วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ชูวิทย์ เดินหน้าแฉต่อ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม' มีเงินทอน 30,000 ล้านได้ถูกโอนไปสิงคโปร์แล้ว

กลายเป็นมหากาพย์การแฉไปแล้ว เมื่อชูวิทย์ออกโรงแฉ 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เตรียมให้เป็นทุนเตรียมเลือกตั้ง ตั้งข้อสังเกตฮั้วประมูลตั้งแต่ต้น เงินทอน 30,000 ล้าน ถูกโอนไปสิงคโปร์


กรณีการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ที่ดูเหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะที่ผ่านมามีการเปิดประกวดราคาหาเอกชนเข้ามาดำเนินมากถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นผู้ล้มประมูลเอง หลังจากนั้นเปิดประกวดราคาครั้งที่ 2 โดยมีการกำหนด TOR ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น 

หลายฝ่ายจับตามองขั้นตอนการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ไม่เว้นแม้แต่ นายชูวิศย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉซ้ำ ถึงขั้นตอนการประกวดราคา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเกิดการทุจริตในกระบวนการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มครั้งนี้หรือไม่ 

โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมายังบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับนนำป้ายขนาดใหญ่ซึ่งแสดงให้เห็นข้อมูลในเปิดประกวดราคาก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม"

นายชูวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการประกวดจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ของ รฟม. โดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลนั้น มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายจุดโดยเฉพาะในขั้นตอนการประกวดราคา การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ร่างขอบเขตการทำงาน (TOR) ภายหลังจากที่มีการเปิดซองราคาไปแล้ว

โดยมีการกำหนดคะแนนด้านเทคนิคให้สูงขึ้น จนนำไปสู่การฟ้องร้องศาลปกครอง ต่อเนื่องไปจนถึงการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวเกิดการฮั้วกับเอกชน เพื่อที่จะรับเงินทอนและนำเงินไปเป็นทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ 

ทั้งนี้นายชูวิทย์ ได้แบ่งการประกวดราคา "รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ครั้งนี้ออกเป็น 5 สถานี ได้แก่ 

-สถานีโกง  การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ TOR ทั้งที่เปิดขายซองประกวดราคาไปแล้ว โดยรูปแบบเดิมเป็นการให้คะแนนค่าก่อสร้าง และเงินตอบแทนที่รฟม.จะต้องคืนให้แก่เอกชน 

-สถานีทุจริต  มีการร้องศาลปกครอง โดยในชั้นต้นไม่ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์แต่ในชั้นสูงสุดที่ประชุมใหญ่มีมติ 27:23 ให้สามารถเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้ 

-สถานีฮั้ว  ในกระบวนกำหนด TOR รอบใหม่หลังจากที่การประกวดราคาครั้งแรกถูกล้มไปนั้นมีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บางบริษัทเข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว

-สถานีเงินทอน  พบว่า 30,000 ล้านบาทเข้ากระเป๋าใคร โดยพบว่ามีการโอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์ผ่านธนาคารเอกชนระหว่างประเทศ 

-สถานีปลิว เปิดประมูลรอบสองกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ต้องเคยเป็นบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปาทานกับรัฐบาลเท่านั้น ทำให้เหลือบริษัทเดียว 

"เกิดการล็อกสเปกแบบน่าเกลียด ผมโทษใครไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลผมก็โทษไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็ต้องการลงสมัครพรรคการเมืองเพื่อหวนคืนกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ยกตัวเองโครงการใหญ่ที่เขาเอาเงินพวกเราไป เงินไป 70,000 ล้านแล้วมีเงินเข้าไปจ่ายค่าคอม 30,000 ล้าน โครงการรถไฟฟ้าสายส้มเป็นตัวอย่างโครงการรับเพียงตัวอย่างเดียว แสดงให้เห็นว่าระบบการทำงานพัง ' นายชูวิทย์กล่าว

ที่มา คมชัดลึก ออนไลน์

YG ปล่อยคลิปแนะนำ “ภริตา” (PHARITA) สมาชิกคนไทยวง BABYMONSTER

YG ENTERTAINMENT ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ได้เผยคลิปแนะนำตัวเด็กสาวจากประเทศไทย “ภริตา” (PHARITA) หนึ่งสมาชิกจาก BABYMONSTER ที่ขอวิ่งตามฝันไกลถึงเกาหลีและอยากเป็นศิลปินคุณภาพ


สาวก เค-ป็อป ให้ความสนใจอย่างมาก หลัง YG ENTERTAINMENT ประกาศเตรียมเดบิวต์ BABYMONSTER เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ที่มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ได้แก่ HARAM อายุ 15 ปี (เกาหลี) , AHYEON อายุ 15 ปี (เกาหลี) , RORA อายุ 14 ปี (เกาหลี) , ASA อายุ 16 ปี (ญี่ปุ่น) และ RUKA อายุ 20 ปี (ญี่ปุ่น) กับเด็กไทย 2 คน คือ “แคนนี่ - ริรชา พรเดชาพิพัฒ” อายุ 13 ปี และ “แพร - ภริตา ชายคง” อายุ 17 ปี โดยมีการทยอยปล่อยคลิปเปิดตัวสมาชิกทีละคนจนครบแล้ว

โดยล่าสุด YG สร้างความฮือฮาด้วยการปล่อยคลิปแนะนำตัวสมาชิกคนไทยอย่าง “แพร - ภริตา ชายคง” หรือ PHARITA


เนื้อหาในคลิปได้เล่าตั้งแต่ “ภริตา” เริ่มเข้าร่วมออดิชั่นด้วยคลิปเต้นเพลง How You Like That ของวง BLACKPINK เมื่อปี 2022 ซึ่งเธอผ่านการคัดเลือกจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 1,226 คน จากนั้นก็ได้เดินทางมาฝึกกับทาง YG ที่ประเทศเกาหลี และถูกประเมินในทุกเดือน ซึ่งจะเห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นของเธอตามลำดับ ซึ่งเธอทุ่มเทการซ้อมทั้งร้องและเต้น

“ภริตา” เล่าว่า เธอนั้นมี วง BLACKPINK เป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะ “พี่ลิซ่า” (ลลิษา มโนบาล) เพราะมีเสน่ห์บนเวทีและการเต้นที่ดูมีพลังมาก เลยอยากจะเป็นแบบนั้นให้ได้ ยอมรับว่าการฝึกยากแต่ก็เริ่มที่จะพบกับความน่าตื่นเต้นในระหว่างฝึกและต้องเต้นอย่างมีเสน่ห์ตอนอยู่บนเวที

นอกจากนั้น “ภริตา” ยังบอกถึงการมาตามหาฝันของเธอว่า “ฉันมาเกาหลีเพื่อที่จะมาทำตามความฝันค่ะ หลังจากนั้นทุกอย่างในชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไป ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการอยู่ในหอพักค่ะ”

“ฉันมาจากประเทศไทย ซึ่งไกลจากที่นี่ (เกาหลีใต้) 3,600 กิโลเมตร ด้วยความฝันที่อยากจะเป็นศิลปินของ YG ค่ะ นั่นคือคุณค่าความฝันของฉันและต้องการมันมากค่ะ ฉันต้องการที่จะเดบิวต์และทำการแสดงบนเวทีค่ะ ฉันรู้ว่ามันยากแต่จะทำให้ดีที่สุดและจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ” 

ทางด้านผู้อำนวยการผลิตค่าย YG “ยางฮยอนซอก” เผยว่า “จริงๆ ผมค่อนข้างเป็นห่วง ภริตา เพราะเขาอายุน้อยมากและเขาควรที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของคุณพ่อคุณแม่ แต่เขามาถึงที่นี่และตอนแรกเขาก็ไม่สามารถพูดภาษาเกาหลีได้เลย สำหรับผมเขาเหมือนนกตัวน้อยๆ ที่ตกลงมาจากรังแล้วเปียกปอนไปด้วยฝน ผมรู้สึกขอโทษและเป็นห่วงเธอมาก”

“ตอนนี้เขาเริ่มที่จะมีความมั่นใจและเริ่มที่จะมีรอยยิ้มแล้ว การดู ภริตา เติบโตขึ้นในช่วงนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมากครับ เมือเธอพูดภาษาเกาหลีได้เก่งขึ้นและคุ้นเคยกับประเทศเกาหลีแล้ว ผมว่าเธอจะค่อยๆ ปลดปล่อยความเครียดออกไปและกางปีกได้กว้างครับ นั่นคือสิ่งที่ผมหวัง”

ที่มา PPTV Online






กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...