วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สธ.เตือนห้ามประมาท โอมิครอน(Omicron) อัพเดทลามแล้ว 37 จว.

วันนี้(30 ธันวาคม 2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดพบการติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นการติดเชื้อในประเทศ 357 ราย โดยมีจังหวัดที่พบผู้ป่วยเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นมาอีก 1 จังหวัด จากเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่พบ 33 จังหวัด รวมเป็น 34 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้นคือ จ.เพชรบูรณ์ 


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อกระจายใน 37 จังหวัดครบทั้ง 13 เขตสุขภาพแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่พบ 33 จังหวัด รวมยอดผู้ป่วยโควิด-19 โอมิครอนสะสมทั้งหมด 934 ราย ได้แก่

เขตสุขภาพที่ 1 เชียงราย 1 ราย เชียงใหม่ 7 ราย ลำปาง 1 ราย ลำพูน 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 2 เพชรบูรณ์ 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 3 พิจิตร 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 4 นนทบุรี 22 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย

เขขสุขภาพที่ 5 นครปฐม 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 4 ราย เพชรบุรี 1 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย

เขตสุขภาพที่ 6 ชลบุรี 18 ราย สมุทรปราการ 38 ราย สระแก้ว 1 ราย รอยืนยันข้อมูล 24 ราย

เขตสุขภาพที่ 7 กาฬสินธุ์ 121 ราย ขอนแก่น 12 ราย มหาสารคาม 42 ราย ร้อยเอ็ด 50 ราย รอยืนยันข้อมูล 84 ราย

เขตสุขภาพที่ 8 นครพนม 4 ราย เลย 3 ราย หนองคาย 4 ราย หนองบัวลำภู 1 ราย อุดรธานี 3 ราย

เขตสุภาพที่ 9 ชัยภูมิ 4 ราย นครราชสีมา 5 ราย บุรีรัมย์ 4 ราย สุรินทร์ 5 ราย

เขตสุขภาพที่ 10 มุกดาหาร 1 ราย ยโสธร 1 ราย อุบลราชธานี 4 ราย

เขตสุขภาพที่ 11 กระบี่ 4 ราย ภูเก็ต 104 ราย สุราษฎร์ธานี 20 ราย

เขตสุขภาพที่ 12 ปัตตานี 4 ราย สงขลา 1 ราย

เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร 325 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ข้อมูลในแอฟริกาใต้ว่า โอมิครอนความรุนแรงลดลง และอาจมาแทนที่เดลต้า ข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้คนประมาท ไม่ป้องกันตัวหรือไม่ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ประมาทไม่ได้ แม้ข้อมูลที่ออกมาจะไปในทางนั้น อัตราการติดเชื้อนอน รพ.น้อยกว่าเดลต้า ภาพรวมก็เห็นชัดว่า ผู้ป่วยหนักลดลง อย่างของไทยเกือบพันรายไม่มีเสียชีวิต มีอาการหนัก 2 คนแต่หายดีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่า ข้อมูลเหล่านี้ต้องใช้เวลา ยังเร็วไป ถ้าจะบอกว่าอันตรายน้อย สิ่งสำคัญขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention ป้องกันตัวเองตลอดเวลา และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพราะแม้โอไมครอนจะหลบภูมิคุ้มกันได้ แต่วัคซีนยังคงช่วยลดความรุนแรงได้

“ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบการรักษาต่างๆ โดยเฉพาะการจัดระบบแยกกักที่บ้าน(Home Isolation) และศูนย์พักคอยในชุมชน(Community Isolation) โดยเรามีประสบการณ์จากครั้งก่อน ครั้งนี้จะมีระบบติดตามแยกคนติดเชื้อออกจากคนป่วย ใครติดเชื้อไม่มีอาการให้อยู่ HI ถ้าไม่สามารถอยู่ได้ให้เข้า CI โดยจะมีระบบคอยมอนิเตอร์อาการ หากมีอาการมากขึ้นนำส่งรพ.ทันที” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ที่มา มติชนออนไลน์



ฉายารัฐบาล 2564 ยื้อยุทธ์ วาทะแห่งปี นะจ๊ะ

ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาที่นักข่าวทำเนียบฯ จะตั้งฉายารัฐบาล, นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อสะท้อนมุมมองการทำงานของรัฐบาล โดยในปี 2564 มีฉายา ดังนี้

Government Nicknames

ฉายารัฐบาล ‘ยื้อยุทธ์’
ฉายา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ‘ชำรุดยุทธ์โทรม’

โดยเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2564 ที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ซึ่งตามปกติแล้วสื่อมวลชนสามารถดักรอสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้บริเวณทางเชื่อม และประตูด้านหน้าตึกสันติไมตรีหลังนอก แต่ภายหลังที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้ออกฉายาประจำปี ทางสำนักโฆษกสํานักนายกรัฐมนตรี ประกาศ แจ้งสื่อมวลชนขอความร่วมมือ งดดักสัมภาษณ์บริเวณทางเชื่อมตึกไทยและตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล 

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา ‘รองช้ำ’

ผู้สื่อข่าวต่างพากันไปจ่อไมค์สัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก่อนร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลตั้งให้เป็น “รองช้ำ” ว่า ตนเองก็รองช้ำ รองช้ำเพื่อชาติไม่เป็นอะไรหรอก รองช้ำเพื่อชาติ เพื่อให้ประเทศชาติอยู่ต่อกับเราได้

พร้อมกับสอบถามถึงความคืบหน้าเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ มีหารคัดเลือกผู้สมัครหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะมีประชุมบ่ายนี้เพื่อเสนอชื่อเข้ามา จะมีชื่อภรรยาของนายสิระ เจนจาคะ หรือไม่ ก็แล้วแต่กรรมการบริหารพรรค จะเป็นผู้เสนอชื่อเข้ามา ส่วนการลงพื้นที่ร่วมกันที่นครราชสีมาเมื่อวานนี้เป็นเรื่องธรรมดา เขาเป็นสมาชิกพรรคก็ติดตามลงพื้นที่ปกติ นายสิระก็ตามไปเรื่อยๆ ทุกที่

เมื่อสอบถาม พล.อ.ประวิตร ถึงกรณีซูเปอร์โพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนยกให้พล.อ.ประวิตร เป็นบุคคลของสังคมแห่งปี 2564 ในใจประชาชน ด้านการช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนและปัญหาสังคม พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวว่า จะทำต่อไปให้ดีที่สุดในเรื่องการช่วยประชาชนต่อไปจะยืนหยัดเป็นฐานของพรรคเราจะต้องช่วยคนจนช่วยทุกคนให้อยู่ดีกินดี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ฉายา ‘ว้ากซีน’

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ฉายา ‘นายกฯ บางโพล’

โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้กล่าวถึงฉายา “นายกฯ บางโพล” ว่า ตลกดี ส่วนตัวไม่มีความเห็นอะไร ยอมรับว่าคนตั้งฉายาก็เก่ง ส่วนที่คิดว่าจะเป็น นายกฯ ตัวจริง ไม่ใช่แค่ นายกฯ บางโพล ตามที่มีการตั้งฉายาได้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องอนาคต วันนี้เราก็มีนายกฯ อยู่แล้ว

นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ฉายา ‘มหาเฉื่อย 4D’

เมื่อถามถึงกรณีถูกตั้งฉายา “มหาเฉื่อย 4D” นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เมื่อถามย้ำว่า ไม่เคืองใช่หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า “ไม่เคืองหรอก เพราะอาจจะไม่ค่อยได้เจอกัน ก็อาจจะคิดได้ ไม่มีปัญหาอะไร” เมื่อถามย้ำว่า ไม่โกรธจริงๆ ใช่หรือไม่ นานสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า “จะไปโกรธได้อย่างไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด”

เมื่อถามว่า จะสานต่องาน 4D หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็สานต่อสิ เพราะของมันดีนี่ และเป็นเรื่องสำคัญให้ความรู้ความเข้าใจ และประชาชนต้องเข้าใจมากกว่านี้ คนอื่นจะได้เข้าใจมากกว่านี้ และเดี๋ยวก็จะเห็นผล เรื่องนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในระยะยาวก็จะเห็นผล

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ฉายา ‘สุชาติ ชมเก่ง’


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ฉายา ‘สายขม นมชมพู’


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ฉายา ‘ดีลล่มระดับโลก’


สำหรับ ‘นะจ๊ะ’ ได้เป็นวาทะแห่งปี 2564 

ที่มา www.mcot.net, workpointtoday.com

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...