วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

เช็คด่วน!! มาตรการเยียวยาโควิด ระลอกใหม่ มีอะไรบ้าง

สรุปแล้ว มาตรการเยียวยาโควิดรอบใหม่ แจกเงิน "เราชนะ - ม.33" เพิ่มคนละ 2,000 บาท เตรียมผุดโครงการใหม่ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" แจก แจก e-Voucher สูงสุด 7,000 บาท



เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นำทีมแถลงมาตรการเศรษฐกิจ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. ได้มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาโควิด-19 ระลอก 3 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีรายละเอียดดังนี้

1.โครงการเราชนะ เพิ่มวงเงินให้ประชาชน รวม 2,000 บาท จ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท ใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ในกรอบวงเงิน 67,000 ล้านบาท

2.โครงการ ม.33 เรารักกัน  เพิ่มวงเงินให้ผู้ประกันตน มาตรา 33 รวม 2,000 บาท จ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท ใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 กรอบวงเงิน 18,500 ล้านบาท 

3.โครงการคนละครึ่ง เฟส3 วงเงินไม่เกิน 3,000 บาท ใช้จ่ายวันละไม่เกิน 150 บาท เริ่มเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีโครงการเพิ่มเติมที่เริ่มดำเนินการต่อภายใต้กรอบวงเงิน 140,000 ล้านบาท มีดังนี้

1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3  สนับสนุนค่าครองชีพ  6 เดือนๆ ละ 200 บาท ที่จะเริ่มกรกฎาคม – ธันวาคม 2564 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 13.65 ล้านคน

2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ สนับสนุนค่าครองชีพ 6 เดือนๆ ละ 200 บาท เริ่มกรกฎาคม – ธันวาคม 2564 ที่มีกลุ่มเป้าหมาย 2.5 ล้านคน

3.โครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” ที่ภาครัฐสนับสนุนให้ประชาชนที่ใช้ซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม และบริการกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีกลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้มีรายได้สูง โดยรัฐจะสนับสนุนการใช้จ่ายโดยให้ E-Voucher ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะได้สูงสุด 7,000 บาทต่อคน โดยจะเริ่มต้นโครงการได้เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 

ที่มา อัมรินทร์ทีวี


อัปเดตโครงการ "เราชนะ" รัฐบาลเคาะแจกเงินเพิ่มแล้ว

ความคืบหน้ารัฐบาลเคาะเยียวยาโควิดรอบ3 เตรียมแจกเงินเพิ่มในโครงการ "เราชนะ" คนละ 2,000 บาท ที่มีผู้ได้รับสิทธิ์รวม 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 204,062 ล้านบาท


กระทรวงการคลังได้มีการอัปเดตความคืบหน้าของโครงการ "เราชนะ" เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา  โดยมีรายงานดังนี้

1. ประชาชนจำนวน 13.7 ล้านคน กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ได้มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมจำนวน 73,722 ล้านบาท นับตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา 

2. ประชาชนจำนวน 16.8 ล้านคน ในกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" "คนละครึ่ง" และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการ มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมจำนวน 115,150 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา 

3. ประชาชนจำนวน 2.4 ล้านคน ในกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมจำนวน 15,190 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา

ทำให้มีจากโครงการข้างต้นเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่ากว่า 204,062 ล้านบาทสำหรับการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย โดยมีผู้ได้รับสิทธิ์ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์ในโครงการฯไปแล้ว 24.9 ล้านคน  โดยเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ร้านค้า "คนละครึ่ง" ที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่าน  ครม. ได้เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน 2564 ได้อนุมัติใช้เงินกู้ 225,500 ล้านบาท ในการเพิ่มเงิน 2,000 บาทให้กับผู้ได้รับสิทธิ์ 32.9 ล้านคน ในโครงการ เราชนะ รวมวงเงิน 67,000 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเข้าแอปฯ เป่าตังค์ เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ๆ ละ 1,000 บาท เริ่มจ่ายวันศุกร์ที่ 21 และ 28 พ.ค 2564 โดยสามารถใข้จ่ายได้จนถึง 30 มิ.ย. 2564 นี้





















กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...