วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2566

มาดูกัน ‘ฉายาดารา’ 2566 ใครได้ฉายาอะไรกันบ้าง?

ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาทุกปีที่ทาง ‘สมาคมนักข่าวบันเทิง’ จะตั้ง ‘ฉายาดารา’ โดยรวบรวมหลายแง่มุม ทั้งในด้านผลงาน ตัวตนของดารานักแสดงและบุคคลในวงการบันเทิง โดยในปีนี้มีดาราและศิลปินชื่อดังติดโผเข้ามา ที่อยู่ในกระแสและมีเรื่องราวประเด็นในปีนี้


10 ฉายาดารา 2566 มีดังต่อไปนี้ 

ที่มา: @aff_taksaorn

“แอฟ–นนกุล” ได้ฉายา “คู่รักต่างวัยใจเดียวกัน” 

เป็นคู่รักต่างวัยที่ถูกจับตาและได้รับความสนใจในวงการบันเทิง ทั้งนี้เพราะฝ่ายหญิง แอฟ ทักษอร หลังจากเลิกราจากความรักของการใช้ชีวิตคู่ ก็ครองโสดมานาน ไม่ยอมลงเอยกับใครง่ายๆ จนกระทั้งกามเทพแผลงศรกับหนุ่มนักแสดงรุ่นน้องที่เล่นซีรี่ส์ด้วยกัน นนกุล ชานน  แม้จะอายุห่างกันถึง 16 ปี แต่ไม่เป็นอุปสรรค์ทำให้ความรักของทั้งสองเบ่งบาน ออกมาเปิดตัวยอมรับกำลังศึกษาดูใจกันในที่สุด

ที่มา: @bellacampen

“เบลล่า ราณี” ได้ฉายา “แม่นายสายฟาด”

นางเอกสาวแถวหน้าที่ เด่นดังมาตั้งแต่ ละครบุพเพสันนิวาส ที่สร้างชื่อเสียง โด่งดังเป็นพลุแตก จนมาถึงละครเรื่องล่าสุดที่ออกอากาศในปี 2566  พรหมลิขิต ซึ่งเล่นกับพระเอกคู่ จิ้น โป๊บ ธนวรรณ์ ก็กลายเป็นละครแห่งปีที่ได้รับความนิยมกวาดเรตติ้งขึ้นอันดับหนึ่งไปครอง ยิ่งเพิ่มความปังให้ เบลล่า กลายเป็นนางเอกฮอตที่กวาดงานอีเว้นท์ และโฆษณาเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

ที่มา: @yinglee_lalla

“หญิงลี ศรีจุมพล” ได้ฉายา “นักร้องโลกสองใบ”

กลายเป็นข่าวใหญ่ปริศนาคาใจ ลูกทุ่งสาวมีโลกสองใบ หลายคนเดากันไปต่างๆนานาๆ สุดท้ายความจริงมาเปิดเผยพุ่งเป้าไปที่นักร้องลูกทุ่งคนดัง เจ้าของเพลง ขอใจแลกเบอร์โทร หญิงลี ศรีจุมพล ที่เกิดรักสามเศร้าเราสามคน ระหว่าง แฟนเก่าและแฟนใหม่  ต่างฝ่ายต่างออกมาแฉ แบบหนังม้วนจนต้องขึ้นโรงพักหาจุดยุติปัญหาของนักร้องโลก2ใบ

ที่มา: @icepreechaya

“ไอซ์ ปรีชญา” ได้ฉายา “ไซยาไนด์ไล่งู”

นางเอกสาวตกเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้า 1 เพราะมีประเด็นไปเกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีการใช้สารไซยาไนด์ จังหวะเหมาะเจาะ ที่นางเอกสาว มีการสั่งซื้อสารสารไซยาไนด์ ซึ่งถือเป็นสารอันตราย จนมีการสืบสาวราวเรื่องนางเอกสาว  ไอซ์ ยอมรับว่าสั่งซื้อจริง แต่ซื้อมาไล่งู สัตว์มีพิษ ที่บ้าน แต่กว่าเธอจะชี้แจ้งแถลงไขได้ก็ทำเอาเจ้าตัวเครียดหนักไปหลายวัน ในเวลานั้น

ที่มา:@porxild

“แอนโทเนีย โพซิ้ว” ได้ฉายา “รอยยิ้มสะท้านโลก”

นางงามจากเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2566  แอนโทเนีย โพซิ้ว สาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก  ถึงแม้ว่าจะได้ตำแหน่งเพียง รองอันดับ 1มิสยูนิเวิร์ส 2023  แต่ก็ชนะใจแฟนๆ ด้วยรอยยิ้มที่สดใสมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ จนได้รับคำชื่นชนในฐานะตัวแทนคนไทยบนเวทีระดับโลก

ที่มา: @duearisara

“ดิว อริสรา” ได้ฉายา “หม่ามี๊ ตี(บ่อน)แตก” 

ดาราสาวคุณแม่ลูกหนึ่งที่ไม่หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ ดิว อริสรา กล้าออกมาเปิดใจแฉแหลกเว็บการพนันออนไลน์ จนทำเอาวงการพนันออนไลน์สั่นสะเทือน โดนกวาดล้างอย่างหนัก งานนี้ทำให้ดิว ได้รับเสียงชื่นชมที่กล้าออกมาแฉเปิดโปงเรื่องราวดังกล่าว

ที่มา: @bbrightvc

“ไบรท์ วชิรวิชญ์” ได้ฉายา “หล่อเขย่าโลก”

ถือเป็นศิลปินหนุ่มฮอตปรอตแตกที่มีผู้ติดตาม ใน IG กว่า 18 ล้านแล้ว นอกจากนี้ยังได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกและระดับเอเซียมากมายมาแล้ว ล่าสุด ไบร์ท วชิรวิทญ์ ยังถือได้ว่าศิลปินไทยคนแรก ที่คว้ารางวัลจากเวทีระดับโลก อย่าง MTV VMAJ 2023 สาขา Best Asia Celebrity

ที่มา: @bestkamsing

“เบสท์ รักษ์วนีย์” ได้ฉายา “ลูกสาวสายสตรอง”

เจอมรสุมชีวิตกระหนำแบบแทบไม่ได้พัก เบสท์ รักษ์วนีย์ ลูกสาว ของสมรักษ์ คำสิงห์ หลังจากที่เลิกรากับ นักแสดงหนุ่ม ตงตง น้ำตาตกในได้ไม่นาน  มีข่าวดังเมื่อคุณพ่อเป็นคดีความถูกโกงล็อตเตอรรี่ ต้องหาเงินช่วยพ่อใช้หนี้ และส่งทายปลายปีคุณพ่อสมรักษ์ของเธอก็ถูกแจ้งความจับคดีพรากผู้เยาว์ งานนี้กลายคนพากันให้กำลังใจว่าเธอต้องเป็นลูกสาวที่ต้องสตรองเบอร์ไหน   

ที่มา: @numkala

“หนุ่ม กะลา” ฉายา “ทริปเที่ยวพาพัง”

จากทริปเที่ยวต่างแดนแห่งความสุขที่ปรากฏภาพพาครอบครัวท่องเที่ยวต่างประเทศ ชาวเน็ตตาดีจับผิดได้ว่า มีการไปเที่ยวญี่ปุ่นถึง 2 รอบในเดือนเดียว จนกลายเป็นเรื่องครัวแตกความลับถูกเปิดเผยลุกลามบานปลายจนโซเชียลระอุ ท้ายที่สุดนำไปสู่การหย่าร้าง อดีตเมียฟ้องมือที่สาม เรียกค่าเสียหายแบบไม่มีใครยอมใคร

ที่มา: @takkatan_chollada

“ตั๊กแตน – จ๊ะ” ได้ฉายา “ตัวมัมปะทะตัวแม่”

จากกรณีที่นักร้องลูกทุ่งสาว ตั๊กแตน ชลดา โพสต์ ซัดเพื่อนสาว ของนักร้องลูกทุ่งคนหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คนพุ่งเป้าไปที่ เอม วิทวัส เพื่อน จ๊ะ นงผณี  ต่อมาทั้งสองคนปฏิเสธ อย่าโยงกันสนุกปาก จากนั้น ตั๊กแตนขอจบเรื่องที่โพสต์เพราะไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ถัดมา จ๊ะ-เอม ไม่พอใจ ซัดกลับออกไปว่า ถ้าไม่ชอบกันก็ขอเกลียด ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันทั้งสิ้น เรียกว่างานนี้ ตัวแม่ตัวมัมวงการลูกทุ่งเปิดศึกซัดกันเดือดเลยทีเดียว

ที่มา @jaja_nongpanee

ที่มา www.pptvhd36.com

วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2566

มาแล้ว ฉายารัฐบาลปี 66 สุดจี๊ด แกง​ส้ม​ "ผลัก" รวม - เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน"

ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ได้มีการตั้งฉายารัฐบาลปี 66 ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยได้ให้ฉายา รัฐบาลว่า แกง​ส้ม​ "ผลัก" รวม, นายกฯว่า "เศรษฐา" เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน" โดยมีวาทะแห่งปี "ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย​"


เมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การตั้งฉายารัฐบาล และ รัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติ ได้มีมติร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และ วาทะแห่งปี ประจำปี 2566 ดังนี้

รัฐบาล ได้ฉายา แกง​ส้ม​ "ผลัก" รวม

"แกง" คือ คำสแลงที่ใช้แทนความหมายว่า แกล้ง "ส้ม" คือ สีของพรรคก้าวไกล ส่วนคำว่า "ผลักรวม" ล้อมาจากคำว่า "ผักรวม" เมนูแกงส้มยอดนิยมประเภทหนึ่ง เมื่อรวมกันแล้ว นิยามความหมายในทางการเมือง สะท้อนกระแสสังคม มองพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง MOU ถูกฉีก และ ถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย และ ข้ออ้างทางการเมือง ส้มจึงหล่นใส่พรรคอันดับรอง กลืนน้ำลายจัดตั้งรัฐบาล "มีลุง" ก็ไม่เป็นไร โดยให้เหตุผลเพื่อความสมานฉันท์ ทำเอาแฟนคลับผู้รักประชาธิปไตยถึงกับหัวใจสลาย ก่อเกิดวาทกรรม "ตระบัดสัตย์"

ดังนั้น แกง​ส้ม​"ผลัก"รวม จึงใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางการเมือง ของการจัดตั้งรัฐบาลที่ว่า "ชนะเลือกตั้ง แต่แพ้จัดตั้ง" ได้เป็นอย่างดี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ฉายา เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน"

นับแต่เศรษฐีที่ชื่อ "เศรษฐา" เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เดินหน้าทำงานทันที โดยเฉพาะการหารายได้เข้าประเทศ ต้องยอมรับในความมุ่งมั่นตั้งใจ คิดเร็วทำไว เดินสายพกประเทศไทยใส่กระเป๋า ไปโรดโชว์จีบนักลงทุนทั่วโลก ประกาศตัวเป็นเซลล์แมนเต็มรูปแบบ

แต่ในทางการเมือง ยังถูกมองว่า ไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง เงาของคนในตระกูล "ชินวัตร" ยังปกคลุม เปรียบเสมือนตัวแสดงแทน หรือ สแตนด์อิน เพราะเคยหลุดปากขณะออกงานพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รักของนายใหญ่ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยเช่นกัน ว่า "นายกฯ คนไหน มีนายกฯ 2 คน” อีกทั้งหลายนโยบาย ก็ถูกวิจารณ์ว่า ต่อยอดมาจากนโยบายเดิม ของรัฐบาลนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นายภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พาณิชย์ ได้ฉายา รองกอง

รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 คนที่นายกรัฐมนตรีต้องเชื่อใจ และ ปล่อยให้ดูแลทุกอย่าง เมื่อต้องออกไปเดินสายขายของในต่างประเทศ ต้องรับเละทุกงานในมิติการเมือง และ ถูกโยนให้รับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลักหลายเรื่อง ที่นายกฯ หลายยุคหลายสมัยต้องนั่งหัวโต๊ะ

กลับกลายเป็นการประชุมครั้งแรกของรัฐบาลนี้ รองนายกฯ ที่ชื่อ "ภูมิธรรม" ต้องทำหน้าที่แทน นับตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาประมง กลุ่มพีมูฟ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ EEC หรือแม้แต่ช่วงวิกฤตนาทีชีวิตแรงงานไทยในอิสราเอล ประชุมนัดแรก ก็ยังเป็น "ท่านรอง ภูมิธรรม" ไหนจะงานหลักในกระทรวง ปัญหาของแพง ราคาอ้อย น้ำตาล อีรุงตุงนัง กองสุมอยู่รอบตัว เหมือนลองกอง ผลดก พวงยาว กิ่งใหญ่

นายสุทิน คลังแสง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​  ได้ฉายา พลิกทินสู่ดาว

ได้ยินแทบไม่เชื่อหู ใครเห็นเป็นต้องขยี้ตา เมื่อพลเมืองเต็มขั้น เคยรับเงินเดือนครู หลงใหลในดนตรีหมอลำ ผันตัวเข้าสู่แวดวงการเมือง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกองทัพ นอกจากนามสกุล "คลังแสง" ขนาดเจ้าตัวยังไม่เคยนึกฝัน ว่าชีวิตนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

แต่ด้วยบุคลิกสุภาพ ใจเย็น มืออ่อน และ ลีลาร้องรำน่าเอ็นดู จึงเข้าได้กับทหารทุกกรมกอง พลิกชีวิตลูกอีสาน สู่ดาวเจิดจรัสเฉิดฉาย ท่ามกลางเหล่าทัพได้อย่างแนบเนียน

พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงยุติธรรม ได้ฉายา ทวี สอดไส้

ยิ่งกว่านอนมา สำหรับตำแหน่งเจ้ากระทรวงยุติธรรม เต็งหนึ่งชื่อเดียว แบบไร้คู่แข่งมาตั้งแต่ต้น สะท้อนความไว้วางใจจากนายใหญ่แค่ไหน คงไม่ต้องพูดถึง

แม้จะไม่โดดเด่นในการบริหารราชการช่วง 3 เดือนแรก แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็น เอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับมารับโทษ ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ ทำให้ไม่ต้องนอนคุกแม้แต่คืนเดียว เผือกร้อนแค่ไหนคงไม่ต้องถาม มือพองแค่ไหนก็ต้องถือ กว่านายทักษิณจะออกจากคุก ต้องถูกจ้องถล่มอีกมากแค่ไหน คงไม่ต้องเดา

นายชาดา ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​  ได้ฉายา มาเฟียละเหี่ยใจ

นักการเมืองชื่อดังแห่งจังหวัดอุทัยธานี ประวัติโลดโผน ภาพจำพัวพันวงการนักเลง ถูกประทับตรามาเฟีย ผู้คนยกสถานะให้เป็นผู้ทรงอิทธิพล แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธมาโดยตลอด พร้อมให้คำจำกัดความตัวเองไว้ว่า “ ความดีพอสมควร ความชั่วพอประมาณ สันดานพอคบได้”

หน้าที่การงานในตำแหน่งรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ เป็นโต้โผปราบปราม "ผู้มีอิทธิพล" จนฮือฮากันทั้งประเทศ แต่ยังไม่ทันได้สร้างผลงาน "ลูกเขย" ก็สร้างเรื่องก่อน ถูกเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) จับกุม ในข้อหาเรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาล 2 โครงการ งานนี้เก้าอี้รัฐมนตรีร้อนระอุ เปิดแถลงข่าวภายใน 24 ชั่วโมง สั่ง "ลูกเขย" ยื่นใบลาออกทันที ไม่ต้องรอสอบสวน ลั่นเป็นลูกเขยชาดา สปิริตต้องมากกว่าคนอื่น

โดยได้ให้ "ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" เป็นวาทะแห่งปี

​นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 หลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย

โดยขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ แต่ทำงานยังไม่ถึง 4 เดือน กลับขอลาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นเวลา 4 วัน จนชาวโซเชียล อดแซวไม่ได้

หากถามนักข่าวหลายคนที่คุ้นเคย และ ตามติดภารกิจนายเศรษฐา ต่างรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ถึงคำว่า "ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" แทบทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ตามนายกฯ 3 เดือนเหมือน 3 ปี ให้สัมภาษณ์ทุกที่ ที่มีโอกาส ถึงไม่เห็นหน้าก็มาทางโซเชียล ค่ำคืนไม่พักไม่ผ่อน

โพสต์ประเด็นร้อนทันใจ "ภูเก็ตก็แค่ปากซอย" นักข่าวพิสูจน์แล้ว นายกฯ ทำได้จริง พร้อมสะท้อนปัญหาหลักของนายกฯ ที่มักบอกว่าเป็นคนพูดตรง คือ การสื่อสาร หลายครั้งนำภัยมาสู่ตน เมื่อขึ้นศักราชใหม่แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คงต้องรอติดตามกันต่อไป 

ที่มา ไทยพีบีเอส

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

พีอาร์สาว ร้องนายกฯ ถูกตำรวจเรียกเงิน-ข่มขืน แลกคดียาเสพติด

พีอาร์สาวเข้าร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดี อ้างถูกตำรวจ 7 นาย จับคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และถูกเรียกรับเงินกว่า 300,000 บาท และยังได้ถูก 1 ใน 7 ตำรวจได้พาไปข่มขืนที่โรงแรมย่านรังสิต


วันนี้ (12 ธ.ค.2566) หญิงสาวที่ตกเป็นผู้เสียหายพร้อมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมานำหลักฐานใบแจ้งความ เอกสารใบส่งตัวดำเนินคดี และรายการเดินบัญชีธนาคารมามอบให้กับ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือและติดตามคดี

โดยทางผู้เสียหาย และสามี อ้างถูกตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดปทุมธานี 7 นาย บุกค้นตัวในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านคลองห้า ถนนรังสิต นครนายก เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพบเคตามีนจำนวนหนึ่ง ก่อนถูกคุมตัวแยกขึ้นรถคนละคันกับสามี จากนั้นตำรวจได้ขอดูยอดเงินในแอปพลิเคชัน ธนาคารในโทรศัพท์ พบว่าเธอมีเงินในบัญชีมากกส่า 360,000 บาท จึงพูดข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับเธอและสามีในข้อหาหนัก ก่อนพูดหว่านล้อมเรียกรับเงิน 300,000 บาท แลกกับการดำเนินคดีในข้อหาเสพ ซึ่งมีโทษเบากว่า เธอจึงยินยอมจะจ่ายให้

หลังจากนั้นตำรวจได้พาเธอขึ้นรถตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ตัวเมืองปทุมธานี 200,000 บาท และโอนเงินไปให้บัญชีสามีไปกดเพิ่มอีก 100,000 บาท ในพื้นที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยมีตำรวจประกบตัวอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นตำรวจคนที่อยู่บนรถกับเธอแค่สองคน ได้ขอมีเพศสัมพันธ์ โดยอ้างว่าเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยเหลือวิ่งเต้น เธอปฏิเสธแต่ตำรวจข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีหากไม่ยินยอม ก่อนบังคับพาเข้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งย่านรังสิต จนสำเร็จความใคร่ และขู่บังคับเรียกเงินเพิ่มอีก 300,000 บาท ส่วนสามีถูกส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้เสพ (ยาบ้า 2 เม็ด )

โดยทางด้านสามีผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนถูกตรวจค้นจับกุม ได้ซื้อยาเสพติดมาจากนายกอล์ฟ ที่เคยซื้อขายยาเสพติดกันมาอยู่บ่อยครั้ง คาดว่าเป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจเข้ามาจับจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ภรรยาต้องเสียเงินไปกว่า 300,000 บาท และถูกข่มขืน 

หลังรับเรื่อง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ได้ประสานไปยังโฆษกอัยการสูงสุดและกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยทันที ให้ดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อุ้มหายและทรมาน ซึ่งยืนยันว่าตำรวจทั้ง 7 นายนั้นเข้าข่ายการกระทำความผิดอย่างชัดเจน เพราะระหว่างการจับกุมไม่มีการบันทึกภาพวิดีโอเป็นหลักฐานตั้งแต่กระบวนการจับกุมจนถึงขั้นตอนพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ยังได้ประสานไปทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ช่วยตรวจสอบเรื่องเส้นทางยาเสพติดเพิ่มเติม โดยมองว่าเรื่องดังกล่าวผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะถือว่าเป็นการปล่อยปละละเลยทำให้ระบบการทำงานของตำรวจเสียหาย พร้อมย้ำว่าตัวเองจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ตามรายงานได้แจ้งว่า ตำรวจชุดจับกุมมี ร้อยตำรวจตรี 1 นาย ดาบตำรวจ 3 นาย จ่าสิบตำรวจ 1 นาย สิบตำรวจเอก 2 นาย

โดยทางด้าน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบมีการกระทำความผิดตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างมีโทษทางวินัยและอาญาต่อไป

ที่มา ไทยพีบีเอส

วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566

‘ลิซ่า BLACKPINK’ สุดปังหลังยอดฟอลโลว์ทะลุ 99 ล้าน ทำรายได้พุ่งกว่า 20 ล้านต่อโพสต์

ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ปังไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ เมื่อสร้างประวัติศาสตร์ การเป็นศิลปิน K-pop คนแรก ที่มีผู้ติดตามอินสตาแกรม 99 ล้านคน หลังจากทำลายสถิติต่างๆ มาไม่น้อย อาทิ มีผู้สตรีมเพลงถึง 1,000 ล้าน จากเพลง Money


เมื่อ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลิซ่า สามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ โดยเป็นคนเอเชียคนที่ 3 ที่มีผู้ติดตามแตะ 99 ล้าน ใช้เวลาเพียง 5 ปี หลังจากเปิดแอ๊กเคาต์นี้เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 


โดยทางเว็บไซต์ Hopper HQ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านการตลาดโซเชียลมีเดีย ได้จัดอันดับผู้มีชื่อเสียงจากทั่วโลก ที่มียอดฟอลโลเวอร์ สูงสุดแต่ละอันดับ และยังได้เปิดรายได้ต่อโพสต์ของเหล่าศิลปินแต่ละราย ประจำปี 2023 ซึ่งอันดับ 1 ยังคงเป็น คริสเตียโน โรนัลโด ที่มีผู้ติดตาม 596,848,846 คน ทำรายได้ต่อโพสต์ประมาณ 3,234,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยเมสซี่ ที่มีคนติดตาม 479,268,484 มีมูลค่าต่อโพสต์ที่ 2,597,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

ล่าสุด ได้มีการเปิดเผยข้อมูล ลิซ่า ขณะที่อยู่ในอัดับที่ 26 มียอดคนฟอลโลว์ 95,815,834 คน ว่าทำรายได้อยู่ที่ 575,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อโพสต์ หรือประมาณ 20,050,000 บาทต่อโพสต์



ที่มา มติชนออนไลน์


กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...