วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565

โต้เดือด วิลล์ สมิธ(Will Smith) และ คริส ร็อก(Chris Rock) ใครผิดกว่ากัน?

วิลล์ สมิธ(Will Smith) ตบ คริส ร็อก(Chris Rock) ยังคงเป็นเรื่องถกเถียงของสังคมที่ต่อต้านการทำร้ายจิตใจ แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนให้เอาคืนด้วยความรุนแรง? การทำร้ายจิตใจเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ การทำร้ายร่างกายก็ไม่ใช่คำตอบเช่นกัน


ประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในงานประกาศรางวัลออสการ์ 2022 ของ วิลล์ สมิธ และ คริส ร็อก ยังคงอยู่บนหน้าหนึ่งของบรรดาสื่อต่างประเทศ หลังจากที่ ร็อค แซว เจดา พินเก็ตต์ สมิธ(Jada Pinkett Smith) ภรรยาของ วิลล์ สมิธ ว่าพร้อมแสดงหนังเรื่อง G.I. Jane ที่ป่วยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia) จนต้องโกนผม เหมือนตัวเอกหญิงในเรื่องต้องโกนหัวเพราะเป็นทหาร ทำเอา สมิธ เกิดฟิวส์ขาด เดินปรี่ขึ้นไปตบหน้าร็อกที่กำลังทำหน้าที่เป็นพิธีกรในงานออสการ์

กระแสการโต้เถียงอย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์ ที่ด้านหนึ่งก็มองว่า สมิธ เหมือนคนคลั่งที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้จนบุกทำร้าย ร็อก ถึงบนเวที ก่อนที่จะร้องไห้พรรณาถึงความรักที่มีต่อภรรยา ขณะที่อีกฝั่งก็มองว่าสมิธ เหมือนจะเป็นสามีที่ดีที่ปกป้องเกียรติของภรรยา เมื่อมีคนมาล้อเลียนทำร้ายจิตใจของเธอ

เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรชื่อดังชาวอังกฤษที่เขียนคอลัมน์บนเว็บไซต์ The Sun ระบุว่าเข้าใจถึงความรู้สึกของสมิธที่ต้องเจอกับมุกที่น่ารังเกียจและโหดร้ายที่ร็อกล้อเลียนภรรยาของเขาซึ่งกำลังป่วย

"ขณะที่หลายคนกำลังแบนและทำลายชื่อเสียงของ สมิธ เรียกร้องให้ยึดรางวัลออสการ์ เรียกร้องให้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ผมอยู่ข้างเขา" มอร์แกนกล่าว "เขาทำเพื่อภรรยา ถ้าเป็นยุคก่อนๆ เขาน่าจะได้รับเกียรติที่ปกป้องผู้หญิงของเขา แต่ยุคนี้สังคมอ่อนไหวเกินไป"

ทิฟฟานี แฮดดิช ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนสมิธเช่นกัน "เมื่อฉันเห็นชายผิวดำลุกขึ้นปกป้องภรรยาของเขา นั่นมีความหมายกับฉันมาก สำหรับฉันมันคือสิ่งที่สวยงามที่สุดที่ฉันเคยเห็น เพราะมันทำให้ฉันเชื่อว่ายังมีผู้ชายที่รักและห่วงใยผู้หญิงของพวกเขา ภรรยาของพวกเขาอยู่"

แต่ถึงอย่างนั้น มันมีน้ำหนักพอที่จะทำร้ายคนอื่นเลยหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการทำร้ายออกทีวีที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก แม้จะมองว่าการเล่นมุกของร็อกนั้นล้ำเส้น และไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะสนับสนุนการใช้ความรุนแรงของสมิธ

ศาสตราจารย์ แทมมี วิกิล จากมหาวิทยาลัยบอสตันกล่าวว่า 

"นี่ไม่ใช่ปัญหาของ คริส ร็อก จริงๆ แล้วปัญหาคือ วิลล์ สมิธ คิดว่าเขาต้องใช้ความรุนแรงเพื่อปกป้องคนรักของเขา ผมคิดว่าสิ่งที่เขาทำเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า "ภาวะความเป็นชายเป็นพิษ" (Toxic masculinity)"

แอนดี โอสทรอย นักแสดงและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันกล่าวว่า 

"มันไม่สำคัญว่าเรื่องตลกของ คริส ร็อก จะไร้รสนิยมหรือน่ารังเกียจขนาดไหน แต่ไม่มีใครมีสิทธิทำร้ายร่างกายคนอื่นทั้งนั้น" 

ขณะที่ ร็อบ ไรเนอร์ นักแสดงและผู้กำกับมองว่า "วิลล์ สมิธติดค้างคำขอโทษกับคริส ร็อก อย่างใหญ่หลวง ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับสิ่งที่เขาทำ โชคดีแค่ไหนที่คริสไม่แจ้งความทำร้ายร่างกาย ข้อแก้ตัวที่เขาพล่ามในคืนนี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ"

ขณะที่บางคนนำเหตุการณ์นี้ไปเปรียบเทียบกับการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยเปรียบ ร็อก เป็นยูเครน และ สมิธ เป็นรัสเซีย "วิลล์ สมิธ ไม่ชอบสิ่งที่คริส ร็อกพูดจึงทำร้ายเขา ท่ามกลางการจับตามองจากทั่วโลก สมิธล้มร็อคไม่ได้ ร้องไห้ และบอกว่าเขาเจ็บ แม้ว่าเขาจะเป็นคนเดียวที่ใช้ความรุนแรง" ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งกล่าว

"นักแสดงที่มีชื่อเสียงบุกเข้าไปในพื้นที่ของนักแสดงที่อายุน้อยกว่า ทำร้ายเขา โดยมีผู้คนนับล้านกำลังจับจ้อง และอ้างว่าทำไปเพื่อ "ปกป้อง" ครอบครัวของเขา ขณะที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำรุนแรงที่ไร้สติ" ชาวเน็ตอีกรายกล่าวโดยเปรียบเทียบกับสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน

"ถ้าคุณแก้ตัวให้วิลล์ สมิธ คุณอาจแก้ต่างให้รัสเซียได้เหมือนกัน"

อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นอีกด้านหนึ่งแย้งว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้คนละบริบทกันอย่างสิ้นเชิง การตบหน้าไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับการทำลายบ้านเมืองและสังหารผู้บริสุทธิ์หลายพันคนได้

โดยหลังเกิดเหตุ สมิธได้ออกมาขอโทษร็อก รวมถึงผู้จัดงาน ผู้เข้าร่วมงาน และทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดจากทั่วโลกแล้ว โดยกล่าวว่า "พฤติกรรมของผมเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับและให้อภัยได้ ผมอยากจะขอโทษคุณอย่างเปิดเผย คริส ผมผิด ผมละอายใจ การกระทำของผมไม่ได้บ่งบอกถึงผู้ชายที่ผมอยากเป็น"

"ผมอยากจะขอโทษอะคาเดมี ขอโทษเพื่อนๆ นักแสดงที่มาร่วมงานในวันนี้ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าการที่ยืนอยู่ในจุดนี้คุณต้องรับคำดูถูกเหยียดหยามให้ได้ คุณต้องยอมให้คนอื่นพูดเรื่องบ้าๆ เกี่ยวกับคุณ ยอมให้คนอื่นดูหมิ่นคุณ คุณต้องยิ้มและแสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร"

ถึงกระนั้น ไม่ใช่แค่การทำร้ายร่างกายเท่านั้นที่ไม่ควรทำ แต่การทำร้ายด้วยวาจาก็ทำให้คนฟังเจ็บปวดได้เช่นกัน หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "มุกตลกที่ทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดี ไม่ถือว่าเป็นมุกตลก" เหตุการณ์นี้ทำให้ร็อกได้รับเสียงวิจารณ์ไปไม่น้อยเหมือนกัน

"คิดว่าเจ๋งหรอที่คริส ร็อก คิดว่ามันตลกที่จะล้อเล่นกับอาการป่วยของภรรยาของวิลล์ สมิธ" เวนกัต ประภู นักแสดงและผู้กำกับชาวอินเดียร่วมแสดงความเห็นในประเด็นนี้ด้วย

โซเฟีย บุช นักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันกล่าวว่า "ความรุนแรงมันไม่โอเคเลย การทำร้ายร่างกายก็ไม่ใช่คำตอบ แต่นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่คริสล้อเจดาบนเวทีออสการ์ การกดคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิด การทำเช่นนั้นโดยเจตนาถือว่าโหดร้าย ไปพักทั้งคู่นั่นแหละ"

ที่มา โพสต์ทูเดย์, Photo by Angela WEISS and Robyn Beck / AFP



วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2565

ช็อก! ‘บีม ปภังกร’ พระเอกซีรีส์ ‘เคว้ง’ เสียชีวิตกระทันหัน

เกิดเหตุช็อกวงการบันเทิงอีกครั้ง เมื่อนักแสดงหนุ่ม “บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์” จากไปอย่างกระทันหัน หลังผู้ใกล้ชิดพบพระเอกหนุ่มนอนหลับปลุกไม่ตื่น จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลหมอพยายามกู้ชีพแต่ไม่เป็นผล


เมื่อวานนี้(23 มี.ค.2565) ผู้สื่อข่าวได้รายงานข่าวช็อกวงการบันเทิงอีกครั้งว่า นักแสดงหนุ่ม”บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์” ได้เสียชีวิตแล้ว โดยมีรายงานเบื้องต้นว่า อย่าได้พบนักแสดงหนุ่มนอนหลับอยู่ จึงพยายามปลุกแต่ไม่รู้สึกตัวตื่น จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล พยายามกู้ชีพแต่ไม่เป็นผลทำให้นักแสดงหนุ่มจากไปอย่างสงบ

”บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์” เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2539 มีผลงานมากมาย ทั้งเรื่องบนเตียง (Sleepless Society: Bedtime Wishes), น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์, สัมผัสพิศวง ตอน โจ๋ผู้กล้า, เรื่องลับหลัง, Mister Merman แฟนฉันเป็นเงือก, Project S The Series ตอน Spike, บางระจัน, Blue Wave และล่าสุด บีม ได้เป็นพระเอกในซีรีส์ เรื่อง “เคว้ง” ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ 


ขณะที่กำลังรอการแถลงอย่างเป็นทางการจากต้นสังกัด และทางครอบครัวของพระเอกหนุ่ม ผู้จัดการส่วนตัวของดาราหนุ่ม ได้เปิดเผยว่า “ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากคุณแม่กับน้องอยู่คนละที่กันวันนี้คุณแม่ไม่สามารถติดต่อน้องได้ทั้งวันเลยเดินทางไปหาที่คอนโดฯ ตอนเย็นแล้วพบว่าน้องหลับไปเฉยๆ ตอนนี้ก็ต้องรอทางคุณหมอชันสูตร ส่วนการจัดพิธีนั้นตอนนี้ยังไม่ทราบอะไรเลยเพราะทุกคนยังช็อกกันหมด เพราะเพิ่งจะทราบเรื่องกันเมื่อตอนเย็น เบื้องต้นน้องเป็นคนสุขภาพแข็งแรง เลยต้องรอผลชันสูตรจากทางคุณหมอและเจ้าหน้าที่ก่อน หลังจากนั้นจะแจ้งให้ทราบอีกที”

ขณะที่นักแสดงสาวและผู้จัดละครมากฝีมือ โดนัท มนัสนันท์ ได้โพสต์ภาพคู่ บีม ปภังกร พร้อมข้อความสุดอาลัยถึงพระเอกหนุ่มด้วยว่า "ถึงน้องบีม..พี่ไม่คิดว่ารูปนี้จะเป็นรูปเดียวและรูปสุดท้ายที่เราถ่ายด้วยกัน วันนี้พี่เสียใจมาก ซีรีส์เรายังไม่ทันฉายเลย วันนี้น้องไม่อยู่แล้ว มันยากมากสำหรับพวกเราทุกคนจริงๆ พี่อยากให้ตอนจบคือเหมือนในหนังได้มั้ย พี่พูดไม่ออกเลย ไม่ว่าบีมจะไปอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ ขอให้น้องรู้ว่าน้องอยู่ในใจพี่เสมอ พี่ดีใจมากๆที่เราได้ทำงานด้วยกันแล้วก็รู้จักกัน พี่รักและคิดถึงบีมนะ จากพี่โดนัท"

โดยมี จ๋า ยศสินี ผู้จัดละครดัง เข้ามาคอมเมนต์สุดเศร้าในการสูญเสียพระเอกบีมกะทันหันด้วยว่า 

"ฮืออออ น้องกำลังจะลงละครจ๋าด้วย ซึ่งสาวโดนัท ก็ได้ตอบคอมเมนต์อิโมจิน้ำตาไหลหนัก พร้อมข้อความด้วยว่า @yossiebistro น้องเป็นเด็กตั้งใจมากๆ"

ขณะที่ ดีเจอ๋อง ก็เข้ามาคอมเมนต์ร่วมแสดงความเสียใจด้วยว่า 

"พี่โด..เราช็อคมากกกกกก เสียใจมากกก"

นอกจากนี้ ยังมีคนบันเทิงได้เข้ามาคอมเมนต์แสดงความอาลัยต่อการเสียชีวิตพระเอก ”บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์” เป็นจำนวนมาก

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้(24 มี.ค.65) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการสอบถามข้อมูลพ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.วังทองหลาง ยืนยันข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายเล่นฟุตบอลช่วงเวลาประมาณ 20.00 – 22.00 น. จากนั้นไปรับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้ม เวลา 23.30 น. เข้าที่พักและเสียชีวิตอีกวันหนึ่ง ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการก่อเหตุ ทั้งนี้ รอผลชันสูตรแพทย์นิติเวชชันสูตรพลิกศพยืนยันการเสียชีวิตโดยละเอียดต่อไป

ที่มา ข่าวสด

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2565

เพจ"ANTI SOTUS" แฉ ‘น้องเปรม’ ไม่ใช่แค่ห้า แต่ถูกรุ่นพี่โหด ต่อยอกทีละคน

เกิดเหตุรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับร้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย


จากกรณี น้องเปรม นักศึกษา ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากการที่รุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้อง นอกจากนี้ผลตรวจชันสูตรศพน้องเปรม ยังพบด้วยว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายดับอีกด้วย ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยฯ ออกหนังสือชี้แจงยืนยันว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการจัดขึ้นกันเองของรุ่นพี่นศ.ปวส.ปี 1 และ ปี 2 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามจัดกิจกรรมรับน้องไปแล้ว พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (15 มี.ค. 2565) นายเอกชัย ชนภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิตรู้สึกเสียใจจนเป็นลมล้มพับ เบื้องต้นทราบว่า น้องเปรมถูกรุ่นพี่ 5-6 คน รุมทำร้าย และถูกชกที่หน้าอก 1 ครั้ง จนล้มฟุบหมดสติและเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เคยเห็นแต่ในข่าวในอดีตมีการรับน้องโหด ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกตัวเอง คนที่เสียใจที่สุด คือ พ่อแม่ ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าถูกชกเพียงครั้งเดียวจนเสียชีวิต เพราะลูกชายเป็นคนแข็งแรงและเป็นนักกีฬาฟุตบอล ขณะเดียวกัน รุ่นพี่ที่ก่อเหตุได้มากราบขอขมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีกอยากให้ลูกชายเป็นรายสุดท้าย ยืนยันต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS" ซึ่งเป็นโพสต์เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ได้ออกมาระบุความคืบหน้าว่า "สายจากเพื่อนน้องเปรม พี่เขาทำกันทั้งหมดประมาณ 30 กว่าคน เป็นพวกที่เอารุ่น รุ่นพี่เขาให้ยืนเรียงแถวกันตามเลขที่ แล้วรุ่นพี่ก็จะเข้ามาต่อยทีละคน เช่น รุ่นพี่เลขที่ 1 จะต่อยรุ่นน้องเลขที่ 1 -30 ไปทีละคน รุ่นพี่เลขที่ 2 ก็มาต่อยเรียงกันไปเรื่อยๆ ตามคนที่ 1 รุ่นพี่เลขที่ 3 เลขที่ 4 ไปเรื่อยๆ น้องเปรมโดนทั้งต่อยหน้าอกด้วย แล้วก็โดนถีบด้วย ให้นึกภาพเหมือนทหารเกณฑ์ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งแล้วครูฝึกมาต่อยท้องทีละคน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ 5 คนนั้นแน่นอน ที่บอกว่ามี 5-6 คนนั้นเพราะพ่อถามว่าใครทำบ้าง แล้วก็รับกันแค่นั้น แล้วเปรมมันเป็นโควิดลงปอด ไม่มีใครรู้ หมอพึ่งมาบอกทีหลัง ตอนที่ตายไปแล้ว (แอดมินคิดว่าถ้าเป็นโควิดด้วย กินเหล้าด้วย แล้วถูกกระแทกที่หน้าอกหลายครั้งด้วย โอกาสรอดแทบไม่มีเลยยากมากปอดไม่แข็ง เลือดสูบฉีด และถูกกระแทกที่ปอดหรือลิ้นปี่ ) พอต่อยเสร็จแล้วพี่เขาจะให้เดินกลับ เปรมก็ล้มลงไปหายใจไม่ทันตัวแข็งตาเหลือก พอเอาไปโรงพยาบาลเข้าก็ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่หาชีพจรไม่เจอ หมอเลยบอกว่าอย่ายื้อเลยน้องเขาไม่ไหว อย่าไปเชื่อว่ามีแค่ 5 คนครับ"

ที่มา เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก "ANTI SOTUS", www.msn.com

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2565

"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ "คดีแตงโม" มองยังไงก็ไม่เหมือนอุบัติเหตุ

จากเหตุการณ์ที่นักแสดงสาว "แตงโม นิดา" ได้เสียชีวิตเนื่องจากพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม โดยหลายคนมองว่าเรื่องราวค่อนข้างจะไม่ชอบมาพากล และออกมาตั้งข้อสงสัยมากมาย รวมถึงอดีตผู้พิพากษารายหนึ่งก็ออกมาเคลื่อนไหวถึงคดีนี้ว่า"ดูยังไงก็ไม่เหมือนอุบัติเหตุ"


ล่าสุด นายชนบท ศุภศรี อดีตผู้พิพากษา วัย 73 ปี ได้เขียนแสดงความคิดเห็นการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "กฎหมายชนบท" ว่า "อายุผม 73 ปีแล้วจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้ แต่อยากสร้างความดีไว้บ้าง เมื่อดูคลิปแล้ว ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน แต่เป็นคดีฆาตกรรมและในคลิปมีผู้รู้เห็นเหตุการณ์ถึง 3 คน ยังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือครับ"


"(กูละเชื่อ) เอา 4 กฎ 6 หลัก มาจับ ก็จะรู้ได้ทันทีว่าใคร "โกหก" สวรรค์มีตาครับ น้องแตงโมต้องไม่ตายฟรี" 

หลังจากนั้นก็ได้โพสต์ข้อความต่ออีกโดยระบุว่า "ถ้าอนุญาตให้ผมช่วย ผมมีทนายอาสาระดับพระกาฬอีก 10 คน ครับคุณแม่" และอีกข้อความระบุว่า "ถ้าอนุญาตให้เข้าไปช่วยคดีน้องแตงโม ผมขอคิดค่าวิชาชีพเพียง 100 บาท เท่านั้น จะเอาไหมคุณแม่"

งานนี้หลายคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างสนั่นหวั่นไหว เพราะอดีตผู้พิพากษาออกโรงเองเลย

ที่มา คมชัดลึก


วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565

ด่วน "สรพงษ์ ชาตรี" เสียชีวิตแล้ววันนี้

สุดอาลัย "สรพงษ์ ชาตรี" ปิดตํานานพระเอกดังในวัย 71 ปี ด้วยโรคมะเร็งปอด หลังจากเคยเข้าห้องไอซียูจากการที่กินกล้วยน้ำว้าแล้วสำลัก และรักษาจนมีอาการดีขึ้น




วงการบันเทิงไทยที่เพิ่งจะสูญเสียนักแสดงสาว "แตงโม นิดา" ไปไม่นาน ล่าสุดพระเอกระดับตำนานอย่าง "สรพงษ์ ชาตรี" ก็มาจากไปอีก ด้วยโรคมะเร็งปอดในวัย 71 ปี เรียกว่าเป็นอีกข่าวช็อกวงการบันเทิงไทย

โดยวันนี้ (10 มีนาคม 2565) เวลา 15.51 น. "สรพงษ์ ชาตรี" ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี พ.ศ. 2551 ที่ได้เข้ารับการรักษาตัวจากโรคมะเร็งปอดมาหลายปี ได้จากไปอย่างสงบที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โดยทางครอบครัวจะนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร 

เมื่อไม่นานมานี้ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" และ "เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์" เคยออกมาชี้แจงแทนครอบครัวว่า "สรพงศ์ ชาตรี" ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด มาประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว โดยที่เชื้อมะเร็งมีการลุกลามไปที่อื่นจริงและรักษาตัวตามอาการมาเรื่อยๆ ส่วนที่ต้องเข้าห้องไอซียู เนื่องจากกินกล้วยน้ำว้าแล้วสำลัก 

นอกจากนี้ "ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเศวต" ลูกสาวพระเอกดังก็ได้ออกมาอัปเดทอาการของคุณพ่อผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กว่า "ขอบคุณทุกความห่วงใยล้นหลามที่ส่งมาให้คุณพ่อนะคะ คุณพ่อกำลังใจดีมาก หน้าตาสดใส แรงเยอะเหมือนเคย ชอบกินกับข้าวสมัยเด็กที่คุณป้าทำไปให้ และกระยาสารทของโปรดที่ขวัญเอาไป ฝากส่งกำลังใจให้คุณพ่อหายไวๆ ด้วยนะคะ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ และขอโทษที่ไม่ได้บอกใคร ตามความประสงค์ของคุณพ่อที่ไม่อยากให้ใครเป็นห่วงนะคะ ขวัญยุ่งมากไม่ได้รับสายใครเลย ต้องขออภัยด้วยค่า"

ล่าสุด อดีตพระเอก นักแสดงรุ่นใหญ่ชื่อดัง "สรพงศ์ ชาตรี" หรือ "เอก สรพงศ์" วัย 71 ปี เสียชีวิตลง ด้วยโรคมะเร็งปอด วันนี้ เวลา 15.51 น. ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว เพื่อนในวงการ และแฟนละคร

"สรพงศ์ ชาตรี" เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางบันเทิงในปี 2512 ได้ชิมลางเป็นนักแสดงตัวประกอบในละครโทรทัศน์ ก่อนที่จะมีโอกาสมาแสดงภาพยนตร์เรื่อง "สอยดาว สาวเดือน" โดยรับบทเป็น "ลูกน้อง" ของนักเลงที่มีชื่อเสียงในเรื่อง ตอนนั้นออกมาเล่นเพียงแค่ฉากเดียวโดยไม่มีบทพูดอะไรเลย จากนั้นเจ้าตัวก็มีผลงานหลายเรื่องต่อเนื่อง และสามารถก้าวมาเป็นพระเอกชื่อดังที่อยู่ในวงการมายาวนานกว่า 50 ปี

หลังต้องเข้ารักษาโรคมะเร็งปอด ทำให้"สรพงศ์ ชาตรี"ต้องหายหน้าจากวงการไปหลายปี ก่อนทิ้งผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายให้แฟนๆได้ชมกันเรื่อง "เปรต อาบัติ" ปี 2560 และภาพยนตร์เรื่อง "เรื่อง ผี เล่า" ในแพลตฟอร์มดังอย่าง "เน็ตฟลิกซ์" นอกจากนี้ยังละครมากมาย อาทิ มือปราบข้าวสารเสก (ช่อง 3) , อุ้มรักเกมลวง (ช่องวัน) , สัญญารักสัญญาณลวง (ช่อง 3) ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดอะซีรีส์ ภาคศึกล้างแผ่นดิน (ช่องโมโน 29) , เพลิงภริยา (ช่อง 8) , เสียดาย (รับเชิญ)

กรีพงษ์ เทียมเศวต, ชื่อเล่น เอก หรือ ชื่อในการการแสดง สรพงศ์ ชาตรี เป็นนักแสดงชายชาวไทยที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในช่วงปลายยุค 70 ถึงกลางยุค 80 เขาได้รับเลือกเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี พ.ศ. 2551 

สรพงศ์ ชาตรี เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2493, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เสียชีวิตเมื่อ: 10 มีนาคม 2565 

ที่มา www.komchadluek.net, วิกิพีเดีย


วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565

"พล่ากุ้ง" เปิดภาพแชท สาวปริศนาแฉ คดี "แตงโม นิดา" พร้อมแคปชั่น เรื่องบนเรือ ดูแล้ว อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมด

 

ประเด็นการเสียชีวิตของนักแสดงสาว "แตงโม นิดา" เมื่อช่วงกลางดึก (24 กุมภาพันธ์ 65) หลังตกจากเรือสปีดโบ๊ท กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม ที่สังคมยังคงตั้งข้อสงสัยกันหนักมาก ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเสียชีวิตเพราะอะไร? 


ประเด็นข่าวใหญ่ที่สังคมกำลังให้ความสนใจและจับตามองอย่างมากเกี่ยวกับปมคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ที่ดูแล้วค่อนข้างจะมีเงื่อนงำ และ ไม่ชอบมาพากล มีพิรุธหลายอย่าง ซึ่งด้านชาวเน็ตก็ต่างตามสืบเรื่องนี้ และคอยจับผิดเพื่อนๆ ทั้ง 5 คนที่อยู่บนเรือในวันเกิดเหตุ โดยหนึ่งในชาวเน็ตสงสัยมากที่สุดคือ "กระติก" ผู้จัดการของ "แตงโม นิดา" เพราะมีพฤติกรรมที่แปลกๆ รวมถึงให้สัมภาษณ์ไม่เหมือนกันสักครั้งเดียว

ล่าสุด วันนี้ (7 มีนาคม 65) "ดีเจพล่ากุ้ง" หรือ "วรชาติ ธรรมวิจินต์" เป็นอีกคนที่ได้ปล่อยแชทลับ จากสาวปริศนาที่ออกมาแฉว่า มีคนรู้จักเคยรับงานเอ็นฯ คนเดียวกับคดี "แตงโม นิดา" โดยที่ "ดีเจพล่ากุ้ง" ได้เขียนแคปชั่นประกอบกับแชทลับที่ปล่อยออกมาอีกว่า 

"เรื่องบนเรือ ดูประกอบการพิจารณานะ อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมด!!! ตามความจริงกันนะ ความจริงต้องปรากฏ จะได้หลับได้นอนกัน"









พร้อมกันนี้ "ดีเจพล่ากุ้ง" ยังได้โพสต์ภาพข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "คุณตำรวจครับ ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ วิชาชีพ ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่การตัดสินใจของท่าน" พร้อมกับเขียนแคปชั่นกำกับว่า "เกียรติตำรวจของไทย เกียรติวินัย กล้าหาญ มั่นคง ผมนับถือตำรวจไทย" อีกด้วย 

ขอบคุณภาพประกอบข่าวจากเฟซบุ๊ก Plakung

ที่มา คมชัดลึก

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...