วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ด่วน !! คณะรัฐมนตรี มีมติยกเลิก "วันหยุดพิเศษ" 27 ก.ค.นี้

ครม.เคาะยกเลิก "วันหยุดพิเศษ" 27 ก.ค.นี้ เพื่อลดการเดินทางออกต่างจังหวัด ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 พร้อมสั่งให้หน่วยงานราชการอำนวยความสะดวก เรื่องการยกเลิกตั๋วการเดินทางและการจองที่พัก


วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกวันหยุดพิเศษ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไปในปี 2563 ที่กำหนดให้อังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564 เป็นวันหยุดพิเศษ เนื่องจากช่วงปลายเดือนกรกฎาคมมีวันหยุดพิเศษติดต่อกันหลายวัน ตั้งแต่ 24-28 ก.ค.

เมื่อได้มีการพิจารณาสถานการณ์การระบาดของโควิดระลอกใหม่ ทำให้ ศบค. เห็นว่าต้องมีมาตรการทางสาธารณะสุขที่เข้มงวดขึ้น และขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด จึงมีความเห็นให้ยกเลิกวันหยุดพิเศษวันที่ 27 กรกฎาคม นี้ โดยประชาชนมีการวางแผนการท่องเที่ยว ขอให้หน่วยงานราชการอำนวยความสะดวก เรื่องการยกเลิกตั๋วการเดินทางและการจองที่พัก

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ครม. เคาะจ่าย 8,500 ล้าน เยียวยาร้านอาหาร-ก่อสร้าง-ธุรกิจกลางคืน

คณะรัฐมนตรี ไฟเขียวมาตรการเยียวยาธุรกิจก่อสร้าง-ร้านอาหาร-ธุรกิจบันเทิงกลางคืน กรุงเทพและปริมณฑล 6 จังหวัด หลังจากมีคำสั่งให้ปิดแคมป์คนงาน-ผู้ประกอบการร้านอาหาร 1 เดือน เป็นจำนวนเงินกว่า 8.5 พันล้านบาท


วันนี้ (29 มิถุนายน 2564) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี แถลงว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบเนื่องมาจากข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) แก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ 6 จังหวัด กรุงเทพมหนาคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร โดยประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง, กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร, กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ, กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยรูปแบบการให้ความช่วยเหลือดังนี้

กลุ่มแรงงานผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 2,000 บาทต่อคน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือผ่านระบบประกันสังคมตามกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยเนื่องจากทางราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรค ลูกจ้างมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) ตลอดระยะเวลาที่มีคำสั่งปิดสถานที่แต่ไม่เกิน 90 วัน ผู้ประกอบการหรือนายจ้างตามหลักการให้ความช่วยเหลือจะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน

สำหรับผู้ประกอบการหรือนายจ้างที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม กรณีเป็นผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564 จะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน และลูกจ้างที่เป็นสัญชาติไทยจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 2,000 บาทต่อคน

สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ผ่านโครงการคนละครึ่ง ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยผู้ประกอบการจะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท กรณีผู้ประกอบการในหมวดร้านอาหาร เครื่องดื่มของโครงการคนละครึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง จะได้รับการช่วยเหลือในอัตรา 3,000 บาท

สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งและมีลูกจ้างแต่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมให้ลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนกรกฎาคม 2564

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าการดำเนินการตามมาตรการให้ความช่วยเหลือในระยะเร่งด่วนจะมีกรอบวงเงินรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท (พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท) รวมกับเงินกองทุนประกันสังคม วงเงิน 3,500 ล้านบาท รวมใช้งบประมาณทั้งสิ้น 8,500 ล้านบาท

ขณะที่โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ให้ดำเนินการตามแผนงานเดิมในช่วงเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564

สำหรับมาตรการให้ความส่วนเหลือในระยะต่อไป มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณารูปแบบการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศต่อไป

โดย นายอนุชากล่าวถึง กิจการด้านอื่น ๆ ซ่อมแซมต่าง ๆ เช่น ซ่อมคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สื่อสาร, โทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซ่อมเครื่องใช้ในครัวเรือน ซ่อมรองเท้า ซ่อมเครื่องหนัง ซ่อมเฟอร์นิเจอร์ ซ่อมนาฬิกา ซ่อมเครื่องแต่กาย ซ่อมจักรยานยนต์สองล้อ ซ่อมเครื่องดนตรี ซ่อมเครื่องกีฬา นอกจากนี้กิจกรรม เช่น สปา ลดน้ำหนัก การแต่งผม-ดูแลความงาม แต่งเล็บมือ-เล็บเท้า ซักรีด กิจการดูแลต่าง ๆ ทั้งหมด ก็จะถือว่าอยู่กิจกรรมด้านอื่น ๆ ที่จะได้รับการเยียวยาในครั้งนี้ด้วย

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วุ้นเส้น วิริฒิพา นุ่งบิกินี่สีหวานอวดหุ่นแซ่บ สุดเซ็กซี่แต่ยังไม่ทิ้งความหวาน

วุ้นเส้น วิริฒิพา สาดความขาวออร่าอวดหุ่นเซ็กซี่สุดปัง ในชุดบิกินี่สีหวานสวยจนแฟนๆ แทบจะละสายตาไปไม่ได้ 


ดาราสาว วุ้นเส้น วิริฒิพา ที่ตัองนับว่ายืนหนึ่งเรื่องความแซ่บไม่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ก็ดูดีไปทุกมุม แถมเวลาเจ้าตัวไปเที่ยวทะเล ก็ยังได้โพสต์ภาพในชุดว่ายน้ำ อวดความขาวออร่าที่ดูยังไงก็เซ็กซี่ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่อยู่ในชุดบิกินี่ ก็ทำเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ได้เป็นอย่างล้นหลาม



ล่าสุด เมื่อ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา สาว วุ้นเส้น วิริฒิพา "ด้โพสต์ภาพโชว์ความเซ็กซี่ ในชุดบิกินี่สีชมพูในทริปเที่ยวทะเลภูเก็ตที่อวดหุ่นเพรียวสวย ที่แม้จะเป็นชุดสีหวาน แต่ก็ไม่สาสมารถลดดีกรีความร้อนแรงของเจ้าตัวลงไปเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งเพิ่มความขาวสว่างกระจ่างใส ออร่าแรงจนแสบตาเข้าไปอีก ทำให้ สาววุ้นเส้น ในลุคนี้ดูหวานอมเปรี้ยว ที่เซ็กซี่ร้อนแรงแต่ยังแฝงความละมุนเข้ากันสุด ๆ 


งานนี้ ทำให้บรรดาแฟน ๆ ต่างก็พากันเข้ามาปาไลก์กดถูกใจให้ความสวยปังของสาววุ้นเส้นในลุคนี้กันแบบถล่มทลาย หลายๆ คอมเมนต์ก็ปาอีโมจิไฟลุกกันเป็นแถว พร้อมทั้งชมสาววุ้นเสันไม่ขาดปากว่า หน้าสวย หุ่นปัง ดูดีทุกส่วน แซ่บไม่มีวันหยุดจริง ๆ



ที่มา kapook.com , @vjwoonsen

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564

กระแต อาร์สยาม โชว์บิกินี่สีแดงจัดจ้าน ซูมมุมไหนก็แซ่บ

กระแต อาร์สยาม  โพสภาพโชว์หุ่นสวยอวดกล้ามหน้าท้องสุดเฟิร์มในชุดบิกินี่สีจัดจ้าน พร้อมแคปชั่นเด็ด ทำเอากล่องคอมเมนต์ไฟลุก


กระแต อาร์สยาม ที่มักจะโพสภาพอวดหุ่นสวยๆ ให้ฟอลโลเวอร์ได้ชมกันเป็นประจำ ล่าสุด (20 มิถุนายน 2564)  ก็ออกมาพร้อมภาพชุดว่ายน้ำอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นชุดบิกินี่สีแดงสุดจัดจ้าน เผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก บวกกับสะโพกผายและอกสุดสะบึม ทำให้ทุกท่าที่โพสออกมาดูดีไปหมดทุกมุม

นอกจากนี้ สาวกระแตยังได้โปรยแคปชั่นเด็ดเรียกคะแนนไลก์ด้วยว่า "ถึงหน้าตาเราจะเกเร แต่ถ้าได้รักใครเราไม่เทแน่นอน #ว่าซ่านนนน" งานนี้กล่องคอมเมนต์ไฟลุก มีแต่คนถือไม้เรียวรอกันเป็นแถว





ที่มา กระปุก , @krataersiam8




วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564

พิษโควิด สาวเจ้าของร้านโกดังชาบู ไลฟ์น้ำตานอง เผยหนี้ท่วมหัว ยื้อร้านไม่ไหว

 


พิษโควิดระบาด ทำเศรษฐกิจซบเซา หลายธุรกิจสู้ต่อไม่ไหว ทยอยปิดตัว ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เว็บอีจันได้มีมีการเสนอข่าว ร้านโกดังชาบู ที่สาวเจ้าของร้านได้ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กร้าน ระบายความ อัดอั้นในใจ น้ำตาไหลอาบแก้ม ธุรกิจร้านอาหารไปต่อไม่ไหว แม้เธอจะสู้กัดฟันสู้ จนถึงที่สุดแล้ว


โดยในไลฟ์เธอเผยว่า… “ผ่านไป 3 เดือน มีปัญหาที่ต้องแก้ไข จากปัญหาที่เกิดขึ้นมาปีกว่า ที่ร้านต้องปิด ขาดรายได้มันคงสายเกินไปแล้วที่จะไปต่อ พยายามต่อสู้อดทนแล้ว ขอโทษที่ดราม่า แต่ร้านอาจจะอยู่ถึงเดือนกันยายนนี้เท่านั้น หากแบกภาระไม่ไหวจริง ๆ เป็นหนี้ท่วมหัว 4 แสนบาท”

“เคยหวังว่า เมื่อโควิดซา วันหนึ่งร้านจะกลับมาคึกคัก พยายามยื้อเอาไว้ แต่มันคงไปต่อไม่ไหวแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่ รถกำลังจะถูกยึด ตื่นเช้ามาก็มีแต่ข้อความทวงหนี้ ตอนนี้ต่อให้เปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมง ก็สู้ไม่ไหว”

โดยมีช่วงหนึ่งในไลฟ์เธอได้พูดฝากไปถึงรัฐบาลว่า… 

“เธอต่อสู้เพื่อให้มีร้านมาตลอด แต่พอเจอโควิด รัฐบาลเดี๋ยวสั่งปิด สั่งเปิด รอวัคซีนโควิด ไม่รู้จะได้ฉีดปีนี้ไหม อยากให้รัฐบาล ช่วยเหลือร้านค้าเล็กๆ หน่อย ไม่อยากให้ถึงวันปิดร้าน มันทำใจไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับ”

ที่มา www.msn.com, อีจัน





วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564

แฟนๆ ไม่เห็นด้วย แพรวา ณิชาภัทร บอกพลีชีพ โพสต์รูปถ่ายคู่ ตูน บอดี้สแลม

นักแสดงสาว แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ ที่มีความสวยสดใสให้แฟนๆ ใจละลายมาตลอด โดยบรรดาแฟนๆ ที่ติดตามไอจีของเธอก็จะได้เห็นถึงความสวยของเธอที่พัฒนาเพิ่มขึ้นตามวันเวลาในหลายๆ มุม และยังเห็นได้ชัดเจนขึ้นเรื่อย


มาล่าสุด แพรวา สร้างความฮือฮาเมื่อโพสต์ภาพตัวเองคู่กับร็อกเกอร์ดัง ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม เมื่อสมัยแพรวายังเด็ก และภาพคู่ล่าสุดเมื่อปี 2560 พร้อมทั้งเขียนแคปชั่น “2549 and 2560 #พลีชีพกันไปเลยกับรูปนี้” 


งานนี้ ทำเอาบรรดาแฟนๆ ที่ได้เห็น ให้อีโมจิหัวใจกันแบบรัวๆ พร้อมกับคอมเมนต์รัวๆ อาทิ น่ารัก ใสๆ เหมือนเดิม, สวยเหมือนเดิม หน้าไม่เปลี่ยน, คล้ายน้องวันใหม่, น้อนนนนน ฯลฯ

ที่มา ไทยรัฐ, msn.com , @nichaphatc

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564

‘คนละครึ่งเฟส 3’ ใครต้องลงทะเบียนผ่านทางไหนกันบ้าง​?

มาแล้ว "คนละครึ่งเฟส 3" สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดรายละเอียดเงื่อนไขการจ่ายเงิน 3,000 บาท เริ่มลงทะเบียนเมื่อไหร่ ผ่านทางไหนได้บ้าง



นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้แถลงถึงรายละเอียดโครงการ "คนครึ่งเฟส 3" มีรายละเอียดโดยสรุปดังนี้ 

มาตรการเยียวยาโครงการ คนละครึ่ง เฟส 3 จะเพิ่มกลุ่มเป้าหมายอีก  31 ล้านคน ในวงเงิน 93,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของประชาชน สนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กจนถึงผู้ประกอบการขนาดกลาง

โดยโครงการ คนละครึ่งเฟส 3 นี้ ยังคงเป็นการให้สิทธิ์เหมือนที่ผ่านมา โดยให้ใช้จ่ายได้ไม่เกิน 150 บาท/วัน/สิทธิ์ วงเงิน 3,000 บาทตลอดโครงการ ตั้งแต่ ก.ค - ธ.ค 64 โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 ช่วง ดังนี้

ช่วงแรก จำนวน 1,500 บาท ระหว่างเดือน .. - .. 64 

ช่วงที่สอง จำนวน 1,500 บาท ระหว่างเดือน .. - ..64 

วิธีลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 

สำหรับลงทะเบียนแบ่งเป็น 2 ช่องทาง 

1. ผู้ที่เคยได้รับสิทธิ์แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนเพียงกดยืนยันสิทธิ์ในแอปเป่าตังค์ได้เลย 

2. ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์ ต้องลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com และเมื่อได้รับสิทธิ์แล้วต้องไปยืนยนตัวตนที่ธนาคารกรุงไทยตามขั้นตอน 

ทั้งนี้ หากเลือกรับสิทธิ์มาตรการใดมาตรการหนึ่งแล้ว จะต้องสละสิทธิ์โครงการอื่นๆ อย่างเช่นโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นต้น

162253697546

คุณสมบัติของผู้ที่ได้รับสิทธิจากมาตรการ คนละครึ่งเฟส 3” จะใช้เกณฑ์คุณสมบัติเหมือนกับสองระยะที่ผ่านมา คือ

1. ต้องเป็นผู้ที่มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย  

2. ต้องเป็นผู้อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป  วันที่ลงทะเบียน

3. ต้องเป็นผู้ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

รายละเอียดมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ สามารถตรวจสอบได้ที่ www.cgd.go.t

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ, กระทรวงการคลัง 



ข่าวล่าสุด "ลุงพล" ถูกศาลออกหมายจับคดีน้องชมพู่แล้ว

ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ "น้องชมพู่" อายุ 3 ปี ที่หายตัวไปจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ก่อนที่จะถูกพบเสียชีวิตอยู่บริเวณเขาภูเหล็กไฟ


รายงานข่าวเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมาระบุว่า ศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้อนุมัติหมายจับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ วัย 3 ปี เลขหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2564 ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

สำหรับหลักฐานในการออกหมายจับครั้งนี้ คือ หลักฐานบริเวณจุดพบศพ อาทิ กางเกง รองเท้า เส้นขนจำนวน 3 เส้น ที่ตรวจดีเอ็นเอจนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร รวมถึงเส้นผมน้องชมพู่ที่ถูกสับ 36 เส้น และคำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด และผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ชี้ชัดว่ามีความเชื่อมโยงกับนายไชย์พล

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตรวจแห่งชาติ จะแถลงรายละเอียดของคดี ในวันนี้ (2 มิ.ย.2564) ส่วนการเข้าจับกุมนั้น ตำรวจอาจจะเข้าจับกุมที่บ้านพักในช่วงเช้า หรือ อาจจะรอจับกุม ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากนายไชย์พล และยูทูบเบอร์ ต้องเดินทางมาให้การที่ศาล ในคดีบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ กรณีสร้างพญานาค ขณะเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความนายไชย์พล จะให้สัมภาษณ์ ที่หน้าบ้านนายไชย์พล ถึงแนวทางการสู้คดี

ทางด้าน นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ยืนยันว่า จะไม่ยกโทษให้ผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในการทำบุญครบรอบคล้ายวันเกิดอายุ 40 ปี ที่วัดถ้ำภูผาแอกบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร และ อุทิศส่วนกุศลตามความเชื่อ ให้ลูกสาวที่เสียชีวิตบนภูเหล็กไฟกว่า 1 ปี 


ขณะที่ หน้าบ้านของนายไชย์พล ได้มียูทูบเบอร์ปักหลักถ่ายทอดสด แม้ว่าเจ้าของบ้าน จะยังไม่ออกมาปรากฎตัว หลังกลับมาจากการไปแเยี่ยมบ้านบิดาที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. เมื่อวันที่ 31 พ.ค.





กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...