วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566

ทนายดังเผยสงสารดีเจมะตูม น่าจะโดนหลายข้อหา ด้านต้นหอมประกาศอยู่ทีมผู้เสียหาย

ทำเอาชาวโซเชียลเสียงแตก หลังจากที่ทนายดังโพสต์ข้อความน่าสงสารดีเจมะตูม น่าจะหลายข้อหาที่โดน หลังจัดฉากรวบหญิงสาวแอบอ้างชื่อหลอกลวงลงทุน ทางด้านต้นหอมประกาศชัดทีมผู้เสียหาย 


จากกรณี ดีเจมะตูม เตชินท์ จัดฉากรวบหญิงสาวใส่กำไลอีเอ็มแอบอ้างสนิทสนมดีเจมะตูมและชักชวนคนมาร่วมลงทุนโดยบอกว่าดีเจมะตูมทำอยู่ด้วย คาร้านอาหารดัง พร้อมได้โพสต์ชี้แจงเหตุการณ์ในคลิปดังกล่าวว่า

“สำหรับกรณีคลิปใน Tiktok ที่มีการเผยแพร่อย่างแพร่หลาย ในการจับกุมมิจฉาชีพในร้านนัวร์เนีย bar อารีย์ (ร้านของมะตูมเอง) ก่อนอื่นมะตูมต้องขอกราบขออภัยในการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ และการทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้น ทางมะตูมยินดีให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอยืนยันตรงนี้ว่า มะตูมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ (ผู้หญิงในคลิป) มะตูมเพียงแค่ถูกมิจฉาชีพท่านนี้แอบอ้างชื่อ เพื่อไปหลอกเงินคนอื่นมาลงทุน และถ้ามีผู้เสียหาย จากการเอาชื่อมะตูมไปแอบอ้างในการทำธุรกิจเพิ่มเติม รบกวนติดต่อมะตูมด่วนเลยนะครับ สุดท้าย ความจริงคือความจริง มะตูมขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และจะอยู่เคียงข้างผู้เสียหาย เพื่อตามเงินคืนให้ได้มากที่สุดครับ ดีเจมะตูม”

โดยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า “น่าสงสารดีเจมะตูมนะครับ น่าจะหลายข้อหาเลยที่โดนนะ มะตูมนะครับ” หลังจากทนายดังโพสต์ข้อความดังกล่าวไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับความเห็นของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์

ในจำนวนนี้รวมถึงพี่สาวคนสนิท อย่าง ต้นหอม ศกุนตลา ที่มาคอมเมนต์แสดงความเห็นโพสต์ของทนายรณณรงค์ที่พาดพิงถึงดีเจมะตูมด้วยว่า “ทีมผู้เสียหายค่ะ”


ขณะที่ ชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ต่อว่า “จะจับโจรแอบอ้างฉ้อโกงมันต้องใจถึง ไม่งั้นโจรมันก็ได้ใจหนีรอดไปหลอกคนอื่นได้ ประชาชนเดือดร้อนใครกล้าลงมาช่วยได้บ้าง มั่วแต่มานั่งเข้าข้างโจรอยู่ได้ มันหลอกคนไปทั่วมีใครแจ้งเป่าประกาศให้ประชาชนระวังตัวไว้บ้าง มันมาในรูปร่างไหนบ้าง กว่าจะตามหาจนเจอมันไม่ง่ายนะคะตำรวจก็ยืนดูอยู่” ก่อนที่ดีเจต้นหอมจะมาคอมเมนต์ตอบว่า “+1”

ที่มา ข่าวสด


วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2566

ศิลปิน K-POP ขนทัพบุกไทยร่วมงานโกลเดน ดิสก์ อวอร์ดส์(Golden Disc Awards 2023)

ทำเอาสนามบินแตก เมื่อบรรดาศิลปินเกาหลี ร่วมพลยกทัพร่วมงาน "GDA 2023" ประเทศไทย ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้


งานประกาศรางวัล "Golden Disc Awards 2023"หรือ "GDA 2023" ปีที่ 37 ของเกาหลีใต้ ที่จะจัดขึ้นกลางกรุงเทพเป็นครั้งแรก รายชื่อบรรดาศิลปินเกาหลีแน่นเอียด ที่จ่อบินลัดฟ้า มาลงไทยแล้ว โดยมี มินนี่ (G)-IDLE , ซงจุงกิ , PSY นำทัพแรก

ต้อนรับต้นปีกระต่าย อย่างฮือฮา เมื่อกองทัพ ศิลปินเกาหลี เตรียมขนทัพมากรุงเทพ เข้าร่วมงาน "Golden Disc Awards 2023" (โกลเดน ดิสก์ อวอร์ดส์) หรือ "GDA 2023" งาน ประกาศรางวัล ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ย่างเข้าสู่ ปีที่ 37 แล้ว และครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย วันที่ 7 มกราคม 2023 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร

เปิดไลน์อัพแรกเรียกเสียงว้าวไปพอสมควร ยกศิลปินเกือบทุกเจน ระดับเบอร์ต้นๆ มากองไว้ที่ไทย ตบเท้าก้าวเข้างาน "GDA 2023" ได้แก่ ENHYPEN , LESSERAFIM , NewJeans , StrayKids , TREASURE , SEVENTEEN , Jhope , IVE , GIDLE , PSY , BIGNaughty , BEO , YOUNHA , KimMinSeok , Moonbyul , JayPark , LIMYOUNGWOONG พร้อมเปิดโฉม MC ระดับตัวแม่ และพ่อแห่งวงการเกาหลี ได้แก่ SungSiKyung , LeeDaHee , Nichkhun , ParkSoDam

ประเดิมที่สาวไทย ดังไกลถึงเกาหลี มินนี่ (G)-IDLE บินลัดฟ้า กลับบ้านเกิด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ม.ค.  ซึ่งเจ้าตัวมีรายชื่อในไลน์อัพ ส่วนเพื่อนร่วมวงกำลังเตรียมเดินทางตามมาในเร็วๆนี้  

ตามมาติดๆด้วยเหล่าศิลเกาหลีที่พร้อมใจเตรียมลัดฟ้าจากสนามบินอินชอนมาแลนดิ้งที่ประเทศไทย ได้แก่ พัคโซดัม ยุนฮา และ PSY ที่สร้างเซอร์ไพรส์สุดๆ คือ ซงจุงกิ พระเอกเบอร์ต้นของเกาหลี ทะลุไลน์อัพ บินตรงถึงไทย 


นอกจากนี้แล้ว ตลอดทั้งวันนี้จวบจนถึงวันที่ 7 ม.ค. แฟนคลับ สาวกติ่งเกาหลีจ่อเฝ้ารอศินปินที่กำลังเดินทางมางานนี้ทำเอาสนามบินแทบแตก เพราะศิลปินต่างทยอยมาไทยไม่พัก อาทิ StrayKids , TREASURE

ที่มา คมชัดลึก, NEWSEN

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2566

'ประยุทธ์' ปูทางยุบสภา เรียกหน่วยงานเศรษฐกิจ เร่งจัดงบปี67

'ผอ.สำนักงบประมาณ' เฉลิมพล เผยนายกฯ เรียก 4 หน่วยงานเศรษฐกิจวางกรอบงบปี 2567 เสนอ ครม.10 ม.ค.นี้ วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท ขาดดุล 5.93 แสนล้าน 


ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ได้เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประธานการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567  ร่วมกับ 4 หน่วยงานเศรษฐกิจประกอบไปด้วย กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

นายเฉลิมพล เผยกรอบการจัดทำงบประมาณปี 2567 ว่าจะเป็นไปตามที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2565 ที่เห็นชอบกรอบการจัดทำงบประมาณระยะปานกลาง 2567-2570 โดยงบประมาณ 2567 มีกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายรวม 3.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี 2566 ที่มีวงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.65 แสนล้านบาท โดยจัดทำงบประมาณขาดดุล 5.93 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณ 3% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางกรอบการคลังระยะปานกลางที่ต้องการทำให้งบประมาณไปสู่สมดุลในที่สุด ประกอบไปด้วยรายได้ของรัฐบาล 2.757 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลรวม 3.357 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% และมีหนี้สาธารณะคงค้าง 1.18 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.35% ต่อจีดีพี

คาดว่าเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2567 ยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 1-2% ชะลอลงจากปี 2566 ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.3-4.3% (ค่ากลาง 3.8%) โดยมีแรงสนับสนุนจากการขยายตัวดีขึ้นของการลงทุนภายในประเทศ สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

นายเฉลิมพล กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณปี 2567 สำนักงบประมาณทำแผนรองรับปัจจัยการเลือกตั้ง ซึ่งการจัดทำงบประมาณอาจล่าช้าออกไปจากที่กำหนดไว้ โดยมีการทำแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ไปพลางก่อน ไว้เป็นเวลา 6 เดือน และหากล่าช้าออกไปก็ขยายระยะเวลาการใช้งบไปพลางก่อนออกไปได้

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ครม.อาจต้องอนุมัติกรอบงบประมาณปี 2567 ก่อนที่จะมีการยุบสภา เพื่อให้สำนักงบประมาณนำกรอบไปหารือกับส่วนราชการเพื่อจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ โดยจะทำให้ส่วนราชการสามารถทำงบประมาณในระหว่างที่มีการเลือกตั้งได้ และเมื่อได้ ครม.ชุดใหม่เข้ามาจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณได้เลยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2566 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานกรอบเวลาการจัดการเลือกตั้ง โดยเริ่มนับจากวันที่ 23 มี.ค.2566 ที่อายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง และ กกต.ประกาศกำหนดวันรับสมัครวันที่ 3-7 เม.ย.

ส่วนวันที่ 30 เม.ย.เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งและนอกเขตเลือกตั้ง และวันที่ 7 พ.ค.เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไป โดยหลังจาก กกต.รับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. 95% แล้ว ภายใน 15 วัน ให้เรียกประชุมรัฐสภา (รัฐพิธี) คาดว่าอยู่ระหว่างวันที่ 22-25 พ.ค. จากนั้นไม่เกิน 10 วัน (ไม่เกิน 5 มิ.ย.) ต้องเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ โดยหลังโปรดเกล้าฯ ผู้ดำรงตำแหน่งประธาน และรองประธานสภาฯ แล้วให้เรียกประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ กกต.ไม่ได้กำหนดระยะเวลาเลือกนายกรัฐมนตรีว่าต้องดำเนินการภายในกี่วัน ซึ่งในปี 2562 ใช้เวลาเพียง 10 วัน โดยมีประชุมสภา วันที่ 25 พ.ค.2562 และวันที่ 5 มิ.ย.2562 มีการเลือกนายกรัฐมนตรี จึงคาดว่าครั้งนี้จะได้นายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่ภายในเดือน มิ.ย.2566

ที่มา โพสต์ทูเดย์ 

กระแสดราม่า ฟิล์ม รัฐภูมิ(film rattapoom) ที่คนยังจำไม่ลืม

เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงและการเมืองที่ผ่านมาของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มีเรื่องราวทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวที่มีผลกระทบอย่างหนักต่อช...