แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อัพเดทข่าวไทย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อัพเดทข่าวไทย แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

#ปูอัด ขึ้น X Trends Thailand ปมคุกคามทางเพศ เรียกร้อง สส.ก้าวไกล ลาออก

การกรณีถูกร้องเรียนการคุกคามทางเพศของ สส. ทำให้ชาวโซเชียลและสส.หญิงพรรคก้าวไกล เรียกร้อง "ปูอัด ไชยามพวาน" ลาออก จน #ปูอัด ติดอันดับ 1 เทรนด์ X พร้อมทั้งเรียกร้องให้ขอโทษและเยียวยาผู้เสียหาย


ล่าสุด (2 พ.ย.2566) หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรคก้าวไกล กรณีถูกร้องเรียนคุกคามทางเพศ ได้มีมติเห็นควรให้ขับออกจากพรรคจำนวน 106 เสียง แต่ไม่ถึง 3 ใน 4 หรือ 116 เสียง ทำให้ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด สส.กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม ถูกตัดสิทธิพึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุมหากมีพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก ขณะที่นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ถูกขับพ้นพรรคจากประเด็นร้องเรียนเดียวกัน


ชาวโซเชียลต่างออกมาวิจารณ์ว่า นายไชยามพวานเพียงแถลงขอโทษ แต่ไม่ได้ยอมรับผิด บางส่วนเปรียบเทียบ 2 เคส 2 มาตรฐาน พร้อมเรียกร้องให้นายไชยามพวาน ลาออก จนแฮชแท็ก #ปูอัด ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 แอปพลิเคชัน X ตามมาด้วยอันดับ 3 #พรรคก้าวไกล 

ไม่ต่างจาก สส. และ สก.หญิง ในพรรคก้าวไกล ที่ออกมาโพสต์วิจารณ์พร้อมเปิดภาพโปรไฟล์ X เป็นสีดำ "เนอส ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย" สก.บางซื่อ ระบุ "หน้า ด..ไม่มีความละอายแก่ใจ เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน" พร้อมติดแท็กชื่อ X ของนายไชยามพวาน

"ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์" หรือทนายแจม สส. เปลี่ยนโปร์ไฟล์เฟซบุ๊กเป็นสีดำ พร้อมโพสต์ข้อความ "เมา ไม่ใช่ consent"

"ไอซ์ รักชนก ศรีนอก" สส. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนเองโหวตให้ขับออกทั้งสองกรณี "ไอซ์ชอบเรื่องที่ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ยกตัวอย่างในที่ประชุม เรื่อง สส.ญี่ปุ่น ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมาแล้วไปอภิปรายในสภา พอมีคนทักท้วงเรื่องนี้ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสืบสวนสอบสวนหรือรอให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณา สส. ท่านนั้นรู้อยู่แก่ใจตัวเองว่าผิด จึงรับผิดชอบด้วยการลาออก นี่คือมาตรฐานเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมของ สส. ท่านนั้น...ในวันนี้น่าผิดหวัง ที่มาตรฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่ สส. ของเพื่อนสมาชิกที่กระทำผิดในกรณีอื่นๆ ยังไม่สูงเท่าพี่เต้อ แม้มีการพูดคุยเพื่อชี้แจงรายละเอียด ก็ยังไม่สามารถคิดได้และที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคือยังไม่ยอมรับในความผิดของตนเลยด้วยซ้ำไป ประกาศกับสาธารณะชนได้หน้าตาเฉย...

ในที่ประชุมหารือ ได้มีข้อตกลงกันว่าในกรณีที่มีมติไม่ขับ จะต้องให้ผู้กระทำสำนึกผิด ขอโทษสังคม ขอโทษต่อเหยื่อและเยียวยาเหยื่อ ไอซ์ก็ขอตั้งตารอดู ว่าคำขอโทษจะออกมาจากใจจริงๆหรือจะเป็นแค่การแสดงอีกฉาก ที่ทำเพื่อให้รอดตัวไป และระหว่างที่รอผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและเหยื่อ (เรียกว่าแสดงความรับผิดชอบได้ไหมนะ)ไอซ์จะขอหยุดร่วมกิจกรรมกับพรรค หยุดร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมาชิกในพรรค กิจการในโควต้าและขอลาป่วย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในหลักการ จนกว่าจะมีการแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่อ อย่างจริงใจของผู้กระทำ"

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.ก้าวไกล โพสต์ X "ไชยาพวาน ควรลาออก"

ขณะที่คณะก้าวหน้า อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ อย่าง "ปิยบุตร แสงกนกกุล" และ "พรรณิการ์ วานิช" หรือช่อ ได้โพสต์วิจารณ์เรื่องนี้เช่นเดียวกัน

"ปิยะบุตร" ระบุว่า การใช้อำนาจที่ได้จากตำแหน่งไปจูงใจล่อลวงบุคคลอื่นให้กระทำตามต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวพันเรื่องเพศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในยุคสมัยนี้ และพรรคก้าวไกลต้องยกระดับมาตรฐาน ป้องกัน ต่อต้านการคุกคามทางเพศและความรุนแรงทางเพศในองค์กรหรือสถานที่ทำงานให้ได้ตามที่โฆษณาไว้

"พรรณิการ์" ระบุว่า คณะกรรมการวินัย คณะกรรมการบริหารพรรคฯ มีมติว่าทำผิดวินัยร้ายแรง คุกคามทางเพศ ที่ประชุมร่วม สส. และกรรมการบริหารก็โหวตขับถึง 106 เสียงจาก 128 เสียง ขาดเพียง 10 เสียงจะขับออกได้ตามกฎหมาย จึงเรียกร้องให้นายไชยามพวาน ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน

ที่มา ไทยพีบีเอส



ไอซ์ รักชนก ลั่นขอหยุดร่วมกิจกรรมพรรคก้าวไกล ผิดหวังมติไม่ขับ สส.ปูอัด

ไอซ์ รักชนก เผยผิดหวังมติไม่ขับ สส.ปูอัด พร้อมขอหยุดร่วมกิจกรรมพรรค จนกว่าผู้กระทำผิดจะออกมาขอโทษเหยื่ออย่างจริงใจ


วันนี้ (2 พ.ย. 66) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและสส.พรรคก้าวไกล มีมติขับ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล เพราะถือว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรง ส่วนกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ที่ประชุมออกเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ให้ขับพ้นสมาชิกพรรค จึงให้มีการรอคาดโทษไว้ก่อน เพื่อให้ยอมรับผิด และขอโทษจากการกระทำ

โดย น.ส.รักชนก ได้ระบุว่า ตัวไอซ์โหวตให้ขับออกทั้งสองกรณีค่ะ ไอซ์ชอบเรื่องที่ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ (ขออภัยที่เอ่ยนาม)ได้ยกตัวอย่างในที่ประชุม คือเรื่อง สส. ญี่ปุ่น ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมาแล้วไปอภิปรายในสภา พอมีคนทักท้วงเรื่องนี้ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสืบสวนสอบสวนหรือรอให้เรื่องเข้าสู่การพิจารณา สส. ท่านนั้นรู้อยู่แก่ใจตัวเองว่าผิด จึงรับผิดชอบด้วยการลาออก นี่คือมาตรฐานเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมของ สส. ท่านนั้น

เช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้ อดีต สส. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เมาแล้วขับ หลังถูกจับ ประกาศลาออกทันทีเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ไอซ์ขอนับถือใจพี่เต้อเลยจริงๆ ทั้งๆ สามารถใช้หลายๆวิธีที่จัดการเรื่องได้ แต่พี่ก็เลือกที่จะลาออก เพื่อยืดอกแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างมาตรฐานไว้สูงลิ่ว น่ายกย่องอย่างยิ่ง

ซึ่งในวันนี้น่าผิดหวัง ที่มาตรฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่ สส. ของเพื่อนสมาชิกที่กระทำผิดในกรณีอื่น ๆ ยังไม่สูงเท่าพี่เต้อ แม้มีการพูดคุยเพื่อชี้แจงรายละเอียด ก็ยังไม่สามารถคิดได้และที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคือยังไม่ยอมรับในความผิดของตนเลยด้วยซ้ำไป ประกาศกับสาธารณะชนได้หน้าตาเฉย

แต่ไอซ์ยังพออุ่นใจในอนาคตทิศทางของพรรคได้อยู่บ้าง เพราะกรรมการบริหารยังมีมติเอกฉันท์ ให้ขับออก อย่างน้อยทิศทางเรื่องนี้ต่อสังคมกรรมการบริหารพรรคก็ชัดเจน เป็นธรรมกับสังคม (ขอไม่ใช้คำว่าเป็นธรรมกับทุกฝ่ายนะ บางฝ่ายที่มาเรียกร้องความเป็นธรรม เอาอะไรมาเรียกร้องก่อน หน้าด้าน)

ไอซ์ดีใจจริงๆ ที่ได้รับรู้ได้ว่าสามารถไว้วางใจพี่ต๋อมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้อย่างเต็มที่ ทัศนคติเรื่องการคุกคามทางเพศของพี่ต๋อมชัดเจน มาตรฐานสูงมาก ไม่มีกลิ่นอายของสิ่งที่ชาวเน็ตเค้าเรียกว่าความ “ชายแทร่” อย่างน้อยอนาคตของพรรคในเรื่องแบบนี้ก็ยังไว้วางใจอะไรไว้กับกรรมการบริหารได้

ถึงแม้ผิดหวังในมติ แต่ไอซ์ก็พยายามอย่างถึงที่สุดเท่าที่คนๆ นึงจะสามารถพยายามได้ ที่จะเข้าใจ ว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเองและไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต้องรับผลร่วมกัน

ในที่ประชุมหารือ ได้มีข้อตกลงกันว่าในกรณีที่มีมติไม่ขับ จะต้องให้ผู้กระทำสำนึกผิด ขอโทษสังคม ขอโทษต่อเหยื่อและเยียวยาเหยื่อ ไอซ์ก็ขอตั้งตารอดู ว่าคำขอโทษจะออกมาจากใจจริงๆ หรือจะเป็นแค่การแสดงอีกฉาก ที่ทำเพื่อให้รอดตัวไป

ระหว่างที่รอผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและเหยื่อ (เรียกว่าแสดงความรับผิดชอบได้ไหมนะ)ไอซ์จะขอหยุดร่วมกิจกรรมกับพรรค หยุดร่วมกิจกรรมกับเพื่อนสมาชิกในพรรค กิจการในโควตาและขอลาป่วย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในหลักการ จนกว่าจะมีการแถลงรับผิดและขอโทษเหยื่อ อย่างจริงใจของผู้กระทำ

ด้วยรักและเคารพ พรรคใหญ่กว่าคนประชาชนใหญ่กว่าพรรค ด้วยความรักที่มีอย่างเต็มเปี่ยมต่ออุดมการณ์พรรคก้าวไกลด้วยความเคารพต่อประชาชนที่เลือกพวกเรามา เคารพมติกรรมาธิการ เคารพมติที่ประชุม เคารพความคิดเห็นของเพื่อน สส. อาจมีคนไม่พอใจในข้อความในโพสนี้ของเรา ต้องขอโทษจริงๆ แต่ขอพื้นที่เล็กๆตรงนี้เป็นรูระบายให้ใจเราทีเถอะ

ที่มา ข่าวสด, FB Rukchanok Srinork


วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นายกฯ ส่งสัญญาณกลุ่มที่ไม่เดือดร้อนส่อแววชวด 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ต่อคำถามสื่อมวลชนกับโครงการ " ดิจิทัลวอลเล็ต" นายกรัฐมนตรีแจงว่ามีความเป็นไปได้ ที่การแจกเงินจะทำไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง มีบางส่วนที่อาจจะไม่ได้รับอานิสงส์นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับที่ธปท.ต้องการ ส่วนประเด็นถูกร้องเรียนไปยังองค์กรอิสระ เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ


นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ได้เปิดเผยถึงนโยบายเงินในโครงการ " ดิจิทัลวอลเล็ต" ว่า มีความเป็นไปได้ที่โครงการนี้ จะมุ่งไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง  ซึ่งเท่ากับว่าบางภาคส่วนที่ไม่เดือดร้อน  อาจจะไม่ได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้ เป็นการปรับเงื่อนไข เรื่องของการปรับแนวทาง สอดคล้องกับท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. )  และที่ต้องหาความชัดเจนคือนิยามคำว่า "คนรวย"  ก็ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน

"กำลังหาคำจำกัดความที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายว่าคนรวยคืออะไร พร้อมน้อมรับคำแนะนำจากธนาคารแห่งประเทศไทย  ที่ว่าควรที่จะเจาะจงมากขึ้น บางภาคส่วนที่ไม่เดือดร้อนอาจไม่ต้องรับซึ่งรับฟังอยู่ ส่วนข้อเสนอให้ จ่ายเงินเป็น 3 งวด แทนงวดเดียว แน่นอนว่า คงจ่ายครั้งเดียว เพราะอยากให้กระตุ้นเศรษฐกิจทีเดียว ด้วยเม็ดเงินที่ใหญ่จะได้ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน" 


นายกรัฐมนตรี  กล่าวด้วยว่า  การที่มีหลายฝ่ายเดินหน้าร้องเรียนโครงการ  "ดิจิทัลวอลเล็ต"  กับองค์กรอิสระ   ก็เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจง เพราะองค์กรอิสระก็มีหน้าที่ตรวจสอบ  ส่วนรัฐบาลก็ มีหน้าที่ชี้แจง   " 10 ปี ที่ผ่านมาจีดีพีของประเทศไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8%   หนี้ครัวเรือนขึ้นจาก 76% เป็น 90% ซึ่งสูงสุดติดท็อปเท็นของโลก เพราะฉะนั้นประเทศไทยจึงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ   เรื่องนี้ก็ต้องเดินสายชี้แจงและรับฟังข้อท้วงติง  เมื่อมีคนไปร้องก็ต้องชี้แจง   ส่วนกระแสข่าว อาจจะเลื่อนการแจกเงินจาก 1 ก.พ.67 ออกไปนั้น กำลังดูอยู่  แต่ะพยายามทำให้เร็วที่สุด ส่วนเม็ดเงินโครงการ ขอให้มีการประชุมก่อน เพราะคำถามดมีเข้ามามาก หากพูดไปก็จะเกิดความสับสน"  นายเศรษฐาระบุ

ที่มา คมชัดลึก



วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ชูวิทย์ เดินหน้าแฉต่อ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม' มีเงินทอน 30,000 ล้านได้ถูกโอนไปสิงคโปร์แล้ว

กลายเป็นมหากาพย์การแฉไปแล้ว เมื่อชูวิทย์ออกโรงแฉ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เตรียมให้เป็นทุนเตรียมเลือกตั้ง ตั้งข้อสังเกตฮั้วประมูลตั้งแต่ต้น เงินทอน 30,000 ล้าน ถูกโอนไปสิงคโปร์


กรณีการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ที่ดูเหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะที่ผ่านมามีการเปิดประกวดราคาหาเอกชนเข้ามาดำเนินมากถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นผู้ล้มประมูลเอง หลังจากนั้นเปิดประกวดราคาครั้งที่ 2 โดยมีการกำหนด TOR ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น 

หลายฝ่ายจับตามองขั้นตอนการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ไม่เว้นแม้แต่ นายชูวิศย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉซ้ำ ถึงขั้นตอนการประกวดราคา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเกิดการทุจริตในกระบวนการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มครั้งนี้หรือไม่ 

โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมายังบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับนนำป้ายขนาดใหญ่ซึ่งแสดงให้เห็นข้อมูลในเปิดประกวดราคาก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"

นายชูวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการประกวดจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ของ รฟม. โดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลนั้น มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายจุดโดยเฉพาะในขั้นตอนการประกวดราคา การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ร่างขอบเขตการทำงาน (TOR) ภายหลังจากที่มีการเปิดซองราคาไปแล้ว

โดยมีการกำหนดคะแนนด้านเทคนิคให้สูงขึ้น จนนำไปสู่การฟ้องร้องศาลปกครอง ต่อเนื่องไปจนถึงการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวเกิดการฮั้วกับเอกชน เพื่อที่จะรับเงินทอนและนำเงินไปเป็นทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ 

ทั้งนี้นายชูวิทย์ ได้แบ่งการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ครั้งนี้ออกเป็น 5 สถานี ได้แก่ 

-สถานีโกง  การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่เปิดขายซองประกวดราคาไปแล้ว โดยรูปแบบเดิมเป็นการให้คะแนนค่าก่อสร้าง และเงินตอบแทนที่รฟม.จะต้องคืนให้แก่เอกชน 

-สถานีทุจริต  มีการร้องศาลปกครอง โดยในชั้นต้นไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์แต่ในชั้นสูงสุดที่ประชุมใหญ่มีมติ 27:23 ให้สามารถเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ 

-สถานีฮั้ว  ในกระบวนกำหนด TOR รอบใหม่หลังจากที่การประกวดราคาครั้งแรกถูกล้มไปนั้นมีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บางบริษัทเข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว

-สถานีเงินทอน  พบว่า 30,000 ล้านบาทเข้ากระเป๋าใคร โดยพบว่ามีการโอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์ผ่านธนาคารเอกชนระหว่างประเทศ 

-สถานีปลิว เปิดประมูลรอบสองกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ต้องเคยเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปาทานกับรัฐบาลเท่านั้น ทำให้เหลือบริษัทเดียว 

"เกิดการล็อกสเปกแบบน่าเกลียด ผมโทษใครไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลผมก็โทษไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็ต้องการลงสมัครพรรคการเมืองเพื่อหวนคืนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ยกตัวเองโครงการใหญ่ที่เขาเอาเงินพวกเราไป เงินไป 70,000 ล้านแล้วมีเงินเข้าไปจ่ายค่าคอม 30,000 ล้าน โครงการรถไฟฟ้าสายส้มเป็นตัวอย่างโครงการรับเพียงตัวอย่างเดียว แสดงให้เห็นว่าระบบการทำงานพัง ' นายชูวิทย์กล่าว

ที่มา คมชัดลึก ออนไลน์

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

แร็พเปอร์-เน็ตไอดอลดัง ร้องเพลงโปรโมตมาเก๊า 888 ถูกคุมตัวค้นห้องเจอยาเสพติด

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้น 3 จุดใน 2 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. และสกลนครคุมตัวแร็พเปอร์-เน็ตไอดอลดัง ร้องเพลงโปรโมตมาเก๊า 888 เบื้องต้นค้นห้องเจอยาเสพติด 


เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (21 ก.พ.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พล.ต.ต. ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เปิดปฏิบัติการมาเก๊า888 Ep-6 ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุดใน 2 จังหวัด ประกอบไปด้วย กทม. และสกลนคร เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงเครือข่ายพนันออนไลน์มาเก๊า888

โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจุดแรกที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านพหลโยธิน พบมีผู้อาศัย 3 คน หนึ่งในนั้นมีน.ส.ธันยกานต์ โรจิณ หรือเมย์ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ และเน็ตไอดอลที่อยู่ในโฆษณาเว็บมาเก๊า 888 จากการตรวจค้นพบยาเคตามีน 5 กรัม ซึ่งเป็นของนายพีรวัส โรจิณ น้องชายของน.ส.เมย์ และพบน.ส.พลอย อยู่ในห้องพักด้วย

จากการสอบถามเบื้องต้นได้ให้การว่า เมื่อราวปี 2562 มีคนชื่อ “บิ๊ก” ติดต่อมาว่าจ้างเ พื่อให้โปรโมตเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบสวนที่บช.สอท. ในส่วนของยาเสพติดที่พบ นายพีรวัสให้การว่าซื้อมาในราคา 500 บาท จากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดี

นอกจากนี้ระหว่างการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบรถลัมโบร์กีนีจอดอยู่ที่อาคารจอดรถภายในคอนโดดังกล่าว เมื่อตรวจสอบพบสวมทะเบียนเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเชิญตัวเจ้าของรถมาทำการตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายพนันออนไลน์หรือไม่

จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเข้าตรวจค้นบ้านพัก ซ.ประชาอุทิศ33 แยก10 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดยอาศัยอำนาจตามหมายค้นของศาลอาญาที่ 201/2566 ลงวันที่ 20 ก.พ.66 ก่อนเชิญตัวน.ส.มิรา ดุรงคชยานุรักษ์ อายุ 32 ปี มาให้ปากคำ พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบ

จุดที่ 3 ที่จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านพัก ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของนายอนุวัฒน์ คำยา หรือเกียร์ แร็พเปอร์หนุ่มที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ AKA “MC KING” จากการตรวจค้นพบนายอนุวัฒน์อยู่ในบ้านดังกล่าว จากการสอบถามเบื้องต้นให้การว่า เป็นผู้แต่งและร้องเพลงประกอบโฆษณาของเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าวจริง จึงนำตัวมาสอบถามเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเครือข่ายพนันออนไลน์มาเก๊า 888

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลหาความเชื่อมโยงในคดีของมาเก๊า 888 โดยการตรวจค้นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้น 3 จุด ในกรุงเทพมหานครและสกลนคร ซึ่งเป็นแร็พเปอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่โฆษณาเว็บพนันออนไลน์ โดยจะทำการสอบปากคำและ แถลงข้อเท็จจริงต่อไป

ทีมา ข่าวสด


วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565

สาวแชร์เรื่องราว "ชีวิตคนเราไม่แน่นอน" กับมะเร็งปอดระยะที่สี่

เจ้าของเพจ BorTor Baitoey แชร์ประสบการณ์ชีวิตคนเราไม่แน่นอน เมื่อพบว่าเป็น มะเร็งปอดระยะที่สี่ ในอายุ 24 เรื่องเผยไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง


มะเร็งเป็นโรคร้ายที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ด้วยสาเหตุต่างๆ นาๆ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง เธอจึงได้เล่าเรื่องราวผ่าน เพจเฟซบุ๊ก ชื่อ BorTor Baitoey ถึงการเป็น มะเร็งปอดระยะที่สี่ ในวันที่เธออายุเพียง 24 ปีว่า

“ มีคนเคยบอกว่า “ชีวิตคนเราไม่แน่นอน” แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง

อายุ 24 ปี กับโรคยอดฮิตในหนังเศร้า “มะเร็งปอดระยะที่สี่” ที่ทุกคนเรียกว่า “ระยะสุดท้าย” ฝันอยากมีชีวิตแบบนางเอกซีรี่ย์ซักครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะได้พลอตนี้ 55555

อาการเริ่มตั้งแต่ปลายปี 64 เริ่มไอ เป็นๆ หายๆ ไม่ได้ไอตลอดเวลา ประมาณ 2 เดือน ตรงกับช่วง pm2.5 คิดว่าเป็นภูมิแพ้ จึงไปหาหมอแผนก หู คอ จมูก ที่ศิริราช ก็ทำการตรวจ x-ray ปอด ส่องกล้องดูทางเดินหายใจ ก็ไม่พบความผิดปกติ จบด้วยการได้ยาแก้ไอต่างๆมากิน จากนั้นก็ไปตามนัดตลอด x-ray ตลอด แต่ก็เริ่มไอมากขึ้น ไอตลอด ประมาณเดือน เมษายน ก็เป็นโควิด มีอาการไอ(ที่ไออยู่แล้ว) จาม (มีอาการนี้เลยตรวจโควิด) แค่นั้น ไม่ได้กินฟาวิ เพราะอาการไม่หนักมาก

เดือน พฤษภา เริ่มปวดสะโพกด้านขวา (คิดว่าคงนอนผิดท่า ซักพักน่าจะหายเอง) ประมาณ 2 wk ยังไม่หาย เลยไปหาหมอกระดูก ตอนนั้นหมอบอกกล้ามเนื้ออักเสบ ได้ยาแก้อักเสบมา แล้วก็ไปกายภาพ

เดือน มิถุนายน ตื่นเช้ามาไอ รู้สึกเหมือนมีเสมหะ (ปกติไอแห้งๆมาตลอด) สรุป ไอเป็นเลือด ตอนนั้นตกใจมาก  เลยปรึกษาพี่ที่รู้จัก ได้มาหาหมอที่หูคอจมูก หมอส่องกล้อง x-ray ปอด เหมือนเดิม ไม่พบความผิดปกติ หมอคิดว่า ไอจากเส้นเลือดฝอยบริเวณเพดานปากแตก จึงนัดอีกที 3 เดือน

(ระหว่างนี้ก็ไอตลอด ขาก็เดินกะเผลก ไปกายภาพบำบัดอยู่ และไปตรวจตามนัดของหู คอ จมูกเสมอ!!)

เดือนกรกฎาคม จุดเปลี่ยนของชีวิต พอพ้นวันเกิดวัย 24 ปี ทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก

อาการไอยังคงเหมือนเดิม เริ่มหนักขึ้น เริ่มเหนื่อยหอบ เดินได้แป๊บเดียวก็ต้องหยุดพัก ค่อยเดินต่อ น้ำหนักลด อาทิตย์ละ 2 kg ได้ คนรอบข้างเริ่มทักว่าผอมลงเยอะมาก ให้ไปตรวจได้พี่ที่รู้จัก(คนดีคนเดิม)นัดคิวตรวจอายุรศาสตร์ให้ ไปตรวจอายุรศาสตร์ครั้งแรก เจาะเลือด x-ray แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ

ผล x-ray ก็ยังคงปกติ แต่ผลเลือดค่าตับไม่ค่อยดี แต่หมอไม่ว่าไง

ยังคงมีอาการไออยู่ หมอจึงพาไปให้หมอเฉพาะทางด้านปอดดู

หมอปอด : ส่งตรวจ CT Chest ผลเจอก้อนที่ปอด(หลายก้อน ใหญ่สุด 4cm) และที่ตับ 2 ก้อน จึงนัดตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ผลก็คือเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย ปอด ตับ ต่อมน้ำเหลือง และกระดูก (ตอนรู้นี้อ๋อเลย นี้เองสาเหตุก็การปวดขา ) หลังจากนอนโรงพยาบาลเกือบเดือน และอยู่ห้อง RCU (คล้ายๆ icu แต่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ) เพราะตอนนั้นปอดเหลือข้างเดียว ก็นอนให้ยาฆ่าเชื้อ ใช้เครื่องช่วยหายใจ (high flow) อยู่ตลอด ทรมานมาก ตอนนี้ก็ได้รับการรักษาเป็นการฉายแสง 10 ครั้ง (ครบไปแล้ว) และกินยาพุ่งเป้า (ขอบคุณอาจารย์จารุวรรณ เป็นอย่างสูง เพราะค่ายาแพงมาก ตกเดือนละ 40,000 แต่ได้อาจารย์เอาทุนโครงการมาช่วย กราบสามทีเลย) คิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ เป็น second hand smoker ขอให้ทุกคนที่สูบบุหรี่อยู่ ช่วยมีความรับผิดชอบกับคนรอบข้างนิดนึง

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้…โพสยาวสุดในชีวิต อยากเล่าให้ฟัง เผื่อใครมีอาการอะไร ให้รีบๆไปตรวจ

ตรวจให้ถูกหมอ ถูกโรค รีบรักษาจะได้ไม่เป็นอะไรเยอะ มีชีวิตอยู่ไปนานๆ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นห่วง คอยมาเยี่ยม ส่งข้าวส่งน้ำ ส่งกำลังใจ พูดละจาร้อง 55555

ขอบคุณมากๆ นะ มีแรงสู้ชีวิตต่อไป….แต่ขอร้องชีวิตอย่าสู้กลับเยอะ

ทุกคนไม่ต้องตกใจรูปนะ ตอนนี้กลับมาทำงาน ใช้ชีวิต(แบบพยายาม)ปกติแล้ว แต่ก็กินยาอยู่ตลอด”


ที่มา อีจัน, BorTor Baitoey


วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

หมอลืม "ผ้าก๊อซ" ในช่องคลอด ผอ.โรงพยาบาล ยืดอกรับผิดพร้อมเยียวยา

จากกรณีญาติโวยหมอลืม "ผ้าก๊อซ" ในช่องคลอดสาววัย 20 ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น ออกมายืดอกรับผิด พร้อมเยียวยาตามมาตรา 41


วันนี้(29 พ.ย.65) ผู้สื่อได้ข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ying Ying ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในกลุ่ม "ขอนแก่น ร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่" พร้อมแคปชั่นระบุว่า "ช่วยแชร์ไปเยอะๆ โรงพยาบาลลืมผ้าก๊อซไว้ในช่องคลอด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 น้องสาวได้ไปคลอดที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดขอนแก่น ปรากฏว่าผ่านมาเกือบสองเดือนน้องสาวมีอาการปวดท้องรุนแรงและเป็นไข้ เวลาเข้าห้องน้ำก็จะมีเหมือนก้อนอะไรบางอย่างหลุดออกมาตรงปากช่องคลอด พอจับดูรู้สึกว่ามันเป็นก้อนแข็งๆ ผิดปกติ จึงให้แฟนเอาไปส่องดูให้ ปรากฏว่าด้านในที่เห็นนั้นเป็นผ้าก๊อซที่ทางโรงพยาบาลลืมเอาไว้

ตอนนี้ได้กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้โรงพยาบาลเอาผ้าก๊อซก้อนนั้นออกให้ และหลังจากที่เอาออกมีผู้ใหญ่มาคุยและบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบในเชิงว่าเอาผ้าก๊อซปิดเลือดไว้เพื่อช่วยชีวิต ฝากช่วยกันแชร์เยอะๆ ให้ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วยค่ะ

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวรุ่งนภาพร โคตรแปร อายุ 32 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก เล่าว่า น้องสาวตน อายุ 20 ปี มีกำหนดคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 วัน ก็กลับบ้าน อยู่บ้านเรื่อยมา กระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาน้องสาวมีอาการปวดท้อง จึงเข้าห้องน้ำ พบว่ามีก้อนแข็งๆในช่องคลอด ถ่ายรูปมาดูถึงได้รู้ว่ามีผ้าก๊อซในช่องคลอด จึงรีบมาที่โรงพยาบาลให้แพทย์เอาผ้าก๊อซออกให้

นางสาวรุ่งนภาพร เล่าต่อว่า แต่เจ้าหน้าที่กลับอ้างว่า ผ้าก๊อซที่เห็นนั้นเพื่อช่วยซับเลือด เป็นการช่วยเหลือคนป่วยไม่ให้เสียเลือดมาก ซึ่งเป็นการช่วยชีวิต แต่ฟังแล้วไม่ได้ช่วยให้สบายใจ เพราะแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ควรมีความรอบคอบ หากเกิดการติดเชื้อ หรือมีผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพของผู้ป่วยจะทำอย่างไร อยากให้มีความรับผิดชอบมากกว่าคำพูดที่พูดออกมา

จากนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ทราบว่า ภายหลังทราบเรื่องจากโซเชียล ก็รีบตรวจสอบทันที พบว่าขณะนี้ผู้ป่วยเข้ามาพักรักษาตัวใน รพ.ขอนแก่น ที่ห้องพิเศษ อาคาร 14 ตึกราชนครินทร์ โดยแพทย์ได้เอาผ้าก็อซออกให้เรียบร้อย ให้ยาฆ่าเชื้อ รักษาให้จนแข็งแรงจึงจะให้กลับบ้าน

"อาการโดยรวมปลอดภัยดี ไม่มีอาการแทรกซ้อน ซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ ทราบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ในฐานะ ผอ. รพ.ขอนแก่น ขอยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอโทษคนป่วยและญาติพี่น้องด้วย จะนำเอาความผิดพลาดไปปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ" นายแพทย์เกรียงศักดิ์ กล่าว

นายแพทย์เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ ทางโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งเฉย โดยได้ประสานไปที่ สปสช. เพื่อทำเรื่องเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา 41 แล้ว

ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ โรงพยาบาลขอนแก่น ได้โพสต์หนังสือชี้แจง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และว่าโรงพยาบาลขอนแก่นเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โรงพยาบาลยินดีปรับปรุงการให้บริการ การดูแลผู้ป่วย และพร้อมให้การดูแลเยียวยาช่วยเหลือ โดยยื่นคำร้องตามมาตรา 41 (ม.41) สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า กรณีได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นขณะรับการรักษาในโรงพยาบาล ตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งการประชุมพิจารณาของคณะกรรมการฯ จะมีขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2565

โดยหลังจากนี้ จะมีการทบทวนระบบการให้บริการ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

ที่มา ไทยรัฐ, เฟซบุ๊ก โรงพยาบาลขอนแก่น

อัพเดทจุดฉีดวัคซีนโควิดฟรี กรุงเทพ - นนทบรี เดือนธันวาคม 2565

เปิดบริการจุดฉีดวัคซีนโควิดฟรีเดือนธันวาคม 2565 โดยเปิดวอล์คอิน-ลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ เข็ม 1, 2, 3, 4 และ 5 ใน กทม. และ จ.นนทบุรี รายละเอียดได้ที่นี่


"ฐานเศรษฐกิจ" ชวนผู้ที่สนใจต้องการฉีดวัคซีนโควิดฟรี เข็ม 1, 2, 3, 4 และ 5 ในเดือนธันวาคม 2565 โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยงรวมถึงผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดมาระยะหนึ่งแล้วเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดฟรีตามจุดให้บริการซึ่งรวบมาไว้ให้แล้วที่นี่  

1.โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 

เปิด walk in ให้บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับประชาชนทั่วไป เข็ม 1, 2, 3, 4 และ 5 ในเดือนธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนใหม่ จำนวน 300 คน 

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 

เริ่มแจกบัตรคิว เวลา 11.30 น.

ให้บริการฉีดวัคซีนตั้งแต่เวลา 12.00-14.00 น.

เงื่อนไข 

อายุ 18 ขึ้นไป หรือ อายุ 12-18 ปีต้องมีผู้ปกครองมาด้วย

หากต้องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เว้นระยะห่างจากเข็ม 2  อย่างน้อย 90 วัน 

หากต้องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 หรือ เข็มที่ 5 เว้นระยะห่างจากเข็มก่อนหน้าอย่างน้อย 120 วัน 

แสดงบัตรประชาชนตัวจริง หรือ หลักฐานการฉีดวัคซีนต่อเจ้าหน้าที่ 

งดให้บริการฉีดวัคซีนเข็ม 1 เด็ก อายุ 5-12 ปี

2.สถาบันโรคผิวหนังอนุสาวรีย์ 

ขยายวันให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวันธรรมดาเพิ่มโดยสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนในวันทำการวันจันทร์-ศุกร์ (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) และวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค. 65 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 15.00 น. จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าก่อนวันฉีด 1 วัน และผู้ที่ไม่สะดวกลงทะเบียนนัดหมายสามารถ walk in เข้ารับการได้ในวัน และเวลาที่กำหนดไว้ 

ชนิดวัคซีนที่ให้บริการ

1.อายุ 12 ปีขึ้นไป

ให้บริการฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์ฝาสีม่วง" โดยเลือกรูปแบบการฉีดแบบเต็มโด๊ส หรือ แบบครึ่งโด๊ส โดยฉีดเข้าชั้นผิวหนัง

เชิญประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุ หรือ กลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง หากรับวัคซีนเข็มล่าสุด นานเกิน 4 เดือนขึ้นไป ให้เข้ามารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ จะสามารถป้องกัน การป่วยหนักและลดโอกาสเสียชีวิตได้

2.อายุ 5-11 ปี

ให้บริการฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์ฝาสีส้ม" รูปแบบการฉีดเต็มโด๊ส

คนไทย / ต่างชาติ / ต่างด้าว

ทุกเข็ม ตั้งแต่เข็มที่ 1 ขึ้นไป (เข็มกระตุ้น ควรเว้นระยะห่างจากเข็มก่อนหน้าอย่างน้อย 120 วัน)

กรณีต้องการลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าก่อนวันฉีด 1 วัน ได้ที่นี่ ลงทะเบียนฉีดวัคซีน จุดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สถาบันโรคผิวหนัง 

สถานที่ให้บริการ 

สถาบันโรคผิวหนัง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชั้น 20 อาคารสถาบันโรคผิวหนัง เลขที่ 456 ถ.ราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. 

คลิกดูแผนที่ : แผนที่สถาบันโรคผิวหนัง

3.โรงพยาบาลกลาง สำนักการแพทย์ กทม.

เปิดให้บริการ walk in ฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ ดังนี้

1.บุคคลทั่วไปและเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป

ทุกวันทำการจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00-15.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ (จนกว่าวัคซีนจะหมด) 

2.เด็กอายุ 5-11 ปี

ทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30-12.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยมากรอกเอกสารใบยินยอมที่หน้าจุดคัดกรอง ชั้น 1 และนำเอกสารไปยื่นที่จุด ลงทะเบียนวัคซีน ข้างเวชระเบียน หน้าหน่วยแพทย์กู้ชีวิต (EMS)

สิ่งที่ต้องเตรียมมาในวันที่ฉีดวัคซีน

บัตรประชาชน บัตรต่างด้านสีชมพู หรือใบอนุญาตทำงาน

ปากกาส่วนตัว

หลักฐานการฉีดวัคซีน (เปิดในแอพหมอพร้อม)

4. ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั่ว กทม.ทั้ง 69 แห่ง

กทม.ให้บริการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจโดยเปิดให้บริการทั้งแบบนัดหมายล่วงหน้าโดยสแกน QR Code จองคิวผ่าน QueQ และรับ Walk in โดยให้บริการ "ฉีดทุกวันศุกร์ ฉีดทุกสูตร และฉีดทุกเข็ม" ติดต่อศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน โทร 02-2032883

วิธีการจองคิวผ่านแอป QueQ

โหลดแอปได้ทั้งระบบ iOS และ Andriod

เลือก "ศูนย์ฉีดวัคซีน กทม."

ค้นหา ศูนย์ฉีดวัคซีนที่ต้องการ, กรอกเลขข้อมูล, เลือกวันที่-เวลา และ กดยืนยัน ให้เก็บบัตรคิว นำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันนัด

เอกสารประกอบ

บัตรประจำตัวประชาชน / Passport

หลักฐานรับรองการได้รับวัคซีนโควิด-19 (สำหรับผู้เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว)

5.โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 

เปิดลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกเข็มในเดือนธันวาคม 2565 เป็นวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไป ตั้งแต่เวลา 9.00-14.00 น. โดยสแกนที่ภาพ QR Code ด้านล่างเพื่อเลือกวันฉีดวัคซีนได้ ดังนี้ 

วันที่ 7 ธันวาคม 2565 (เต็มแล้ว) 

วันที่ 14 ธันวาคม 2565

วันที่ 21 ธันวาคม 2565

วันที่ 28 ธันวาคม 2565

เงื่อนไขผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด

อายุระหว่าง 6 เดือนถึง 4 ปี 11 เดือน 29 วัน (ไม่เกิน 5 ปี) 

จำกัดจำนวนวันละ 80 คน

สถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน 

ห้องตรวจโรคกุมารเวช ชั้น 1 อาคารพัชรกิติยาภา รพ.พระมงกุฎเกล้า 

 6.ศูนย์ฉีดวัคซีนกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 

เปิด walk in ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกเข็ม เป็นวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไป ตั้งแต่เวลา 9.00-14.00 น. ดังนี้ 

เดือนพฤศจิกายน 2565

วันพุธที่ 30 พ.ย.65

เดือนธันวาคม 2565 

วันอังคารที่ 6 ธ.ค.65

วันอังคารที่ 13 ธ.ค.65

วันอังคารที่ 20 ธ.ค.65 

วันอังคารที่ 27 ธ.ค.65

สถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน : 

ศูนย์ฉีดวัคซีนกระทรวงสาธารณสุข ณ โถงชั้น 1 อาคาร 3 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 

ที่มา www.thansettakij.com

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2565

เช็คด่วน! บัตรคนจนรอบใหม่ใครมีสิทธิบ้าง? รีบลงทะเบียนเลย

วิธีลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 “บัตรคนจน” รอบใหม่ ที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค.65 ใครมีสิทธิบ้าง? เช็คสิทธิแล้วรีบลงทะเบียนเลย


เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 65 ที่ผ่านมานี้ กระทรวงการคลัง ได้เปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 “บัตรคนจน” โดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 5 ก.ย. 65 - 19 ต.ค.65 สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. - 11 พ.ย. 65 โดยผลการลงทะเบียนจะประกาศทุกวันศุกร์

สำหรับการลงทะเบียน มี 2 ช่องทาง

ช่องทางแรก ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มี 6 ขั้นตอนง่ายๆ

1.เข้าเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th

2.กรอกข้อมูลบัตรประชาชน และเลข Laser หลังบัตรบัตรประชาชน

3.กรอกข้อมูล 4 ส่วน

-ข้อมูลส่วนตัวของผู้ลงทะเบียน

-การประกอบอาชีพ

-รายได้และหนี้สินของผู้ลงทะเบียน

-ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ

4.ผู้ลงทะเบียนที่จดทะเบียนสมรส

หรือมีบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

เลือกหน่วยรับลงทะเบียนที่จะไปยื่นเอกสาร

5. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกดยืนยัน

6.ไม่มีครอบครัว รอผลการตรวจสอบ

สถานะบุคคล

-มีครอบครัว ไปแสดงตัวคนและยื่นเอกสารยังหน่วยรับลงทะเบียนที่เลือกไว้


ช่องทางที่ 2. ลงทะเบียนผ่านหน่วยรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1.ธนาคารกรุงไทย

2.ธนาคารออมสิน

3.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

4.สำนักงานคลังจังหวัด (ไม่รวมกทม.)

5.สำนักงานเขต กทม.

6.ที่ว่าการอำเภอ

7.สำนักงานเมืองพัทยา

สำหรับผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือ ผู้พิการ ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่ได้ก็สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ซึ่งหนังสือมอบอำนาจนั้นสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย

ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 รอบใหม่ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1.สัญชาติไทย

2.อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

3.ไม่เป็น ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขังบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือนผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง ส.ส. , ส.ว.

4.รายได้ผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน รอบใหม่ 2565

-รายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท บุคคล

-ครอบครัวรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท

-ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ

-ทรัพย์สินทางการเงินต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาทต่อบุคคล

-ครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท

5.ไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์

-วงเงินกู้บ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

-วงเงินกู้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท

-ต้องไม่มีบัตรเครดิต

-ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ มีกรรมสิทธิ์ ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้

ผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว

-ห้องชุดขนาด ไม่เกิน 35 ตารางเมตร

-ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่

-ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

-บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตารางเมตร

-ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่

-ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่จะต้องมีขนาดขึ้น

ที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ และ ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่

ผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว

-ห้องชุดขนาดไม่เกิน 35 ตารางเมตร ต่อคน

-กรณีเป็นเจ้าของร่วมกันไม่เกิน 35 ตารางเมตร

-ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

-ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)

-บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และตึกแถว

-กรณีเป็นจ้าของแยกจากกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.ต่อคน

-กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.

-ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่ หรือใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

-จะต้องมีขนาดพื้นที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตรไม่เกิน 20 ไร่

-ไม่ใช้เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่

โดยมีเวลาให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2565 ถึง 19 ต.ค.65 นี้เท่านั้น


ที่มา www.ejan.co


วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565

เตือนผู้ร่วมโครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" รายเก่า-รายใหม่ ระวังถูกตัดสิทธิ

หลังการเปิดให้ลงทะเบียน ยืนยันสิทธิผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" หรือ www.คนละครึ่ง.com กับประชาชนกว่า 26.5 ล้านคน ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดี


ล่าสุดขออัปเดตโครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" ผู้ร่วมโครงการรายเก่า-รายใหม่ ที่ได้รับเงิน 800 บาท โดยโอนเข้าแอปฯ เป๋าตัง ในวันที่ 1 กันยายน 2565 (ทั้งรายเก่า และรายใหม่) เพื่อให้เริ่มสิทธิรัฐช่วยจ่าย 50% ไม่เกินวันละ 150 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ 1 ก.ย. - 31 ต.ค.2565

สำหรับ "คนละครึ่งเฟส 5" รายใหม่ ที่ลงทะเบียนผ่านแอป "เป๋าตัง" หรือ www.คนละครึ่ง.com เรียบร้อย จะต้องดำเนินการยืนยันตัวตนก่อนการใช้สิทธิ โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

1.ยืนยันตัวตนผ่านแอป "เป๋าตัง"

เลือก "สมัครใช้และบริการ"

ยินยอม การจัดการข้อมูล ยืนยันตัวตน

เตรียมถ่ายบัตรประชาชน

ถ่ายบัตรประชาชน

กรอกข้อมูลบัตรประชาชน

กรอกข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม

กรอกข้อมูล CDD

เลือกวิธีการยืนยันตัวตนด้วยแอป Krungthai NEXT หรือสแกนใบหน้า


2.ยืนยันตัวตนด้วย Krungthai NEXT

เข้าสู่ Krungthai NEXT

ระบุ PIN Krungthai NEXT

กดปุ่มดำเนินการบนแอปเป๋าตัง

กรอกรหัส OTP (OTP จะถูกส่งไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับ Krungthai NEXT)

ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล

เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร

หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก

หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ


3.ยืนยันตัวตนด้วยการ สแกนใบหน้า

ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า

ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล

เมื่อสมัครสำเร็จ การ์ดวอลเล็ตจะค้างหน้า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" เลือก "ตรวจสอบสถานะล่าสุด" เพื่อดูผลการสมัคร

หน้าจอเมื่อสมัคร G-Wallet สำเร็จกดไปที่หน้าหลัก

หน้าจอใช้สิทธิโครงการภาครัฐ

ส่วน รายเก่า ที่เคยร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 สามารถตรวจสอบ ยืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 5 ผ่าน คนละครึ่ง.com ตามขั้นตอนดังนี้ 

เข้าสู่เว็บไซต์ 

กดปุ่ม "ลงทะเบียนรับสิทธิ" เลือก "สำหรับผู้เคยใช้สิทธิคนละครึ่งเฟส 4"

กดรับทราบ หลักเกณฑ์เงื่อนไขและยินยอมโครงการฯ 

กรอกรายละเอียดต่างๆและกดปุ่ม ยืนยัน 

ตรวจสอบข้อมูลและกดปุ่ม ยืนยัน 

ระบบแสดงผลตรวจสอบสิทธิ

ข้อควรระวัง! ถูกตัดสิทธิ

สำหรับรายเก่า หรือ ผู้ที่เคยร่วมโครงการฯ ต้องใช้สิทธิใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. จึงจะสามารถใช้จ่ายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งหากไม่ใช้สิทธิตามระยะเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิทันที

รายใหม่ ผู้ที่ไม่เคยร่วมโครงการฯ ต้องใช้สิทธิใช้จ่ายครั้งแรก ต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 14 วันหลังจากที่ได้รับ SMS ยืนยันเข้าร่วมโครงการหลังวันที่ 1 กันยายน 2565  จึงจะสามารถใช้จ่ายได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งหากไม่ใช้สิทธิตามระยะเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิทันทีเช่นกัน

ที่มา กรุงเทพธุระกิจคนละครึ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2565

ปิดฉากเส้นทางการเมือง "ปารีณา" ศาลพิพากษาห้ามดำรงตำแหน่งการเมืองตลอดชีวิต

"ปารีณา ไกรคุปต์" ให้สัมภาษณ์เสียงสั่น หลังศาลฎีกาพิพากษา ผิดจริยธรรมร้ายแรงจากกรณีรุกป่าราชบุรี สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี และห้ามดำรงตำแหน่งการเมืองตลอดชีวิต




วันนี้ (7 เม.ย. 65) ศาลฎีกา นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี อันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม

โดยศาลฎีกามีคำพิพากษา น.ส.ปารีณา มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง และ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 64 รวมทั้งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี เเละไม่มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง เเละดำรงตำเเหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก คณะกรรมการป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดว่า น.ส.ปารีณา ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นส.ส. กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม และกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมโดยให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย

ทั้งนี้ตาม พระราชบัญัติประกอบรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ระบุว่า ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าในกรณีใด ผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือ สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดํารงตําแหน่งทางการเมืองใดๆตลอดชีวิต

ล่าสุด หลังจากที่ศาลพิพากษา ปารีณา ไกรคุปต์ ปรากฏว่าในไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้มี ส.ส.เข้ามาให้กำลังใจ น.ส.ปารีณา จนกระทั่งเวลา 10.21 น. น.ส.ปารีณาได้ออกจากไลน์ของกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อ น.ส.ปารีณา ตั้งแต่รู้ผลมติศาลชี้ออกมาก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งเวลา 13.45 น. น.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วยเสียงสั่นเครือ ว่า “ตอนนี้ยังไม่เจอใคร ยังไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ ตัวชา กำลังทำใจอย่างเดียว ไม่ต้องทำพื้นที่แล้ว เพราะเหมือนคนตกงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสภาให้ไป ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่เหลืออะไรแล้ว”

ที่มา โพสต์ทูเดย์, แนวหน้า



วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2565

เพจ"ANTI SOTUS" แฉ ‘น้องเปรม’ ไม่ใช่แค่ห้า แต่ถูกรุ่นพี่โหด ต่อยอกทีละคน

เกิดเหตุรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับร้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย


จากกรณี น้องเปรม นักศึกษา ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากการที่รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้อง นอกจากนี้ผลตรวจชันสูตรศพน้องเปรม ยังพบด้วยว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายดับอีกด้วย ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยฯ ออกหนังสือชี้แจงยืนยันว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการจัดขึ้นกันเองของรุ่นพี่นศ.ปวส.ปี 1 และ ปี 2 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับน้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 มี.ค. 2565) นายเอกชัย ชนภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิตรู้สึกเสียใจจนเป็นลมล้มพับ เบื้องต้นทราบว่า น้องเปรมถูกรุ่นพี่ 5-6 คน รุมทำร้าย และถูกชกที่หน้าอก 1 ครั้ง จนล้มฟุบหมดสติและเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เคยเห็นแต่ในข่าวในอดีตมีการรับน้องโหด ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกตัวเอง คนที่เสียใจที่สุด คือ พ่อแม่ ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าถูกชกเพียงครั้งเดียวจนเสียชีวิต เพราะลูกชายเป็นคนแข็งแรงและเป็นนักกีฬาฟุตบอล ขณะเดียวกัน รุ่นพี่ที่ก่อเหตุได้มากราบขอขมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีกอยากให้ลูกชายเป็นรายสุดท้าย ยืนยันต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS" ซึ่งเป็นโพสต์เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ได้ออกมาระบุความคืบหน้าว่า "สายจากเพื่อนน้องเปรม พี่เขาทำกันทั้งหมดประมาณ 30 กว่าคน เป็นพวกที่เอารุ่น รุ่นพี่เขาให้ยืนเรียงแถวกันตามเลขที่ แล้วรุ่นพี่ก็จะเข้ามาต่อยทีละคน เช่น รุ่นพี่เลขที่ 1 จะต่อยรุ่นน้องเลขที่ 1 -30 ไปทีละคน รุ่นพี่เลขที่ 2 ก็มาต่อยเรียงกันไปเรื่อยๆ ตามคนที่ 1 รุ่นพี่เลขที่ 3 เลขที่ 4 ไปเรื่อยๆ น้องเปรมโดนทั้งต่อยหน้าอกด้วย แล้วก็โดนถีบด้วย ให้นึกภาพเหมือนทหารเกณฑ์ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งแล้วครูฝึกมาต่อยท้องทีละคน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ 5 คนนั้นแน่นอน ที่บอกว่ามี 5-6 คนนั้นเพราะพ่อถามว่าใครทำบ้าง แล้วก็รับกันแค่นั้น แล้วเปรมมันเป็นโควิดลงปอด ไม่มีใครรู้ หมอพึ่งมาบอกทีหลัง ตอนที่ตายไปแล้ว (แอดมินคิดว่าถ้าเป็นโควิดด้วย กินเหล้าด้วย แล้วถูกกระแทกที่หน้าอกหลายครั้งด้วย โอกาสรอดแทบไม่มีเลยยากมากปอดไม่แข็ง เลือดสูบฉีด และถูกกระแทกที่ปอดหรือลิ้นปี่ ) พอต่อยเสร็จแล้วพี่เขาจะให้เดินกลับ เปรมก็ล้มลงไปหายใจไม่ทันตัวแข็งตาเหลือก พอเอาไปโรงพยาบาลเข้าก็ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่หาชีพจรไม่เจอ หมอเลยบอกว่าอย่ายื้อเลยน้องเขาไม่ไหว อย่าไปเชื่อว่ามีแค่ 5 คนครับ"

ที่มา เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS", www.msn.com

วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565

เช็กด่วน "คนละครึ่งเฟส 4" ใครต้องลงทะเบียนรอบใหม่


"คนละครึ่งเฟส 4" เปิดรับเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ เช็กคุณสมบัติก่อนเข้าร่วมโครงการ คนที่เคยได้รับสิทธิ์คนละครึ่งเฟส 3 ต้องยืนยันรับสิทธิ์ ใช้สิทธิ์ตามกำหนด ไม่เช่นนั้นอาจชวดเงิน 1,200 บาท


หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติกรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 หรือ คนละครึ่งเฟส 4 โดยมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 30 เม.ย. 65 หรือการดำเนินการ 3 เดือน จำนวน 29 ล้านสิทธิ์ โดยสนับสนุนวงเงินค่าอาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไป, บริการนวดสปา, ทำผม, ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้น สลากกินแบ่ง, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ยาสูบ และสินค้าหรือบริการ

สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะมีการรับผู้เข้าร่วมโครงเพิ่ม 1 ล้านสิทธิ์ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน และผู้ที่เคยร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จะต้องทำการการยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ มีรายละเอียด ดังนี้

วิธียืนยันสิทธิ์ร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4

สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 มาแล้ว จำนวน 27.98 ล้านคน จะต้องยืนยันสิทธิ์เพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป จากนั้นเงินจะถูกโอนเข้าแอปฯ เป๋าตัง จำนวน 1,200 บาท ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายได้ทันทีในร้านที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ทั้งนี้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน โดยมีข้อกำหนดดังนี้

1. ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 27.98 ล้านคน จะต้องยืนยันสิทธิ์เพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

2. จะต้องเริ่มใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ภายในวันที่ 28 ก.พ. 65 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ์ โดยสิทธิ์ที่เหลืออาจจะนำมาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป

3. หากยืนยันสิทธิ์และใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนดสามารถใช้สิทธิ์ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

สำหรับผู้ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน ต้องมีคุณสมบัติ และ วิธีลงทะเบียน ดังนี้

ประชาชนที่มีสัญชาติไทย

อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

มีบัตรประจำตัวประชาชน

ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 25 ม.ค. 2565

ไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2

ทั้งนี้ ประชาชนที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือ "แอปฯ เป๋าตัง" ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ์ โดยหลังการตรวจสอบสิทธิ์แล้ว เงินจะถูกโอนเข้าแอปฯ เป๋าตัง จำนวน 1,200 บาท ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ทันที ทั้งนี้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565

คนละครึ่งเฟส 4 เคาะแล้ว!! ลงทะเบียน 14 ก.พ. เริ่มใช้ 21 ก.พ. นี้

นายกฯ สั่งเร่งออก คนละครึ่งเฟส 4 เร็วขึ้น ลงทะเบียน 14 ก.พ. ใช้เงินได้ 21 ก.พ. 65 ช่วยลดค่าครองชีพ-กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ


วันนี้(15 มกราคม 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกระแสข่าวที่ว่า จะมีการให้ประชาชนกลุ่มเก่าที่เคยได้รับสิทธิกดยืนยันสิทธิ และให้ประชาชนกลุ่มใหม่จำนวน 5 ล้านคนลงทะเบียนเข้าร่วมจะมีการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ในวันที่ 16 มกราคม 2565 นี้ ไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ

พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังได้กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ สั่งเร่งบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยังส่งกระทบภาพรวมกับเศรษฐกิจไทย

โดยมอบหมายกระทรวงการคลังเร่งรัดโครงการฯ ให้เร็วขึ้นจากเดิมที่ได้กำหนดระยะเวลาการออกมาตรการไว้ประมาณช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 ความคืบหน้า

นายธนกรกล่าวต่อว่า 

ทั้งนี้ ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 เห็นชอบโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน

โดยล่าสุด ทางกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าว ให้แก่คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดการดำเนินโครงการ เช่น จำนวนสิทธิที่จะเข้าร่วมโครงการ วันแรกที่จะเปิดรับลงทะเบียนซึ่งเบื้องต้นจะสามารถเปิดลงทะเบียนวันที่ 14 ก.พ. 2565 และเริ่มใช้จ่ายได้ในวันที่ 21 ก.พ. 2565

นายธนกรกล่าวว่า สำหรับเงื่อนไข และรายละเอียดว่าจะได้รับตัววงเงินสิทธิ์เท่าใดนั้น ต้องให้คณะกรรมการกลั่นกรองเคาะอนุมัติวงเงินก่อน จากนั้นก็จะจัดทำแนวทางแล้วนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง จึงสามารถเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 ให้กับพี่น้องประชาชนได้ต่อไป

โดยวงเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 จะนำมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท ที่ถูกจัดไว้เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และวงเงินที่ส่งคืนรัฐอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ที่มีผู้ใช้จ่ายไม่เต็มจำนวน

“โครงการคนละครึ่งเฟส 4 นี้ ครอบคลุมกลุ่มคนที่มีแอปเป๋าตัง และผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการใหม่ รวมทั้งโครงการอื่นที่ดูแลกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษควบคู่ไปพร้อมกัน”

นายธนกรทิ้งท้ายว่า โดยจะมีส่วนในการลดภาระของประชาชน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการเปิดให้ยืนยันสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ในวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. 2565 เพื่อเป็นของขวัญในวันแห่งความรัก โดยวงเงินที่ให้จะอยู่ที่ 1,000-1,500 บาท มีระยะเวลาการใช้จ่ายประมาณ 2-3 เดือน โดยจะไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ แต่ผู้ที่เคยได้รับสิทธิแล้วจะต้องกดเพื่อยืนยันรับสิทธิ ไม่ใช่การรับสิทธิโดยอัตโนมัติ ส่วนเงินช่วยค่าครองชีพสำหรับบัตรคนจน และกลุ่มเปราะบางน่าจะมีการช่วยเหลือใกล้เคียงกับคนละครึ่ง 500-1,000 บาท

ที่มา ประชาชาติ, TNNthailand.com

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

ปู่ ย่า ขับรถพาหลานวัยแปดเดือนติดโควิด ตระเวนหาไม่มี รพ.ไหนรับ

ปู่ ขับรถตระเวน 3 จังหวัด พาย่าและหลาน 8 เดือน ที่ติดโควิด หาโรงพยาบาลรักษา แต่ไม่มี รพ.ไหนรับ เนื่องจากเตียงเต็มและไม่มีหมอรักษาเด็ก


นายเอกภพ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าตรวจอาการเด็กหญิงวัย 8 เดือน ผลปรากฏว่ามีค่าออกซิเจนในเลือดที่ต่ำมากๆ วัดไข้ได้ 38 องศา เด็กมีอาการหายใจติดขัด จึงให้ทีมงานประสานไปยังโรงพยาบาลเด็ก ถนนราชวิถี ทันที พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพ่อแม่ที่มีลูกอ่อนให้ระวังเป็นพิเศษ เพราะโควิดระลอกนี้เด็กมีอาการหนักมากและทรุดลงอย่างรวดเร็ว

นายวิรัช ซึ่งเป็นปู่ของเด็ก ได้เล่าว่า เมื่อ 5 วันที่แล้ว ลูกสาวกับลูกเขยติดเชื้อโควิดและไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยช่วง 12.00 น. ของวานนี้(9 ม.ค.65) ตนเองกับภรรยา และหลานสาววัย 8 เดือน ได้ไปตรวจโควิดที่ปทุมธานี จากการตรวจพบว่าย่ากับหลานสาววัย 8 เดือน ติดเชื้อโควิด ส่วนตนเองไม่ติด และโรงพยาบาลแจ้งว่าตอนนี้เตียงเต็ม ต้องรออีก 150 คิว เตียงถึงจะว่าง จึงให้กลับไปกักตัวอยู่ที่บ้าน หรือติดต่อโรงพยาบาลอื่น


จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันเดียวกัน หลานมีอาการหายใจติดขัด ตัวร้อน อาการค่อยไม่ดี แย่ลงเรื่อยๆ จึงตัดสินใจขับรถพาหลานไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่เปิดอยู่ในปทุมธานี กรุงเทพฯ และนนทบุรี โดยให้ลูกช่วยติดต่อประสานตามโรงพยาบาลต่างๆ อีกทาง แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับ เนื่องจากทุกโรงพยาบาลไม่มีหมอรักษาเด็ก จึงตัดสินใจจอดรถรอริมถนนหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนนทบุรี เพื่อรอถึงตอนเช้า หมอเด็กมาทำงาน โรงพยาบาลจะได้รับรักษา โชคดีช่วงประมาณเที่ยงคืนมีเจ้าหน้าที่ของเพจ “สายไหมต้องรอด” ติดต่อเข้าให้การช่วยเหลือ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์


วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

คนละครึ่งเฟส 4 เริ่มมีนาคมนี้ คนที่ได้สิทธิเฟส 3 ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

เงื่อนไขรายละเอียด คนละครึ่งเฟส 4 เริ่มลงทะเบียน 1 มี.ค. 65 คนที่ได้สิทธิเฟส 3 ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลัง ยังไม่เคาะวงเงิน คนที่ใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนก็เข้าร่วมได้


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 ม.ค.65 ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.2565 เบื้องต้นผู้ได้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งเฟส 3 จำนวน 27.98 ล้านราย ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพียงกดยืนยันตนอีกครั้งผ่านแอพลิเคชันเป๋าตัง เหมือนการลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนจะต้องสมัครผ่านทางเว็บไซต์คนละครึ่ง ส่วนของวงเงินคนละครึ่งเฟส 4 ยังไม่ได้สรุปว่าจะให้เท่าใด เพราะอยู่ระหว่างรองบประมาณที่จะมาใช้ในโครงการนี้

นายพรชัย ย้ำว่า ผู้ที่ใช้สิทธิช้อปดีมีคืน 2565 ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 1 ม.ค.2565 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2565 โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี ยังสามารถเข้าสมัครเข้าร่วมคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.- 30 เม.ย. 2565 ได้ เพราะช่วงเวลาไม่ทับซ้อนกัน


นายพรชัย กล่าวสรุปว่า “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2563 ทุกมาตรการจบไปแล้ว สำหรับมาตรการปี 2564 คือ ช้อปดีมีคืน และมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 มีช่วงเวลาที่ไม่ได้ทับซ้อนกัน ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิทั้ง 2 มาตราการสามารถทำได้ เพราะว่ามาตรการช้อปดีมีคืนให้สิทธิกับคนที่มีภาระภาษีต้องจ่ายถึงได้ประโยชน์จากมาตรการ ซึ่งมีคนอยู่จำนวนไม่กี่ล้านคน ต่างจากมาตรการคนละครึ่งที่มีคนได้สิทธิ์ในเฟส 3 ประมาณ 28 ล้านคน และจะได้รับข้อความให้ยืนยันคนละครึ่งเฟส 4 ต่อไป” 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์


วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สธ.เตือนห้ามประมาท โอมิครอน(Omicron) อัพเดทลามแล้ว 37 จว.

วันนี้(30 ธันวาคม 2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดพบการติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นการติดเชื้อในประเทศ 357 ราย โดยมีจังหวัดที่พบผู้ป่วยเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นมาอีก 1 จังหวัด จากเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่พบ 33 จังหวัด รวมเป็น 34 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้นคือ จ.เพชรบูรณ์ 


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อกระจายใน 37 จังหวัดครบทั้ง 13 เขตสุขภาพแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่พบ 33 จังหวัด รวมยอดผู้ป่วยโควิด-19 โอมิครอนสะสมทั้งหมด 934 ราย ได้แก่

เขตสุขภาพที่ 1 เชียงราย 1 ราย เชียงใหม่ 7 ราย ลำปาง 1 ราย ลำพูน 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 2 เพชรบูรณ์ 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 3 พิจิตร 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 4 นนทบุรี 22 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย

เขขสุขภาพที่ 5 นครปฐม 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 4 ราย เพชรบุรี 1 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย

เขตสุขภาพที่ 6 ชลบุรี 18 ราย สมุทรปราการ 38 ราย สระแก้ว 1 ราย รอยืนยันข้อมูล 24 ราย

เขตสุขภาพที่ 7 กาฬสินธุ์ 121 ราย ขอนแก่น 12 ราย มหาสารคาม 42 ราย ร้อยเอ็ด 50 ราย รอยืนยันข้อมูล 84 ราย

เขตสุขภาพที่ 8 นครพนม 4 ราย เลย 3 ราย หนองคาย 4 ราย หนองบัวลำภู 1 ราย อุดรธานี 3 ราย

เขตสุภาพที่ 9 ชัยภูมิ 4 ราย นครราชสีมา 5 ราย บุรีรัมย์ 4 ราย สุรินทร์ 5 ราย

เขตสุขภาพที่ 10 มุกดาหาร 1 ราย ยโสธร 1 ราย อุบลราชธานี 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 11 กระบี่ 4 ราย ภูเก็ต 104 ราย สุราษฎร์ธานี 20 ราย

เขตสุขภาพที่ 12 ปัตตานี 4 ราย สงขลา 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร 325 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ข้อมูลในแอฟริกาใต้ว่า โอมิครอนความรุนแรงลดลง และอาจมาแทนที่เดลต้า ข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้คนประมาท ไม่ป้องกันตัวหรือไม่ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ประมาทไม่ได้ แม้ข้อมูลที่ออกมาจะไปในทางนั้น อัตราการติดเชื้อนอน รพ.น้อยกว่าเดลต้า ภาพรวมก็เห็นชัดว่า ผู้ป่วยหนักลดลง อย่างของไทยเกือบพันรายไม่มีเสียชีวิต มีอาการหนัก 2 คนแต่หายดีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่า ข้อมูลเหล่านี้ต้องใช้เวลา ยังเร็วไป ถ้าจะบอกว่าอันตรายน้อย สิ่งสำคัญขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ป้องกันตัวเองตลอดเวลา และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพราะแม้โอไมครอนจะหลบภูมิคุ้มกันได้ แต่วัคซีนยังคงช่วยลดความรุนแรงได้

“ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบการรักษาต่างๆ โดยเฉพาะการจัดระบบแยกกักที่บ้าน(Home Isolation) และศูนย์พักคอยในชุมชน(Community Isolation) โดยเรามีประสบการณ์จากครั้งก่อน ครั้งนี้จะมีระบบติดตามแยกคนติดเชื้อออกจากคนป่วย ใครติดเชื้อไม่มีอาการให้อยู่ HI ถ้าไม่สามารถอยู่ได้ให้เข้า CI โดยจะมีระบบคอยมอนิเตอร์อาการ หากมีอาการมากขึ้นนำส่งรพ.ทันที” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ที่มา มติชนออนไลน์



วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ฮือฮา เจ้าของร้านบุฟเฟ่ต์ดัง เปิดรับคนล้างจานเดือนละ 90,000 บาท

จากการที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ประกาศ “จ้างเหมาล้างจานร้านเอเชียบุฟเฟ่ต์ เดือนละ 90,000 บาท” ทำให้คนที่เห็นโพสต์นี้ มีความสนใจเพราะถือเป็นรายได้ที่สูงมากหากเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ได้พากันเข้าไปสอบถามรายละเอียดเพราะอยากจะสมัครเป็นคนล้างจานกับอีกส่วนที่เกิดความสงสัยว่าจะเป็นจริงหรือไม่?


เพื่อความกระจ่าง ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงที่ร้านบุฟเฟ่ต์ดังกล่าว ที่เป็นร้านอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ตั้งอยู่บริเวณสามแยกกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยได้พูดคุยกับนายอนุวัตร สกุลเนรมิต และ นายไพโรจน์ รุจิวงศ์ สองหนุ่มใหญ่ผู้บริหารร้านเอเชีย บุฟเฟ่ต์ ได้ยืนยันว่าการประกาศรับสมัคร “จ้างเหมาล้างจานร้านเอเชียบุฟเฟ่ต์ เดือนละ 90,000 บาท” ที่เห็นนั้นเป็นเรื่องจริง ค่าตอบแทนเท่านั้นจริงๆ ซึ่งบางคนพอเห็นตัวเลขแล้วจะบอกว่าเป็นรายได้ที่สูงมาก และมีคำถามกลับมาว่าทางร้านกล้าจ้างเหมาคนล้างจานด้วยเงินจำนวนมากแบบนี้ได้อย่างไร

“เรื่องนี้ก็อยากจะบอกว่า ในความเป็นจริงแล้ว ที่ผ่านมาทางร้านก็จ้างคนล้างจานที่เป็นแบบลูกจ้างประจำประมาณ 7 – 8 คน หากคิดเป็นรายจ่ายโดยรวมก็จะอยู่ในเงินจำนวนนี้อยู่แล้ว แต่เนื่องจากลูกจ้างประจำที่เคยจ้างนั้นบางคนขาดความรับผิดชอบ เมื่อเงินออกก็จะหยุดพร้อมๆ กัน ทำให้งานล้างจานไม่เป็นระบบ และสุดท้ายลูกจ้างเหล่านั้นก็ลาออกไปหลายคน ปัจจุบันคงเหลืออยู่แค่ 3 คนเท่านั้น เป็นคนเก่าคนแก่ที่ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เปิดร้าน จนตอนนี้ทางร้านประสบปัญหาในเรื่องคนงานแผนกล้างจานเป็นอย่างมาก

ดังนั้นทางร้านจึงคิดแก้ปัญหาด้วยการ ประกาศหาคนล้างจานแบบจ้างเหมาในวงเงิน 90,000 บาทต่อเดือน แทนการจ้างลูกจ้างประจำ ส่วนผู้ที่จะมารับจ้างเหมานั้นอยากได้ในรูปแบบบริษัทฯ ที่รับจ้างทำงานด้านนี้ หรือรวมกันเป็นกลุ่มเป็นครอบครัว เพื่อให้การทำงานล้างจานไม่เกิดปัญหาการทิ้งงานตามมาภายหลังและ สามารถล้างจานให้ทันต่อการบริหารจัดการด้านอาหารภายในร้าน ส่วนการจัดคนมาล้างจานจะจัดกี่คนก็ได้ ภายใต้เงินจำนวน 90,000 บาท”

นายไพโรจน์ รุจิวงศ์ บอกอีกว่า สำหรับลักษณะของงานนั้น ก็จะทำเฉพาะแค่ส่วนของการล้างจานเท่านั้น คือ รับจานที่ใช้แล้วเข้ามา จัดการกวาดเศษอาหารออก ล้างน้ำชำระสิ่งสกปรก 1 รอบ จัดภาชนะเข้าเครื่องล้างจานอัตโนมัติ 2 เครื่อง ที่ทั้งล้างทำความสะอาดพร้อมฆ่าเชื้อด้วย เสร็จแล้วก็นำจาน ภาชนะ ชาม ถ้วย ช้อน ส้อม แก้วน้ำ ฯลฯ ที่ล้างสะอาดแล้วออกมาจัดเรียงแยกประเภท พร้อมส่งให้แผนกจัดวางอาหารต่อไป โดยงานนั้นอาจจะหนักในช่วงวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่จะต้องใช้จาน และภาชนะต่างๆ กว่า 10,000 ใบ ส่วนวันธรรมดาลูกค้าน้อยลง งานล้างจานก็จะน้อยตามไปด้วย ดังนั้นทีมที่จะมารับจ้างเหมาล้างจานสามารถบริหารคนให้ตรงกับสภาพงานได้เอง ส่วนรายได้ 90,00 บาท ก็นำไปเฉลี่ยกันตามความเหมาะสมของการทำงานในแต่ละคน

นายไพโรจน์ ยังกล่าวอีกว่า งานนี้แม้ไม่ได้ยากจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้ง่ายนัก เพราะช่วงที่ปริมาณภาชนะมากๆ ก็ต้องอาศัยคนล้างจานไม่ต่ำกว่า 7 – 8 คนช่วยกัน ส่วนวันที่ลูกค้าน้อยคนล้างจานก็อาจจะเหลือแค่ 4 – 5 คน ด้านการเข้างาน เลิกงานผู้รับเหมาล้างจานสามารถบริหารจัดการเองได้ แต่ต้องไม่เสียระบบ งานไม่สะดุด มีภาชนะให้ทางร้านหมุนเวียนได้อย่างไม่ขาด ซึ่งการที่ทางร้านประกาศรับสมัครครั้งนี้ เพราะต้องการทีมงานที่ทำงานแบบเป็นระบบ มีความรับผิดชอบสูง โดยใครที่สนใจก็สามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียด ศึกษารูปแบบการทำงาน รวมถึงหลักเกณฑ์สัญญาว่าจ้าง และการวางเงินประกันการทำงานได้ที่ร้าน ซึ่งจากที่ลงประกาศทางโซเชียลไป ก็มีการสอบถามเข้ามากันหลายคนแล้ว อาจเป็นเพราะค่าตอบแทนที่ลงไว้สูง แต่นั่นก็เหมาะสมกับงานเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ทางร้านก็ยังคงเปิดรับสมัครอยู่เพื่อให้ได้ทีมงานที่ทำงานได้ตรงตามลักษณะงานและหลักเกณฑ์ของทางร้าน

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...