แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวฮอต แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวฮอต แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ชูวิทย์ เดินหน้าแฉต่อ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม' มีเงินทอน 30,000 ล้านได้ถูกโอนไปสิงคโปร์แล้ว

กลายเป็นมหากาพย์การแฉไปแล้ว เมื่อชูวิทย์ออกโรงแฉ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เตรียมให้เป็นทุนเตรียมเลือกตั้ง ตั้งข้อสังเกตฮั้วประมูลตั้งแต่ต้น เงินทอน 30,000 ล้าน ถูกโอนไปสิงคโปร์


กรณีการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ที่ดูเหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะที่ผ่านมามีการเปิดประกวดราคาหาเอกชนเข้ามาดำเนินมากถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นผู้ล้มประมูลเอง หลังจากนั้นเปิดประกวดราคาครั้งที่ 2 โดยมีการกำหนด TOR ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น 

หลายฝ่ายจับตามองขั้นตอนการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ไม่เว้นแม้แต่ นายชูวิศย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉซ้ำ ถึงขั้นตอนการประกวดราคา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเกิดการทุจริตในกระบวนการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มครั้งนี้หรือไม่ 

โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมายังบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับนนำป้ายขนาดใหญ่ซึ่งแสดงให้เห็นข้อมูลในเปิดประกวดราคาก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"

นายชูวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการประกวดจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ของ รฟม. โดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลนั้น มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายจุดโดยเฉพาะในขั้นตอนการประกวดราคา การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ร่างขอบเขตการทำงาน (TOR) ภายหลังจากที่มีการเปิดซองราคาไปแล้ว

โดยมีการกำหนดคะแนนด้านเทคนิคให้สูงขึ้น จนนำไปสู่การฟ้องร้องศาลปกครอง ต่อเนื่องไปจนถึงการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวเกิดการฮั้วกับเอกชน เพื่อที่จะรับเงินทอนและนำเงินไปเป็นทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ 

ทั้งนี้นายชูวิทย์ ได้แบ่งการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ครั้งนี้ออกเป็น 5 สถานี ได้แก่ 

-สถานีโกง  การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่เปิดขายซองประกวดราคาไปแล้ว โดยรูปแบบเดิมเป็นการให้คะแนนค่าก่อสร้าง และเงินตอบแทนที่รฟม.จะต้องคืนให้แก่เอกชน 

-สถานีทุจริต  มีการร้องศาลปกครอง โดยในชั้นต้นไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์แต่ในชั้นสูงสุดที่ประชุมใหญ่มีมติ 27:23 ให้สามารถเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ 

-สถานีฮั้ว  ในกระบวนกำหนด TOR รอบใหม่หลังจากที่การประกวดราคาครั้งแรกถูกล้มไปนั้นมีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บางบริษัทเข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว

-สถานีเงินทอน  พบว่า 30,000 ล้านบาทเข้ากระเป๋าใคร โดยพบว่ามีการโอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์ผ่านธนาคารเอกชนระหว่างประเทศ 

-สถานีปลิว เปิดประมูลรอบสองกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ต้องเคยเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปาทานกับรัฐบาลเท่านั้น ทำให้เหลือบริษัทเดียว 

"เกิดการล็อกสเปกแบบน่าเกลียด ผมโทษใครไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลผมก็โทษไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็ต้องการลงสมัครพรรคการเมืองเพื่อหวนคืนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ยกตัวเองโครงการใหญ่ที่เขาเอาเงินพวกเราไป เงินไป 70,000 ล้านแล้วมีเงินเข้าไปจ่ายค่าคอม 30,000 ล้าน โครงการรถไฟฟ้าสายส้มเป็นตัวอย่างโครงการรับเพียงตัวอย่างเดียว แสดงให้เห็นว่าระบบการทำงานพัง ' นายชูวิทย์กล่าว

ที่มา คมชัดลึก ออนไลน์

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2565

เช็คด่วน! บัตรคนจนรอบใหม่ใครมีสิทธิบ้าง? รีบลงทะเบียนเลย

วิธีลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 “บัตรคนจน” รอบใหม่ ที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค.65 ใครมีสิทธิบ้าง? เช็คสิทธิแล้วรีบลงทะเบียนเลย


เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 65 ที่ผ่านมานี้ กระทรวงการคลัง ได้เปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 “บัตรคนจน” โดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 5 ก.ย. 65 - 19 ต.ค.65 สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. - 11 พ.ย. 65 โดยผลการลงทะเบียนจะประกาศทุกวันศุกร์

สำหรับการลงทะเบียน มี 2 ช่องทาง

ช่องทางแรก ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มี 6 ขั้นตอนง่ายๆ

1.เข้าเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th

2.กรอกข้อมูลบัตรประชาชน และเลข Laser หลังบัตรบัตรประชาชน

3.กรอกข้อมูล 4 ส่วน

-ข้อมูลส่วนตัวของผู้ลงทะเบียน

-การประกอบอาชีพ

-รายได้และหนี้สินของผู้ลงทะเบียน

-ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ

4.ผู้ลงทะเบียนที่จดทะเบียนสมรส

หรือมีบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

เลือกหน่วยรับลงทะเบียนที่จะไปยื่นเอกสาร

5. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกดยืนยัน

6.ไม่มีครอบครัว รอผลการตรวจสอบ

สถานะบุคคล

-มีครอบครัว ไปแสดงตัวคนและยื่นเอกสารยังหน่วยรับลงทะเบียนที่เลือกไว้


ช่องทางที่ 2. ลงทะเบียนผ่านหน่วยรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1.ธนาคารกรุงไทย

2.ธนาคารออมสิน

3.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

4.สำนักงานคลังจังหวัด (ไม่รวมกทม.)

5.สำนักงานเขต กทม.

6.ที่ว่าการอำเภอ

7.สำนักงานเมืองพัทยา

สำหรับผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้พิการ ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่ได้ก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ซึ่งหนังสือมอบอำนาจนั้นสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย

ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 รอบใหม่ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1.สัญชาติไทย

2.อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

3.ไม่เป็น ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขังบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือนผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง ส.ส. , ส.ว.

4.รายได้ผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน รอบใหม่ 2565

-รายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท บุคคล

-ครอบครัวรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท

-ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ

-ทรัพย์สินทางการเงินต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาทต่อบุคคล

-ครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท

5.ไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์

-วงเงินกู้บ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

-วงเงินกู้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท

-ต้องไม่มีบัตรเครดิต

-ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ มีกรรมสิทธิ์ ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้

ผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว

-ห้องชุดขนาด ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

-ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่

-ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

-บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตารางเมตร

-ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่

-ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่จะต้องมีขนาดขึ้น

ที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ และ ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่

ผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว

-ห้องชุดขนาดไม่เกิน 35 ตารางเมตร ต่อคน

-กรณีเป็นเจ้าของร่วมกันไม่เกิน 35 ตารางเมตร

-ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

-บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และตึกแถว

-กรณีเป็นจ้าของแยกจากกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.ต่อคน

-กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.

-ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่ หรือใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

-จะต้องมีขนาดพื้นที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตรไม่เกิน 20 ไร่

-ไม่ใช้เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

โดยมีเวลาให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2565 ถึง 19 ต.ค.65 นี้เท่านั้น


ที่มา www.ejan.co


วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565

เตือนผู้ร่วมโครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" รายเก่า-รายใหม่ ระวังถูกตัดสิทธิ

หลังการเปิดให้ลงทะเบียน ยืนยันสิทธิผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" หรือ www.คนละครึ่ง.com กับประชาชนกว่า 26.5 ล้านคน ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดี


ล่าสุดขออัปเดตโครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" ผู้ร่วมโครงการรายเก่า-รายใหม่ ที่ได้รับเงิน 800 บาท โดยโอนเข้าแอปฯ เป๋าตัง ในวันที่ 1 กันยายน 2565 (ทั้งรายเก่า และรายใหม่) เพื่อให้เริ่มสิทธิรัฐช่วยจ่าย 50% ไม่เกินวันละ 150 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ 1 ก.ย. - 31 ต.ค.2565

สำหรับ "คนละครึ่งเฟส 5" รายใหม่ ที่ลงทะเบียนผ่านแอป "เป๋าตัง" หรือ www.คนละครึ่ง.com เรียบร้อย จะต้องดำเนินการยืนยันตัวตนก่อนการใช้สิทธิ โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

1.ยืนยันตัวตนผ่านแอป "เป๋าตัง"

เลือก "สมัครใช้และบริการ"

ยินยอม การจัดการข้อมูล ยืนยันตัวตน

เตรียมถ่ายบัตรประชาชน

ถ่ายบัตรประชาชน

กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

กรอกข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม

กรอกข้อมูล CDD

เลือกวิธีการยืนยันตัวตนด้วยแอป Krungthai NEXT หรือสแกนใบหน้า


2.ยืนยันตัวตนด้วย Krungthai NEXT

เข้าสู่ Krungthai NEXT

ระบุ PIN Krungthai NEXT

กดปุ่มดำเนินการบนแอปเป๋าตัง

กรอกรหัส OTP (OTP จะถูกส่งไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับ Krungthai NEXT)

ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล

เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร

หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก

หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ


3.ยืนยันตัวตนด้วยการ สแกนใบหน้า

ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า

ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล

เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร

หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก

หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ

ส่วน รายเก่า ที่เคยร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 สามารถตรวจสอบ ยืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 5 ผ่าน คนละครึ่ง.com ตามขั้นตอนดังนี้ 

เข้าสู่เว็บไซต์ 

กดปุ่ม "ลงทะเบียนรับสิทธิ" เลือก "สำหรับผู้เคยใช้สิทธิคนละครึ่งเฟส 4"

กดรับทราบ หลักเกณฑ์เงื่อนไขและยินยอมโครงการฯ 

กรอกรายละเอียดต่างๆและกดปุ่ม ยืนยัน 

ตรวจสอบข้อมูลและกดปุ่ม ยืนยัน 

ระบบแสดงผลตรวจสอบสิทธิ

ข้อควรระวัง! ถูกตัดสิทธิ

สำหรับรายเก่า หรือ ผู้ที่เคยร่วมโครงการฯ ต้องใช้สิทธิใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. จึงจะสามารถใช้จ่ายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งหากไม่ใช้สิทธิตามระยะเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิทันที

รายใหม่ ผู้ที่ไม่เคยร่วมโครงการฯ ต้องใช้สิทธิใช้จ่ายครั้งแรก ต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 14 วันหลังจากที่ได้รับ SMS ยืนยันเข้าร่วมโครงการหลังวันที่ 1 กันยายน 2565  จึงจะสามารถใช้จ่ายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งหากไม่ใช้สิทธิตามระยะเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิทันทีเช่นกัน

ที่มา กรุงเทพธุระกิจคนละครึ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) นางเอกตัวจริง คังคุไบ แชร์โพสต์ พิมรี่พาย พร้อมแคปชั่น รักเลย

สมราคาเจ้าแม่ออนไลน์ยืนหนึ่งเมืองไทย เมื่อ พิมรี่พาย โพสต์ภาพตัวเองคัฟเวอร์สวมบทเป็นคังคุไบเมืองไทย สวยเข้าตา นางเอกคังคุไบตัวจริง ถึงกับแชร์โพสต์ พิมรี่พาย พร้อมแคปชั่นรักเลย


ต้องบอกเลยว่านาทีนี้คือคังคุไปฟีเวอร์จริง ถ้าใครไม่คัฟเวอร์เป็น คังคุไบ ถือว่าเอาท์ ที่รับบทโดย นางเอกดัง อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) นางเอกสุดฮอตจากภาพยนตร์ดัง Gangubai Kathiawadi “คังคุไบ” หญิงแกร่งแห่งมุมไบ 


ไม่เว้นแม้แม่ค้าออนไลน์และยูทูบเบอร์ชื่อดังของไทย อย่าง พิมรี่พาย หรือ พิมรดาภรณ์ ที่ล่าสุด ไม่ตกเทรนด์โพสต์ภาพตัวเองคัฟเวอร์สวมบทเป็นคังคุไบเมืองไทยได้สุดเหมือน สวยเข้าตา  จนนางเอก คังคุไบ ตัวจริง อย่าง อาเลีย บาตต์ นางเอกดังที่มีผู้ติดตามในไอจีส่วนตัวถึง 65.3 ล้านฟอลโลเวอร์ ถึงกับแชร์ไอจีสตอรี่ พิมรี่พาย พร้อมข้อความภาษาอังกฤษบอกว่า "Love it" ด้วย

งานนี้แฟนๆ ถึงกับกรี๊ดยกย่องว่าสมฉายาแม่ค้าออนไลน์ยืนหนึ่งของเมืองไทย พิมรี่พาย คังคุไบ เมืองไทย สวยไม่แพ้ใคร ขนาดนางเอกตัวจริงคังคุไบยังรักเลย

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565

เช็กด่วน "คนละครึ่งเฟส 4" ใครต้องลงทะเบียนรอบใหม่


"คนละครึ่งเฟส 4" เปิดรับเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ เช็กคุณสมบัติก่อนเข้าร่วมโครงการ คนที่เคยได้รับสิทธิ์คนละครึ่งเฟส 3 ต้องยืนยันรับสิทธิ์ ใช้สิทธิ์ตามกำหนด ไม่เช่นนั้นอาจชวดเงิน 1,200 บาท


หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติกรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 หรือ คนละครึ่งเฟส 4 โดยมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย. 65 หรือการดำเนินการ 3 เดือน จำนวน 29 ล้านสิทธิ์ โดยสนับสนุนวงเงินค่าอาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไป, บริการนวดสปา, ทำผม, ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้น สลากกินแบ่ง, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ยาสูบ และสินค้าหรือบริการ

สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะมีการรับผู้เข้าร่วมโครงเพิ่ม 1 ล้านสิทธิ์ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน และผู้ที่เคยร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จะต้องทำการการยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ มีรายละเอียด ดังนี้

วิธียืนยันสิทธิ์ร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4

สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 มาแล้ว จำนวน 27.98 ล้านคน จะต้องยืนยันสิทธิ์เพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป จากนั้นเงินจะถูกโอนเข้าแอปฯ เป๋าตัง จำนวน 1,200 บาท ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายได้ทันทีในร้านที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ทั้งนี้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน โดยมีข้อกำหนดดังนี้

1. ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 27.98 ล้านคน จะต้องยืนยันสิทธิ์เพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

2. จะต้องเริ่มใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ภายในวันที่ 28 ก.พ. 65 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ์ โดยสิทธิ์ที่เหลืออาจจะนำมาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป

3. หากยืนยันสิทธิ์และใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนดสามารถใช้สิทธิ์ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

สำหรับผู้ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน ต้องมีคุณสมบัติ และ วิธีลงทะเบียน ดังนี้

ประชาชนที่มีสัญชาติไทย

อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

มีบัตรประจำตัวประชาชน

ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 25 ม.ค. 2565

ไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2

ทั้งนี้ ประชาชนที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือ "แอปฯ เป๋าตัง" ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ์ โดยหลังการตรวจสอบสิทธิ์แล้ว เงินจะถูกโอนเข้าแอปฯ เป๋าตัง จำนวน 1,200 บาท ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ทันที ทั้งนี้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565

คนละครึ่งเฟส 4 เคาะแล้ว!! ลงทะเบียน 14 ก.พ. เริ่มใช้ 21 ก.พ. นี้

นายกฯ สั่งเร่งออก คนละครึ่งเฟส 4 เร็วขึ้น ลงทะเบียน 14 ก.พ. ใช้เงินได้ 21 ก.พ. 65 ช่วยลดค่าครองชีพ-กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ


วันนี้(15 มกราคม 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกระแสข่าวที่ว่า จะมีการให้ประชาชนกลุ่มเก่าที่เคยได้รับสิทธิกดยืนยันสิทธิ และให้ประชาชนกลุ่มใหม่จำนวน 5 ล้านคนลงทะเบียนเข้าร่วมจะมีการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ในวันที่ 16 มกราคม 2565 นี้ ไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ

พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังได้กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ สั่งเร่งบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยังส่งกระทบภาพรวมกับเศรษฐกิจไทย

โดยมอบหมายกระทรวงการคลังเร่งรัดโครงการฯ ให้เร็วขึ้นจากเดิมที่ได้กำหนดระยะเวลาการออกมาตรการไว้ประมาณช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 ความคืบหน้า

นายธนกรกล่าวต่อว่า 

ทั้งนี้ ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 เห็นชอบโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน

โดยล่าสุด ทางกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าว ให้แก่คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดการดำเนินโครงการ เช่น จำนวนสิทธิที่จะเข้าร่วมโครงการ วันแรกที่จะเปิดรับลงทะเบียนซึ่งเบื้องต้นจะสามารถเปิดลงทะเบียนวันที่ 14 ก.พ. 2565 และเริ่มใช้จ่ายได้ในวันที่ 21 ก.พ. 2565

นายธนกรกล่าวว่า สำหรับเงื่อนไข และรายละเอียดว่าจะได้รับตัววงเงินสิทธิ์เท่าใดนั้น ต้องให้คณะกรรมการกลั่นกรองเคาะอนุมัติวงเงินก่อน จากนั้นก็จะจัดทำแนวทางแล้วนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง จึงสามารถเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 ให้กับพี่น้องประชาชนได้ต่อไป

โดยวงเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 จะนำมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท ที่ถูกจัดไว้เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และวงเงินที่ส่งคืนรัฐอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ที่มีผู้ใช้จ่ายไม่เต็มจำนวน

“โครงการคนละครึ่งเฟส 4 นี้ ครอบคลุมกลุ่มคนที่มีแอปเป๋าตัง และผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการใหม่ รวมทั้งโครงการอื่นที่ดูแลกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษควบคู่ไปพร้อมกัน”

นายธนกรทิ้งท้ายว่า โดยจะมีส่วนในการลดภาระของประชาชน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการเปิดให้ยืนยันสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ในวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. 2565 เพื่อเป็นของขวัญในวันแห่งความรัก โดยวงเงินที่ให้จะอยู่ที่ 1,000-1,500 บาท มีระยะเวลาการใช้จ่ายประมาณ 2-3 เดือน โดยจะไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ แต่ผู้ที่เคยได้รับสิทธิแล้วจะต้องกดเพื่อยืนยันรับสิทธิ ไม่ใช่การรับสิทธิโดยอัตโนมัติ ส่วนเงินช่วยค่าครองชีพสำหรับบัตรคนจน และกลุ่มเปราะบางน่าจะมีการช่วยเหลือใกล้เคียงกับคนละครึ่ง 500-1,000 บาท

ที่มา ประชาชาติ, TNNthailand.com

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

คนละครึ่งเฟส 4 เริ่มมีนาคมนี้ คนที่ได้สิทธิเฟส 3 ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

เงื่อนไขรายละเอียด คนละครึ่งเฟส 4 เริ่มลงทะเบียน 1 มี.ค. 65 คนที่ได้สิทธิเฟส 3 ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลัง ยังไม่เคาะวงเงิน คนที่ใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนก็เข้าร่วมได้


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 ม.ค.65 ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.2565 เบื้องต้นผู้ได้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จำนวน 27.98 ล้านราย ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพียงกดยืนยันตนอีกครั้งผ่านแอพลิเคชันเป๋าตัง เหมือนการลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนจะต้องสมัครผ่านทางเว็บไซต์คนละครึ่ง ส่วนของวงเงินคนละครึ่งเฟส 4 ยังไม่ได้สรุปว่าจะให้เท่าใด เพราะอยู่ระหว่างรองบประมาณที่จะมาใช้ในโครงการนี้

นายพรชัย ย้ำว่า ผู้ที่ใช้สิทธิช้อปดีมีคืน 2565 ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 1 ม.ค.2565 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2565 โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี ยังสามารถเข้าสมัครเข้าร่วมคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.- 30 เม.ย. 2565 ได้ เพราะช่วงเวลาไม่ทับซ้อนกัน


นายพรชัย กล่าวสรุปว่า “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2563 ทุกมาตรการจบไปแล้ว สำหรับมาตรการปี 2564 คือ ช้อปดีมีคืน และมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 มีช่วงเวลาที่ไม่ได้ทับซ้อนกัน ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิทั้ง 2 มาตราการสามารถทำได้ เพราะว่ามาตรการช้อปดีมีคืนให้สิทธิกับคนที่มีภาระภาษีต้องจ่ายถึงได้ประโยชน์จากมาตรการ ซึ่งมีคนอยู่จำนวนไม่กี่ล้านคน ต่างจากมาตรการคนละครึ่งที่มีคนได้สิทธิ์ในเฟส 3 ประมาณ 28 ล้านคน และจะได้รับข้อความให้ยืนยันคนละครึ่งเฟส 4 ต่อไป” 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์


วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564

เเต้ว ณฐพร อวดหุ่นในบิกินี่สุดเเซ่บ เซ็กซี่เเบบไม่ต้องซูม

เเต้ว ณฐพร โพสต์ภาพของตัวเองอวดหุ่นสุดเเซ่บในชุดว่ายน้ำบิกินี่ ทำเอาแฟนๆ ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว โดยเพื่อนชมกันแบบรัวๆ


เเต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกสาวสุดฮอตของช่อง 3 ที่เป็นเเฟนสาวของไฮโซพันล้านอย่าง ประณัย พรประภา (เป็นน้องชายของไฮโซพก เเฟนหนุ่มของ อั้มพัชราภา) ใครที่ได้ติดตามอินสตราแกรมของ เเต้ว ณฐพร ก้จะรู้ว่าสาวคนนี้เธอชื่นชอบในเรื่องของการเต้นเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการเต็นมียังมาพร้อมกับความเเซ่บเเละเซ็กซี่ที่มีมากขึ้นเป็นเรื่อย




โดยล่าสุดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เเต้ว ณฐพร ได้พาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนที่จังหวัดกระบี่ เเละยังได้ควงไฮโซณัยร่วมทริปนี้ด้วย อินสตราแกรมของเเต้ว ณฐพร ได้โพสต์ภาพของตัวเองอวดหุ่นสุดเเซ่บในชุดว่ายน้ำบิกินี่ บอกเลยว่าครั้งนี้ความเซ็กซี่ตาเเตกโดยไม่ต้องซูมกันเลย 




หลังจาก โพสต์นี้ได้ถูกเผยเเพร่ออกไป มีบรรดาเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมหุ่นกันสาวแต้วอย่างมากมาย สวยเซ็กซี่แค่ไหนไปชมกันได้เลย








ที่มา Teenee.com

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564

เบียร์ เดอะวอยส์ อวดหุ่นสวยในวันพีซแดง ออร่าพุ่งๆ

เบียร์ เดอะวอยส์ อวดหุ่นสวยผิวขาวออร่าตัดกับวันพีซแดงจนแสบตา ทำเอาบรรดาหนุ่มเสียอาการกันเป็นทิวแถว


เบียร์ ภัสรนันท์ อัษฏมงคล หรือ เบียร์ เดอะวอยซ์ สาวสวยเสียงดี จากเวทีเดอะวอยซ์ แถมหุ่นแซ่บ จนกลายเป็นขวัญใจบรรดาหนุ่มๆ 









ล่าสุด กับทริปเที่ยวพักผ่อนเกาะเสม็ด สาวเบียร์ ได้โพสต์รูปบรรยกาศเดินเล่นชายหาดกับน้องหมาริมชายหาดแบบน่ารักสดใส แต่ก็ไม่ลืมแชะภาพอวดหุ่นสวยแซ่บๆ ในชุดว่ายน้ำวันพีซสีแดงสุดแสบสันส่งออร่าพุ่งๆ เข้าตาหนุ่มๆ กระแทกใจจนหวั่นไหวกันไปตามๆ กัน พร้อมกับข้อความว่า 

"ทะเลยังส่งเสียงกลับมาบ้าง แต่คนบางคนไม่มีแม้แต่เสียงตอบกลับ..."





ที่มา ที่นี่ดอทคอม


วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564

รัฐบาลเคาะแจกเงินคนละครึ่งเพิ่มอีกคนละ 1,500 บาท

ครม. เห็นชอบเพิ่มวงเงินงบประมาณสำหรับ 4 โครงการเพื่อส่งเสริม มาตรการลดค่าครองชีพ โดยโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จะเริ่มโอนเงินให้กับผู้ได้สิทธิเพิ่มอีกคนละ 1,500 บาท เดือน พ.ย.นี้


วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติเพิ่มวงเงิน 42,000 ล้านบาท ให้กับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 คาดว่า จะเริ่มโอนเงินเพิ่มอีกคนละ 1,500 บาทให้กับผู้ได้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ต้นเดือน พ.ย. นี้

การแจกเงินเพิ่ม 1,500 บาท เดือน พ.ย. นี้ เมื่อรวมกับการโอนให้ผู้รับสิทธิเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 และ 1 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา คนละ 1,500 บาท จะทำให้ผู้ที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จะได้รับเงินจากรัฐบาลทั้งหมด 4,500 บาท 

โดยทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธนกร วังบุญคงชนะ เผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 โดยอนุมัติงบประมาณสำหรับ 4 โครงการเพื่อส่งเสริม มาตรการลดค่าครองชีพ ซึ่งเสนอโดยกระทรวงการคลัง ดังนี้

1. อนุมัติ งบ 8,122 ล้านบาท สำหรับ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีกจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2564 รวมเป็น 500 บาท ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม และรวมเป็น 1,800 บาท ครอบคลุม กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนไม่เกิน 13,537,294 คน

2. อนุมัติ งบ 1,383 ล้านบาท สำหรับ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้า จำนวน 300 บาท/คน/เดือน ระยะเวลา 2 เดือน (เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564) รวมเป็น 500 บาท/คน ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม และรวมเป็น 1,800 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือฯ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถ เข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น จำนวนไม่เกิน 2,306,469 คน

3. อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 42,000 ล้านบาท สำหรับ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยประชาชนได้รับสิทธิสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าและบริการทั่วไป รวมทั้งสามารถซื้ออาหาร และเครื่องดื่มจากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ผ่านผู้ให้บริการระบบ ขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน อีกจำนวน 1,500 บาทต่อคน โดยจะสนับสนุนเพิ่มในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม รวมรัฐสนับสนุนวงเงินให้ทั้งสิ้น 4,500 บาท/คน สำหรับการใช้จ่ายตลอดระยะเวลาโครงการ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป สัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนไม่เกิน 28 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ลงทะเบียนใหม่และผู้ที่เคยได้รับสิทธิแล้ว


4. อนุมัติ งบ 3,000 ล้านบาท สำหรับ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ แก่ประชาชนทั่วไปที่ไม่มีบัตรสวัสดิการของรัฐ ไม่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จำนวนไม่เกิน 1 ล้านสิทธิ โดยปรับเพิ่มหลักเกณฑ์ในการคำนวณการให้สิทธิสนับสนุน e-Voucher และเพิ่มวงเงินสนับสนุน e-Voucher จากเดิมไม่เกิน 7,000 บาท เป็น 10,000 บาทต่อคน ในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2564 ดังนี้

การใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 คำนวณด้วยวิธีการเดิม

การใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

สำหรับผู้ได้รับสิทธิที่มียอดใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณ e-Voucher ไม่เกิน 60,000 บาท ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 จะได้รับสิทธิ ดังนี้ 

  • ยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 1-40,000 บาทแรก ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 10 ของ ยอดใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน 
  • ยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001– 80,000 บาท ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 15 ข อ งย อ ด ใ ช้ จ่ า ย จ ริ ง แต่ไม่เกิน 6,000 บาทต่อคน 
  • สำหรับผู้ได้รับสิทธิที่มียอดใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณ e-Voucher เต็มจำนวน 60,000 บาท ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ซึ่งมีสิทธิ ได้รับ e-Voucher จำนวน 7,000 บาท เรียบร้อยแล้ว จะมีสิทธิได้รับ e-Voucher เพิ่มเติม หากมีการใช้จ่ายเพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ในระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับสิทธิ e-Voucher ร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน

ที่มา www.posttoday.com

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...