในครอบครัวโดยเฉพาะแม่ที่สูงอายุ และหลานวัย 4 ขวบ ที่ก่อนหน้านี้ก็อยู่ด้วยกันและใกล้ชิดกัน

นอกจากนี้ คลังสินค้าได้ประกาศแจ้งกำหนดการว่า จะกลับมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ซึ่งหมายถึงว่าเธอจะต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิม ทั้งๆที่ยังกักตัวเองไม่ครบกำหนด 14 วัน จึงเกิดกังวลว่าหากยังมีพนักงานที่ติดเชื้ออยู่ ก็จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้อีก

ขณะที่ทางด้านศูนย์กระจายสินค้าโลตัส บางบัวทอง ได้ออกประกาศระบุว่า สำนักงานประกันสังคมทำการตรวจคัดกรองเชิงรุกพนักงานโลตัส และเจ้าหน้าที่ที่จ้างงานจากภายนอก (outsource) โดยทันทีที่ทราบผลการตรวจเมื่อเย็นวันที่ 9 กรกฎาคม

ศูนย์กระจายสินค้าบางบัวทองได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุก โดยเบื้องต้นได้ปิดศูนย์กระจายสินค้าโดยทันทีเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 – 16 กรกฎาคม ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งบริเวณโดยทันทีในคืนวันที่ 9 กรกฎาคม และทำความสะอาด deep cleaning ฆ่าเชื้อพื้นผิวสัมผัสทั้งหมด พร้อมทำความสะอาด ฆ่าเชื้อรถขนส่งสินค้าทั้งหมด นอกจากนี้ยังประสานงานให้พนักงานที่ติดเชื้อทั้งหมด เข้ารักษาตามกระบวนการของภาครัฐแล้ว และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเต็มที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดต่อไป

ที่มา PPTV




วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

พรรคไทยสร้างไทย ชวนลงชื่อฟ้องรัฐบาลเหตุดื้อซื้อวัคซีนซิโนแวค

ประชาชนกว่าห้าหมื่นรายแห่ลงชื่อหนุนพรรคไทยสร้างไทยฟ้องรัฐบาล ปมดื้อใช้งบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาทซื้อวัคซีนซิโนแวค 


เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ก.ค.) พรรคไทยสร้างไทยได้เผยว่ามีประชาชนกว่า 50,000 คน ร่วมลงชื่อสนับสนุนให้พรรคฟ้องเพื่อดำเนินคดีคณะรัฐมนตรีและผู้สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวค ทั้งที่ทราบดีว่าป้องกันโรคไม่ได้ โดยทางพรรคมองว่าเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และ 55 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

โดยในรัฐธรรมนูญปี 2560 มีใจความสำคัญเกี่ยวกับ 2 มาตราดังกล่าวว่า บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พรรคไทยสร้างไทยมองว่าวัคซีนซิโนแวคมีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า ช่วยให้ไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แต่ไม่ช่วยป้องกันโรคได้เลย แต่รัฐบาลก็ยังเดินหน้าจัดซื้อโดยใช้งบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท

พรรคไทยสร้างไทยเปิดตัวแคมเปญ #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ด้วยมองว่ารัฐบาลนี้บริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผิดพลาด จนทำให้ประชาชนขาดรายได้ ที่นำไปสู่ความเครียดและจบชีวิตตัวเอง ขณะที่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร บางคนเสียชีวิตในบ้านพัก เพราะไม่มีเตียงรักษา

ที่มา สนุกดอทคอม

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ทนายนิด้า ฟาดแรง! โควิดไม่ได้น่ากลัวเท่าผู้นำที่ดูแลประชาชนไม่ได้

ทนายนิด้า วอนภาครัฐออกมาตรการช่วยให้คนอยู่บ้าน พร้อมฟาดหนัก รัฐพึ่งพาไม่ได้แล้ว "โควิดไม่ได้น่ากลัว ผู้นำต่างหากที่น่ากลัว"


วันนี้(8 ก.ค.64) น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือทนายนิด้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิดในตอนนี้ว่า #โควิดไม่ได้น่ากลัวผู้นำต่างหากที่น่ากลัว โดยได้มีการเล่าว่า 

"เมื่อไม่นานเพิ่งได้ดูภาพที่อินเดีย ที่คนตายถูกเผารวมกันมากๆ เหมือนกองขยะ คนป่วยนั่งรอความตายเต็มล้นออกมาหน้าโรงพยาบาล เพราะเตียงไม่พอ บุคคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ แล้วนึกถึงภาพตัวเองในอนาคตอันใกล้"

"ในเมื่อรัฐดูแลเราได้ไม่ดีพอ เราคงต้องดูแลตัวเอง ตอนนี้หลายๆ หน่วยงานราชการก็ยังไม่เลื่อน ทนายก็เลื่อนไม่ได้ ขนาดบอกว่าทนายเดินทางไปจากกรุงเทพนะ เจ้าหน้าที่ก็ยังบอกว่ามาเถอะ เรามีมาตรการตรวจสอบ ตรวจแล้วไง คือถ้าไปถึงตรงนั้นแล้วพบเชื้อว่าเป็นโควิดก็เพียงแต่ไม่ให้เดินขึ้นตึก แต่ระหว่างเดินทางพวกเราสัมผัสคนกี่คน แวะไหนบ้างไม่กลัวเราแพร่เชื้อหรือได้รับเชื้อหรอคะ เราอยากเลื่อน เราอยากช่วยอยู่กับบ้าน มาตรการรัฐไม่ช่วยเราหน่อยหรอ เพราะถ้ารัฐไม่สั่งออกมา ทนายไม่ไปก็ถือว่าละทิ้งคดี"

พร้อมแจ้งข่าวถึงลูกความว่า

"ในส่วนของลูกความที่จะติดต่อจ้างว่าความ นับแต่นี้ขอทางออนไลน์เท่านั้นก่อน งดเจอ งดใกล้ชิด ถ้าไม่สะดวกจะจ้าง ติดต่อทนายความท่านอื่นก่อนก็ได้ นิด้าลูกยังเล็ก ที่ผ่านมาก็นับว่าห้าวพอสมควร เชื่อมั่น เชื่อใจ เชื่อในคำพูดของคนว่าจะไม่มีใครตายอยู่บ้านก็เลยไม่กลัว โควิดไม่น่ากลัวป่วยก็แค่รักษา เราปลูกฝังความคิดนี้มาในตอนต้น คนก็เลยไม่กลัว ปล่อยให้ตัวติดจนล้นเตียง"

ก่อนทิ้งท้ายว่า 

"ตอนนี้ไม่ได้กลัวเป็นโควิดเท่ากับกลัวผู้นำที่ดูแลประชาชนไม่ได้ อยากให้เห็นอินบ็อกซ์เข้ามาขอความช่วยเหลือเรื่องเตียงผู้ป่วยกับดารากับทนาย แปลว่ารัฐพึ่งพาไม่ได้แล้วจริงๆ ตอนนี้กลัวมากแล้วจริงๆ เหมือนคนพูดจะอยู่คนละโลกกับเรา" #ไม่มีใครตายอยู่บ้าน #ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย

ที่มา ข่าวสด












วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เชียงใหม่ดำเนินคดี "พิมฐา ฐานิดา" ตะลอนเที่ยวไม่กักตัว

คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของเชียงใหม่ดำเนินคดี "พิมฐา ฐานิดา" เอาผิดเหตุตะลอนเที่ยวไม่กักตัว หลังจากที่เจ้าตัวออกมายอมรับว่าติดเชื้อโควิด-19 และได้แจ้งไทม์ไลน์ไปท่องเที่ยวหลายแห่งจนกลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมา


จากกรณีที่เน็ตไอดอลสาว "พิมฐา ฐานิดา" ติดโควิด-19 จนเกิดเรื่องราวดราม่า ความไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม เพราะเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงตะเวนเที่ยวโดยไม่กักตัว รวมถึงประเด็นปกปิดว่าไปเที่ยวกับหนุ่ม "แบงค์ ธิติ" ซึ่งทาง แบงค์ออกมาชี้แจงพร้อมขอโทษไปแล้ว ความคืบหน้าล่าสุดประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายที่เน็ตไอดอลสาวต้องเจอบอกเลยว่าค่อนข้างรุนแรง 

โดยทางเพจเจ๊มอย 108 ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ เน็ตไอดอลสาว "พิมฐา”โดยระบุข้อความว่า

"คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของเชียงใหม่ ได้ประชุมกันแล้วว่า.. พิมฐา มาจาก กทม แต่ไม่ได้มีการกักตัวแต่ ตะลอนเที่ยว ถือว่ามีความผิดชัดเจน  และเชียงใหม่จะดำเนินคดีอย่างแน่นอนเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่สังคม" 

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นดราม่าตามมาไม่จบ เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพที่เพจเจ๊มอย 108ได้โพสต์เอาไว้นั้นเป็นภาพของ "พิมฐา” ถ่ายกับเด็กตัวน้อย ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ออกมาชี้แจงว่า 

"ตอนนี้น้องและครอบครัวได้ไปตรวจหาเชื้อแล้วครับ รอผลตรวจ ตอนนี้กักตัวกันทั้งครอบครัวครับ เบื้องต้นยังไม่มีอาการใด ๆ ครับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงอีกครั้งครับ และขอตอบประเด็นว่าทำไมน้องพิมไม่ใส่แมสก์นะคะ จริง ๆ น้องใส่ตลอดเวลาค่ะ แต่ตอนนั้นถอดแมสก์ออกถ่ายรูป 3-4 รูป ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที และยืนห่างกันประมาณ 1 เมตร ในรูปดูเหมือนยืนติดกันเพราะเป็นมุมกล้องค่ะ จากนั้นก็ใส่แมสก์กลับ ยืนคุยกันห่าง ๆ 3-4 เมตร ประมาณ 2 นาที ไม่ได้มีการสัมผัสตัวค่ะ เบื้องต้นคนรอบตัวน้องพิมไม่มีใครติดเชื้อนะคะ แม้กระทั่งคนในครอบครัวก็ไม่มีใครติด งานนี้ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ประวัติ พิมฐา

พิมฐา มีชื่อจริงว่า ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล

ชื่อเล่นคือ พิม (เนื่องจากคนชื่อพิมเยอะมาก เพื่อนๆ เรียกว่า พิมฐา)

เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2536

ส่วนสูง 164 เซนติเมตร

IG : pimtha

การศึกษา :

จบการศึกษาระดับมัธยมต้นที่ โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัยเชียงใหม่

จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่ Fairfield High School ประเทศ ออสเตรเลีย

จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ Ritsumeikan Asia Pacific University ประเทศญี่ปุ่น

ที่มา คมชัดลึกSanook Campus

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"พิธีกรดาราดัง" รู้ว่าเพื่อนร่วมงานติดโควิดแต่ไม่ยอมยกเลิกถ่ายรายการ

กลายเป็นเรื่องร้อนๆ ในวงการบันเทิง เมื่อมีการออกมาแฉ "พิธีกรดาราดัง" ที่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานติดโควิดแต่ไม่ยกเลิกอัดรายการ แถมฝ่าผืนมาตรการป้องกัน สุดท้ายติดเชื้อทำงานเดือดร้อนไปทั่ว


เพจดังเจ๊มอย 108 โพสต์เฟซบุ๊กเปิดประเด็นแซ่บๆ เหตุ"พิธีกรดาราดัง" ที่ทำวงการบันเทิงผวาติดโควิดกันทั่ว จนกลายเป็นประเด็นสุดร้อนที่แชร์ว่อนไปทั่วโลกออนไลน์ โดยมีข้อความว่า  


"ดาราผู้จัดคนหนึ่งมาถ่ายรายการดัง ย่านรังสิตแล้วกร่าง!!! ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิด โดยไม่กักตัว เพราะอยู่กลุ่มเสี่ยง แถมไม่ใส่แมส มาถึงแล้วแต่โดนไล่กลับ ก็เหวี่ยง สุดท้ายติดโควิด บุญบาป"

งานนี้ ชาวเน็ตต่างคาดเดากันไปว่าจะเป็นใคร ขณะที่บางส่วนก็รู้แล้วเพราะคนนี้เดาง่ายมาก แต่เรื่องราวประเด็นร้อนนี้ยังไม่จบ เพราะวงในยังได้แฉแบบละเอียดยิบต่ออีกว่า “ พิธีกรดารดัง” ทำเอาคนร่วมงานต่างเอือมระอามองบนไปตามๆ เวลาเดินเข้าบริษัทมาแล้วไม่สวมแมสก์ แต่จะมาสวมในช่วงก่อนที่จะเริ่มอัดรายการ พร้อมกับพูดเอะอะย้ำๆ ว่า “ใส่ก่อนๆ กลัวดราม่า”   

โดยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มอัดรายการ “พิธีกรดารดัง”  ได้พูดคุยกับทีมงาน  พร้อมกับโชว์โทรศัพท์ที่มีรูปของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง และบอกกับทีมงานว่า “…ติดโควิด อีกเดี๋ยวก็คงจะกำลังแจ้งไทม์ไลน์” ซึ่งเท่ากับว่าพิธีกรคนดังนั้นทราบเรื่องแล้ว รวมถึงไปเจอกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นมาด้วย

อย่างไรก็ตาม “พิธีกรดาราดัง” ไม่แสดงความรับผิดชอบด้วยการยกเลิกการอัดรายการ แต่ยังคงถ่ายรายการต่อโดยให้เหตุผลว่า เพิ่งรู้ว่าเพื่อนร่วมงานติดก่อนหน้า 1 ชั่วโมงเอง ซึ่งล่าสุด “พิธีกรดารดัง” รายนี้ออกมาแจ้งว่าตนเองติดโควิด ทำเอาทีมงานที่ใกล้ชิดถ่ายรายในรายการวันนั้นเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะต้องถูกต้องกักตัว 14 วัน และ รีบตรวจหาเชื้อกันเป็นแถวๆ

ที่มา คมชัดลึก 


วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ด่วน !! คณะรัฐมนตรี มีมติยกเลิก "วันหยุดพิเศษ" 27 ก.ค.นี้

ครม.เคาะยกเลิก "วันหยุดพิเศษ" 27 ก.ค.นี้ เพื่อลดการเดินทางออกต่างจังหวัด ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 พร้อมสั่งให้หน่วยงานราชการอำนวยความสะดวก เรื่องการยกเลิกตั๋วการเดินทางและการจองที่พัก


วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกวันหยุดพิเศษ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไปในปี 2563 ที่กำหนดให้อังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564 เป็นวันหยุดพิเศษ เนื่องจากช่วงปลายเดือนกรกฎาคมมีวันหยุดพิเศษติดต่อกันหลายวัน ตั้งแต่ 24-28 ก.ค.

เมื่อได้มีการพิจารณาสถานการณ์การระบาดของโควิดระลอกใหม่ ทำให้ ศบค. เห็นว่าต้องมีมาตรการทางสาธารณะสุขที่เข้มงวดขึ้น และขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด จึงมีความเห็นให้ยกเลิกวันหยุดพิเศษวันที่ 27 กรกฎาคม นี้ โดยประชาชนมีการวางแผนการท่องเที่ยว ขอให้หน่วยงานราชการอำนวยความสะดวก เรื่องการยกเลิกตั๋วการเดินทางและการจองที่พัก

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...